กอหญ้าเดินกลับมาที่ร้านเดิมอีกครั้ง คุณหญิงศศิธรซื้อเพียงเนคไทเส้นเดียวให้กับคริสต์ และแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ยังอยู่ ริต้าแสดงความไม่พอใจที่เห็น กอหญ้ากลับมา นั้นเป็นการบ่งบอกว่าเฟรเดลิคล้มเหลวในการทำงานในครั้งแรก
“เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า นี้ก็ใกล้เที่ยงแล้ว...” คุณหญิงศศิธรเอ่ยกับ กอหญ้ามากกว่าจะสนใจริต้าที่ยังเกาะติดคนทั้งสอง
Grrrrr Grrrrr เสียงโทรศัพท์ของกอหญ้าดังขึ้น เมื่อเธอหยิบขึ้นมาหน้าจอแสดงภาพคริสต์ กอหญ้ากล่าวขอตัวเดินออกจากตรงนั้น ริต้าแสดงออกถึงความอิจฉาเมื่อสายตาเธอเห็นภาพหน้าจอโทรศัพท์ของกอหญ้า คุณหญิงศศิธรทำเพียงยิ้มเพราะสายตาเธอเห็นพฤติกรรมผู้หญิงทั้งสองที่ทำให้เธอภูมิใจในตัว กอหญ้ามากขึ้นที่เธอไม่แสดงตนว่าตัวเองสำคัญกับคริสต์เพียงใด
“พี่คริสต์...”
“หญ้าอยู่ไหน?...”
“หญ้ามาซื้อของกับคุณแม่ค่ะ...พี่คริสต์ออกมาทานมื้อเที่ยงมั้ยคะ หญ้าอยู่กับคุณแม่ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ๆสถานีนี้เองค่ะ...”
“ก็ดีเหมือนกัน...งั้นเดี๋ยวพี่ถึงแล้วโทรหา” หลังจากวางสายกอหญ้าเดินกลับมาที่คนทั้งสองรออยู่และแจ้งว่าคริสต์กำลังเดินทางมาทานมื้อเที่ยงด้วย ริต้าแสดงออกถึงความดีใจ และเธอก็บอกว่าจะขออนุญาตแนะนำร้านอาหารเอง และย้ำว่าคริสต์ต้องชอบแน่ๆ ซึ่งคุณหญิงศศิธรกับกอหญ้าทำเพียงพยักหน้าและปล่อยให้ริต้าเป็นผู้ตัดสินใจ
คริสต์ขมวดคิ้ว ดวงตาหลี่มองโต๊ะที่นั่งกันอยู่สามคน “บ้าจริง...” คริสต์คำรามในคอเมื่อเดินเข้ามาใกล้โต๊ะในร้านที่กอหญ้าแจ้งให้ทราบ คริสต์เรียกพนักงานในร้านเมื่อคนทั้งสามเห็นว่าคริสต์มาถึงแล้ว
“ขอโทษนะครับ มื้อนี้ผมจะเป็นเจ้าภาพ ผมต้องการนั่งหัวโต๊ะ ช่วยจัดที่ให้หน่อย...” คริสต์พูดเบาๆ และหยิบแบ้งสีม่วงส่งให้พนักงานคนนั้น “...นี้ถือว่าเป็นทิปที่สร้างความยุ่งยากนะครับ”
คุณหญิงศศิธรยิ้มเล็กน้อย เมื่อริต้าที่กำลังจะทักทายคริสต์ เพราะโต๊ะสำหรับสี่ที่นี่ มีที่ว่างอีกหนึ่งคือข้างริต้า ที่คริสต์พยายามจะรักษามารยาทที่สุดแล้วที่ไม่ไล่ริต้าไป และสิ่งที่ไม่คาดคิดของทุกคน คริสต์ที่จบธุระกับพนักงานของร้าน เขาเดินก้มหน้าไปหอมแก้มคุณหญิงศศิธรและกอหญ้า เขาไม่ได้สนใจว่าคนอื่นที่ไม่รู้จักพวกเขาจะคิดอย่างไรกับภาพนี้ แต่เขาต้องการให้ริต้าเห็นว่าผู้หญิงที่มีความสำคัญกับเขามีเพียงแม่และเมียที่ชื่อกอหญ้าเท่านั้น
“หิวเหรอยัง?” คริสต์เอ่ยถามกอหญ้า พร้อมกับที่พนักงานจัดโต๊ะใหม่เสร็จเช่นกัน
“นิดหน่อยค่ะ...” กอหญ้าตอบตามความจริง และทั้งสามคนทำเหมือนมีเพียงพวกเขาแค่สามคน ริต้าทำเพียงแต่คิดในใจว่า “ด้านได้ อายอด”
คริสต์รับเมนูมาจากพนักงานและถามกอหญ้าต่อว่าสั่งอะไรไปบ้าง เมื่อกอหญ้าให้รายละเอียดรายการอาหารไปสี่อย่าง คริสต์จึงสั่งเพิ่มอีกสองอย่างเพื่อเป็นการอุดหนุนทางร้านที่เขามาสร้างความยุ่งยาก
“ริต้าดีใจจังค่ะ ที่วันนี้ได้มาทานข้าวกับคริสต์” ริต้าเลือกที่จะมองข้ามความห่างเหินของคริสต์ เธอพูดพร้อมเอื้อมมือไปเกาะกุมมือคริสต์ที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ครับ...” คริสต์ตอบเพียงเท่านั้น พร้อมขยับมือออกมา ริต้าเก็บอาการเสียหน้าไว้ เพราะวันนี้เธอตั้งใจแล้วว่าจะต้องป่วนให้ได้
“คุณกอหญ้าช่างมากมายในความสามารถนะคะ และดีใจด้วยนะคะ ที่งานเขียนได้นำมาทำละคร...” กอหญ้าหันมามองริต้าทันทีด้วยแววตาและสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอไม่เข้าใจ
“หมายความว่ายังไง?” กอหญ้าเอ่ยถามริต้าทันที
“คริสต์ คุณไม่ได้บอกน้องกอหญ้าเหรอคะ ว่าทำไมคุณต้องได้บทประพันธ์พ่ายกลซาตานมาสร้างเป็นละครในช่องของคุณ” ริต้าเห็นสีหน้าของคริสต์และคุณหญิงศศิธรแล้ว “สะใจ!!!” โชคดีจริงๆที่วันนั้นเธอกับ โม้นาไปกินอาหารญี่ปุ่นและได้ยินคุณหญิงศศิธรคุยกับเขมิกา
“คุณรู้อะไรมาก็พูดออกมาเลยก็ได้ค่ะ...” กอหญ้าที่เงียบมาโดยตลอดตั้งแต่ได้เจอกับริต้า พูดออกไปด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คริสต์เริ่มจับกระแสความไม่พอใจของกอหญ้าได้อย่างชัดเจน
คุณหญิงศศิธรคิ้วขมวดเข้าหากัน เพราะถึงแม้กอหญ้าที่นั่งตรงกลางระหว่างเธอกับคริสต์ที่นั่งหัวโต๊ะ แต่ริต้าก็นั่งอยู่ตรงหน้ากอหญ้าที่คุณหญิงศศิธรก็คิดอยู่แล้วว่าริต้าต้องมาอย่างไม่บริสุทธิ์ใจ
“อยากรู้มากฉันก็จะบอกให้ก็ได้...คริสต์เขาต้องการเพียงแค่บทประพันธ์ของเธอเท่านั้น...และฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้เลยอีกอย่าง คริสต์เขาทิ้งฉันไปเพราะเขาต้องทำตามคำสั่งของคุณแม่เขาที่ต้องได้บทประพันธ์ของเธอมาทำเป็นละคร” กอหญ้าเงียบอีกครั้งเมื่อพนักงานเข้ามาเพื่อนำอาหารที่สั่งมาจัดลงบนโต๊ะ
“หญ้า...” คริสต์ที่พยายามจะพูด กอหญ้าทำเพียงยกมือห้ามไว้ ไม่ให้เขาต้องพูดอะไรออกมา
“ทานข้าวกันเถอะค่ะ...” กอหญ้าเอ่ยเพียงเท่านั้น และเธอก็หันไปทางคุณหญิงศศิธรตักกับข้าวให้คุณหญิงศศิธรหลังจากที่พนักงานตักข้าวใส่จานให้กับทุกคนและบอกเพิ่มเติมว่ากับข้าวอีกสองอย่างกำลังจะตามมา แต่...
“คุณเจ้าขา...” กอหญ้าหันไปตามเสียงทักนั้น เฟรเดลิคเรียกกอหญ้าแสร้งทำเป็นบังเอิญที่เข้ามาในร้านนี้และเจอกับกอหญ้า
คริสต์ คุณหญิงศศิธร และริต้า ‘แปลกใจ’ นั้นเป็นความรู้สึกแรกของทั้งสาม ‘เจ้าขา’ คืออะไร แต่เมื่อคริสต์หันไปมองเจ้าของเสียง
“แก!…” คริสต์ลุกจากเก้าอี้ เข้าขวางระหว่างกอหญ้ากับเฟรเดลิคทันที คุณหญิงศศิธรที่รู้เรื่องทุกอย่างรีบลุกจากเก้าอี้และเข้าจับแขนของคริสต์ไว้
“กอหญ้า ถือว่าแม่ขอร้อง เราสามคนกลับตอนนี้เลยได้มั้ยจ๊ะ” กอหญ้า ‘งง’ ตอนนี้ความรู้สึกของเธอเป็นแบบนี้ และนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคริสต์โกรธและมีความไม่พอใจอย่างมาก เขาสองคนมีปัญหาอะไรกัน? ความสงสัยเกิดขึ้นกับเธอ แต่เธอก็พยักหน้าทำตามคำของคุณหญิงศศิธรที่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ กอหญ้าเปิดกระเป๋าหยิบแบ้งพันออกมาสองใบวางไว้บนโต๊ะ และยอมเดินออกจากร้านโดยมีคริสต์ที่ยอมเดินออกจากร้านตามการดึงของคุณหญิงศศิธรที่ตามกอหญ้าออกไป
ริต้าเลือกที่จะยิ้มและยืนมองเงียบๆ เพราะแผนที่เธอวางไว้ก็สำเร็จไปกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เมื่อคริสต์เป็นอย่างที่เธอคาดการณ์ไว้
คริสต์ที่บอกกับกอหญ้าว่าเขามาด้วยรถไฟฟ้า คุณหญิงศศิธรจึงนั่งอยู่เบาะหลังในรถของมินิคูเปอร์ของกอหญ้า และกอหญ้าก็ประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัยที่มีคริสต์นั่งอยู่ข้างคนขับ ‘เงียบ’ บรรยากาศในรถตอนนี้เป็นแบบนี้
กอหญ้าเมื่อกลับมาถึงบ้านของคริสต์ รถเลี้ยวเข้ามาในบ้าน คริสต์ลงจากรถและมาเปิดประตูให้คุณหญิงศศิธรลงจากรถ เป็นจังหวะที่กอหญ้าก็ลงจากรถมาเช่นกันโดยที่ไม่ดับเครื่องยนต์ เธอทำเพียงยืน
“สวัสดีค่ะคุณแม่” กอหญ้ายกมือทำความเคารพคุณหญิงและรีบกลับเข้าไปในรถ ‘ล็อค’ เสียงล็อคประตูรถทันทีที่กอหญ้าปิดประตู คริสต์ที่ช้าเพียงเสี้ยววินาที เขาช้ากว่ากอหญ้าดึงประตูไว้ไม่ทัน
“หญ้า!...ออกมาคุยกันก่อน” กอหญ้าไม่หันไปมองเธอทำเพียงมองกระจกข้างว่าคุณหญิงศศิธรและคริสต์จะไม่ได้รับอันตรายถ้าเธอจะเคลื่อนรถออกไป “หญ้า หญ้า” คริสต์ตะโกนตามหลังแต่ก็ไม่ทำให้กอหญ้าหยุดหรือชะลอรถแต่อย่างใด คริสต์ถอนหายใจสีหน้าแสดงออกถึงความกังวลใจอย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่สามารถตามกอหญ้าไปได้ทันที เพราะรถเขาอยู่ที่สถานี ส่วนรถคันอื่นกุญแจก็อยู่ในบ้านของคุณหญิงศศิธร
“คริสต์ ใจเย็นๆลูก ถึงแม้ว่าหนูหญ้าจะเป็นคนมีเหตุผล แต่อย่าลืมว่ายังไงเธอก็ยังไร้เดียงสา ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของริต้าหรอกลูก...ไม่แปลกที่เธอจะต้องโกรธ หรือเสียใจบ้าง”
“ครับคุณแม่ คุณแม่เข้าบ้านก่อนเถอะครับ คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะครับเดี่ยวเรื่องของกอหญ้าผมจัดการได้ครับ...ไปครับ คุณแม่ยังไม่ได้ทานมื้อเที่ยงเลยครับ...” คริสต์พยุงคุณหญิงศศิธรเข้าบ้านและสั่งให้เด็กในบ้านจัดอาหารเที่ยงให้ก่อนที่เขาจะขอตัวเดินไปหยิบกุญแจรถและเดินไปยังโรงจอดรถ และมุ่งหน้าไปยังคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาชั้นที่ยี่สิบห้า ที่เขามั่นใจว่ากอหญ้าต้องกลับไปที่นั้นแน่นอน