12 มิ.ย. 2021 เวลา 04:20 • หนังสือ
พ่ายกลซาตาน [Artificial Devil Love] ตอนที่ 76
‘…ยามค่ำในวันเดียวกัน’
คริสต์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำในชุดนอนโดยที่ในมือมีผ้าขนหนูผืนเล็กติดมือมาขณะที่กำลังเช็ดผม สายตาเข้มมองกอหญ้าที่นั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงในมือถือปึกกระดาษบทโทรทัศน์พ่ายกลซาตาน รอยยิ้มก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าคมเมื่อย้อนนึกไปตอนที่กอหญ้ากลับเข้ามาในห้องทำงานเขาพร้อมปึกกระดาษบทโทรทัศน์พ่ายกลซาตาน ‘สำเร็จ’ สิ่งที่คริสต์ในตอนนั้น
“หญ้า...นั้นมันบทโทรทัศน์พ่ายกลซาตานนะ...ไม่ใช่หนังสือก่อนสอบ”
“ใครเขาจะมากความสามารถเท่าคุณพระเอกละค่ะ”
“คุณพระเอกอยากแสดงกับคุณนางเอกที่สดใสตามบท เป็นนักเขียนนะครับ ไม่ใช่ผู้นำทางการเมืองที่จะต้องเครียดขนาดนั้น”
“หญ้าคิดถูกคิดผิดเนี๊ยะ ที่ยอมรับเล่นละครเรื่องแรกในชีวิต มีหวังช่องพี่คริสต์เจ็งเพราะหญ้าแน่ๆ”
“วางความคิดเหล่านั้นทิ้งไป...ทำตามที่พี่บอก” คริสต์พูดและนั่งบนเตียงข้างกายกอหญ้าและดึงปึกกระดาษในมือกอหญ้าปิดและวางไว้บนเตียง “ยิ้ม...” กอหญ้าทำตามคำสั่งแรก คริสต์ทำเพียงมองหน้ากอหญ้า “หน้าพี่ดูสยดสยองขนาดนั้นเลยเหรอ” คริสต์พูดต่อหลังจากที่กอหญ้ายิ้มตามคำสั่ง
“หญ้าน่าเกลียดขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“หญ้าไม่ได้น่าเกลียด แต่รอยยิ้มของหญ้าที่พี่เห็น คือ รอยยิ้มของหญ้าเหมือนกับว่าหญ้ากำลังมองสิ่งน่าเกลียดขี้เหร่อะไรประมาณนั้น” กอหญ้ายิ้มและหัวเราะออกมากับสิ่งที่ได้ยิน
“หญ้าเปลี่ยนใจยังทันมั้ยคะ?”
“ไม่ทันแล้ว” คริสต์ตอบกลับอย่างอ่อนโยน และโน้มหน้าไปหอมแก้มเนียนนั้นข้างหนึ่งและถอยออกมา คริสต์ยิ้มตอบให้กับรอยยิ้มของกอหญ้า “ผ่าน ฉากยิ้ม”
“อะไร?” กอหญ้าถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“เมื่อกี้รู้สึกยังไงถึงยิ้มออกมา”
“ก็ดีไง...”
“มันคือการแสดงอย่างหนึ่งที่ร่างกายต้องถ่ายทอดออกมาให้คนดูเขาเห็นและเชื่อว่าเรากำลังเป็นแบบที่เราต้องการให้เห็น...การเป็นนักแสดงไม่ได้ง่ายแต่บทนี้ หญ้าเป็นในแบบที่หญ้าเป็น เมื่อถึงเวลาที่ต้องยิ้ม ยิ้มแบบตัวหญ้า พูดเราก็แค่เปลี่ยนไปตามบทพูดที่ถูกกำหนดไว้เราเพียงแค่ใส่อารมณ์และความรู้สึกลงไป”
“ค่ะ…” กอหญ้าตอบแค่นั้นและมอบรอยยิ้มให้กับผู้ชายตรงหน้าที่เขาเปลี่ยนสถานะไปแล้ว คือ เป็นอะไรก็ได้สำหรับกอหญ้าในยามที่เธอต้องการใคร ผู้ชายตรงหน้าก็จะเป็นได้เพื่อเธอทันที ซึ่งตอนนี้เธอต้องการครูสอนการแสดงเขาก็สามารถเป็นให้เธอได้จริงอย่างที่พี่เขมบอก
“งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาต่อบทกันนะ” คริสต์พูดพร้อมกับขยับร่างกายเข้าหากอหญ้า
“จะ...จะทำอะไร?” กอหญ้าขยับเบียดแผ่นหลังแนบติดหัวเตียงมากขึ้น
“ต่อบทไง...บทจูบ...และบทเลิฟซีน” สิ้นเสียงคริสต์ ปากทั้งสองสัมผัสกันอย่างรวดเร็ว ประสบการณ์ ความต้องการ ของร่างกายและจิตใจต่างก็ไม่มีการ ปฎิเสธ กอหญ้าคุ้นเคยกับความต้องการของคริสต์ และคืนนี้เขาให้เธอเป็นผู้นำและขับเคลื่อนความก้าวหน้าของร่างกายที่เปลือยเปล่าอย่างรวดเร็ว
คริสต์ครางออกมาเมื่อคนเหนือร่างเขากำลังดูดเลียพื้นผิวบริเวณแผงอกที่มีไรขนอ่อนปกคลุมบ้างเล็กน้อย มือแข็งแรงกว่าลูบไล้บีบขย้ำสะโพกกลมที่เสียดสีถูไถอยู่ที่หน้าขาเขา “ซี๊ดดด....โอ้ววววว...”
กอหญ้าไล่ลงต่ำเพื่อหาจุดหมายปลายทางที่แสดงตนรอเธออยู่ ปากแดงค่อยๆเปิดกว้างขึ้นหลังจากกลืนน้ำลายลงคอยามที่แก่นกายของคริสต์สะท้อนในดวงตาของเธอ
“โอ้วววว...หญ้าที่รัก” คริสต์ครางออกมาเมื่อมือเล็กประคองแก่นกายนั้นและค่อยๆหายเข้าไปในโพรงปากเล็กทีละน้อย บทเรียนนี้กอหญ้าเคยได้รับการสั่งและสอนมาแล้วเธอทำหน้าที่ได้อย่างถูกใจคริสต์ที่กรามแกร่งขบกันแน่นยามที่โพรงปากนั้นขยับถูไถให้แก่นกายเข้าๆออกๆ จากเชื่องช้าเป็นถี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ คริสต์ปล่อยร่างกายให้กอหญ้ากระทำตามแต่พอใจในทุกจังหวะและเวลาตามแต่เธอต้องการ สิ่งเดียวที่คริสต์ทำอยู่ตอนนี้คือรับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นไม่ขาดตอนไปทั่วร่างกายตน
เวลาที่ผ่านไปหลายนาทีคริสต์ยื่นมือมาจับศีรษะของกอหญ้าไว้เมื่อความซ่านเสียวถึงขีดสุดที่เกิดขึ้นจากริมฝีปากชั้นยอดของกอหญ้าทำให้คริสต์ยินยอมปลดปล่อยสารธารร้อนระอุเข้าสู่โพรงปากนั้น พร้อมคำสั่งที่สั่นพร่า “กลืนลงไป” ดังกึกก้องพร้อมกับอาการเกร็งกระตุกของร่างกาย
กอหญ้ารีบทำตามนั้นเพราะเธอไม่สามารถขยับถอยหนีได้เมื่อมือแข็งแรงของชายใต้ร่างยึดแน่นให้เธออยู่กับที่พร้อมน้อมรับคำสั่งนั้น เสียงครางแห่งความพึงพอใจของคริสต์ดังออกมา เมื่อสิ้นเสียงแห่งความสุขสม มือใหญ่ดึงร่างบางออกจากแก่นกายนั้นและประกบปิดปากเล็กล่วงล้ำลิ้นร้ายเข้าดื่มกินความหวานของตนที่ยังตกค้างในโพรงปากหวานนี้ เพิ่มรสชาติความหวานให้น่าลิ้มลองไปอีก
เกมพลิกจากคนด้านบนเปลี่ยนเป็นด้านล่าง ความแข็งแรงที่กอหญ้าเข้าใจว่าสงบแล้วด้วยฝีปากของตนตอนนี้กำลังขยับลุกกายเข้าสู่กายสาวอย่างเชื่องช้าและตั้งใจของเจ้าของที่ตรึงสะโพกกลมและขยับเรียวขาเปิดทางสะดวก
“อื้ออออ...” กอหญ้าร้องเสียงในคอได้เพียงเท่านั้น เมื่อร่างกายที่อยู่เบื้องล่างขยับขึ้นลงตามจังหวะการกระแทกของคนด้านบนอย่างรุนแรง เร้าร้อน ‘อีกครั้ง’ ในช่วงเวลาที่ติดต่อกันที่กอหญ้าต้องเจอกับบทรักที่เปลี่ยนไปของคริสต์ แต่ช่างแปลกเหลือเกิน ‘ติดใจ’ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับเธอ
คริสต์ลืมตาตื่นในตอนเช้า รอยยิ้มปรากฎเมื่อกายเขาอบอุ่นเพราะร่างเล็กที่นอนเบียดเคียงกาย ขอแค่เป็นแบบนี้ในทุกๆเช้า คริสต์ต้องยับยั้งความต้องการที่อยากจะนอนโอบกอดร่างข้างกาย ลุกลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเพื่อการทำงานที่เป็นกิจวัตรประจำที่เขาต้องทำเยี่ยงคนทำงานแตกต่างจากเมื่อก่อนที่เขาเป็นเพียงเงาของแม่ ตั้งแต่ที่เขามีห้องทำงานเป็นของตัวเองทุกอย่างจึงต้องมีแบบแผนในแบบที่ควรจะเป็น
“ตื่นเช้าจัง” กอหญ้าเอ่ยกับคริสต์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำที่มีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอวหลวมๆ
“…ขอโทษนะครับที่ทำให้หญ้าตื่น พี่จะเข้าสถานี ต้องเคลียงานให้เรียบร้อยก่อนที่จะเปิดกล้องละครนะ...” คริสต์พูดในขณะเดินเข้าไปยังวอล์คอินเปิดประตูทิ้งไว้
“อย่างนี้เอง...แล้วหญ้าต้องทำอะไรบ้างคะ?” กอหญ้าที่ลุกจากเตียงเก็บเตียงให้เรียบร้อย
“ถ้าเบื่อๆ ก็ตามไปด้วยก็ได้นะ ขอโทษอีกครั้งนะครับที่ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาให้...” กอหญ้าแอบยิ้ม
“เริ่มพูดเหมือนดารานักแสดงเลยนะคะ” คริสต์หันมายิ้มกับคำแซวของกอหญ้าและเดินเข้ามาใกล้ขณะที่มือจัดเนคไทไปด้วย
“พี่ไปก่อนนะ...” คริสต์พูดพร้อมกับก้มไปหอมแก้มกอหญ้า
“พี่คริสต์ไม่ทานมื้อเช้าเหรอคะ?”
“เดี๋ยวพี่ไปกินที่บ้านคุณแม่...หญ้าตามสบายเพราะนี้ยังเช้าอยู่มาก” กอหญ้าพยักหน้าเข้าใจและเขย่งเท้าหอมแก้มคริสต์ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องนอนไป กอหญ้าเดินเข้าห้องน้ำไปกว่ายี่สิบนาทีที่เธอออกจากห้องน้ำอีกครั้ง เสียงเคาะประตูหน้าห้องนอนทำให้กอหญ้าที่ยังอยู่ในเสื้อคลุมเดินไปเปิดประตู
“สวัสดีค่ะคุณแม่...” กอหญ้ากล่าวทักทายพร้อมยกมือที่ทำเป็นประจำทุกวันที่พบกับคุณหญิงศศิธรในเช้าวันใหม่
“ขอโทษนะจ๊ะที่แม่มากวนแต่เช้า”
“คุณแม่มีอะไรเหรอเปล่าค่ะ” กอหญ้าประคองคุณหญิงศศิธรเข้ามาในห้องนอนและคุณหญิงก็นั่งที่ปลายเตียงนอนที่ถูกเก็บเรียบร้อย
“วันนี้หญ้ามีธุระต้องไปไหนเหรอเปล่า”
“ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ หญ้าคิดว่าถ้าไม่มีอะไรก็จะตามพี่คริสต์ไปที่สถานีนะคะ...”
“ดีเลย...งั้นวันนี้หญ้าไปซื้อของกับแม่นะ”
“ค่ะ...คุณแม่จะไปซื้ออะไรเหรอคะ”
“ไม่ใช่ของแม่หรอก ของคริสต์เขาต่อไปก็ให้เป็นหน้าที่ของหญ้า ก็เป็นพวกของใช้เสื้อผ้าของเขา ตาคริสต์เขาไม่มีเวลามาดูแลพวกนี้ มีแต่แม่และพี่เขมที่ต้องคอยช่วยกันจัดหาและซื้อมาให้โดยตลอด” กอหญ้าฟังและจริงอย่างที่คุณหญิงศศิธรบอกว่าต่อไปเป็นหน้าที่ของเธอ จะว่าไปมันก็ไม่ใช่เรื่องที่มหัศจรรย์อะไร แต่เป็นเรื่องที่เธอไม่เคยคิดถึงว่าเธอต้องทำให้กับคริสต์ด้วยอีกคน เพราะเรื่องแบบนี้เธอต้องทำให้กับพ่อของเธอเป็นประจำอยู่แล้วแม้แต่อยู่เมืองไทย กอหญ้าก็ต้องย้ำบอกกับอันโตว่าต้องไปซื้อเสื้อผ้าสำหรับตัวเองด้วย เมื่ออากาศเปลี่ยนเสื้อตัวนั้นตัวนี้ของอันโตมันเก่า และเธอต้องยิ้มยามที่อันโตออกไปซื้อเสื้อผ้าตามที่เธอคอยเตือน อันโตก็จะต้องส่งภาพมาให้เธอดูและถามว่าตัวไหนดี...
“ค่ะคุณแม่...”
“งั้นเดี๋ยวแม่ลงไปรอข้างล่าง...” ขณะที่คุณหญิงศศิธรกำลังลุก... “เอ่อ!...เกือบลืม ที่แม่ขึ้นมาจะขึ้นมาดูเสื้อตัวหนึ่งของตาคริสต์ ที่แม่บ้านบอกว่า ถูกสั่งไว้ว่าห้ามใครเอาไปซัก ให้แขวนไว้ในตู้ ไม่รู้อะไรของเขา...”
“เสื้อ ทำไมเหรอคะ”
“เป็นเสื้อแจ็คเกตกึ่งหนังสีเข้มนะ...ปกติตัวนี้เขาจะใส่บ่อย ตั้งแต่ใส่ครั้งสุดท้ายเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ก็ไม่หยิบมาใส่และมีสั่งห้ามทุกคนยุ่งด้วย” กอหญ้าคิ้วขมวดและเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของคริสต์และเปิดดูทีละตู้ ดวงตาคมเบิกกว้างขึ้น เมื่อมีอยู่หนึ่งช่องของบานเล็กที่มีเสื้อแขวนอยู่เพียงตัวเดียว
“คุณแม่หมายถึงตัวนี้เหรอเปล่าคะ?” กอหญ้าจับไม้แขวนและเอาออกมาจากตู้ให้คุณหญิงศศิธรดู รอยยิ้มบนใบหน้าของกอหญ้าทำให้คุณหญิงศศิธรแปลกใจเมื่อยืนยันว่าตัวนี้แหละ เสื้อตัวที่กอหญ้าฝากกิ๊กให้ไปคืนเจ้าของวันที่เธอเจอกับเขาเป็นครั้งแรกในลุ๊คของกอหญ้าตัวจริง...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา