‘ณ อาคารสถานีโทรทัศน์’
“จะไปไหน?” คริสต์รั้งแขนกอหญ้าบนชั้นสูงสุดของอาคารสถานี
“…ไปห้องทำงาน”
“ทางนั้นเป็นห้องของประธานบริหาร...ห้องทำงานพี่อยู่ทางนี้” กอหญ้าขมวดคิ้วมอง ก็จริงอย่างที่คริสต์บอกว่าทางนั้นเป็นห้องทำงานประธานบริหารที่ครั้งที่แล้วเธอก็ไปที่ห้องนั้น
กอหญ้าเดินตามแรงจูงของคริสต์ที่เดินไปอีกด้าน จนถึงประตูห้องสีดำที่คริสต์ผลักเข้าไป ‘ห้องทำงาน’ มันคือห้องขนาดสี่คูณสี่ตารางเมตร เล็กกว่าหลายเท่ากับห้องที่เธอเคยมาก่อนหน้านี้แต่ข้างในมีโต๊ะทำงานขนาดสองเมตรที่เกือบจะเต็มพื้นที่ห้อง คริสต์บอกให้กอหญ้านั่งที่โซฟาขนาดหนึ่งเมตรกับโต๊ะเล็กตรงหน้า ส่วนตัวเองก็เดินไปยังหลังโต๊ะที่มีเพียงโต๊ะเดียว
คริสต์แค่ยิ้มให้กับกอหญ้าที่เลิกคิ้วเป็นเชิงถามเขา ก็ไม่แปลกที่เธอจะงง ก็อย่างที่บอกก่อนหน้านี้เขาไม่มีห้องทำงานของตัวเองด้วยซ้ำ เมื่องานตลอดสองสามปีมานี้ที่เขาทำแต่ลงชื่อประธานบริหารคือคุณหญิงศศิธรมาโดยตลอด แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนที่แม่เขายืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่า คริสต์ มาร์ติน เชียร์เลอร์ มีตัวตนไม่ใช่เงาของเธออีกต่อไป แต่เนื่องจากตำแหน่งเดียวที่คริสต์จะมีใต้ชื่อเขา คือ ประธานเท่านั้น แต่ประธานจะมีสองคนไม่ได้และคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับอย่างสมบูรณ์ของเหล่าคณะกรรมการ เขาจึงต้องทำงานพิสูจน์ว่าเขามีความสามารถที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้และจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้มากมาย เขาจึงได้เพียงแค่ห้องทำงานชั่วคราวที่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชนและเหล่าคณะกรรมการ
Grrrrrrrrr…. เสียงเรียกเข้าของระบบโทรศัพท์ภายในดังขึ้น
“ครับ!”
“สวัสดีค่ะคุณคริสต์ เช้านี้ท่านจะรับอะไรดีคะ” เสียงหญิงสาวดังตามสายอย่างเป็นประจำทุกวันตั้งแต่ที่คริสต์มีห้องทำงานของตนตั้งแต่สัปดาห์ก่อน
“ขอน้ำเปล่าสองที่”
“ค่ะ...บทโทรทัศน์ ‘พ่ายกลซาตาน’ ให้นำเข้าไปได้เลยมั้ยคะ?” คำถามที่สองเรียกความสนใจของกอหญ้าได้อย่างที่คริสต์คาดไว้
“…อืม…” คริสต์ตอบแค่นั้นและกดตัดสาย และหันมาสนใจกับงานของตนต่อโดยที่ไม่หันไปมองกอหญ้าที่กำลังตื่นตัวกับบทโทรทัศน์ ‘พ่ายกลซาตาน’
ก๊อก ก๊อก ... เสียงเคาะประตูนำก่อนที่หญิงสาวที่มาพร้อมถาดในมือ วางแก้วน้ำทรงสูงไว้ที่โต๊ะเล็กตรงหน้ากอหญ้าเมื่อกอหญ้ากล่าวขอบคุณ เธอก็เดินต่ออีกนิดที่โต๊ะใหญ่แก้วน้ำกับปึกกระดาษที่เย็บไว้อย่างสวยงามที่ด้านหน้าตัวโต บทโทรทัศน์พ่ายกลซาตาน
กอหญ้าลุกจากที่นั่งทันทีเมื่ออยู่ตามลำพังกับคริสต์ในห้องทำงาน คริสต์เงยหน้ามองกอหญ้าที่มายืนอยู่หน้าโต๊ะเขา วันนี้กอหญ้าอยู่ในชุดลายดอกไม้สีน้ำเงินที่เป็นกางเกงขาสั้นเข้าชุดกัน
คริสต์เลิกคิ้วมองกอหญ้าที่เอาแต่เงียบ มีแต่สายตาที่เคลื่อนไหวไปมา ระหว่างหน้าเขากับบทโทรทัศน์บนโต๊ะเขา คริสต์เอื้อมมือไปหยิบมันมาและส่งให้เธออย่างเข้าใจในท่าทางนั้น ว่าเธออยากเห็นเหลือเกิน และปึกนี้ของคริสต์จะหนากว่าของทุกคนเพราะของเขาเป็นฉบับบทโทรทัศน์ของทุกตัวละครไม่ใช่เฉพาะบทนักแสดงนำชาย
กอหญ้ายิ้มและรับมาทันที เธอหันกลับไปยังที่ของตนและตั้งหน้าตั้งตาก้มดูอย่างที่เธอไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มของคริสต์ ที่แสดงชัดเจน ‘ตามแผน’
เวลาผ่านไปจากนาทีเป็นเกือบชั่วโมง คริสต์ที่เงียบมาตลอดเช่นกัน เงยหน้ามองกอหญ้าที่ยกนิ้วขึ้นมาเหมือนกำลังนับอะไรสักอย่าง...
กอหญ้าที่ดวงตาจับจ้องอย่างละเอียดสำหรับบทของนักแสดงนำฝ่ายชาย ‘จูบ’ จูบ จูบ..... โอ้ย!!!!!
“หญ้า!...เป็นอะไร” คริสต์รีบลุกจากเก้าอี้เมื่อเวลาเกือบชั่วโมงที่ห้องนี้เงียบสงบจู่ๆเสียงของกอหญ้าก็ร้องขึ้นมา
“ค่ะ…” กอหญ้าเงยหน้าหันไปมองคริสต์อย่างไม่เข้าใจคำถาม
“พี่ถามว่าเป็นอะไร” คริสต์พูดพร้อมกับนั่งลงข้างๆกายกอหญ้าที่หันหน้ามาทางเขา
“หญ้าเหรอ?...เป็นอะไร?...ไม่เข้าใจ?”
“ก็เมื่อกี้หญ้าร้องเสียงดังออกมา...”
“ห๊า!!!…หญ้าร้องออกมาเหรอคะ?” “ตายแล้ว!นี้เราคิดดังขนาดนั้นเลย เหรอ” กอหญ้าก้มหน้าและคิดต่อในใจ
“มีอะไรเหรอเปล่า?...” คริสต์ถามทำเป็นไม่เข้าใจ ทั้งๆที่ในใจร้องตะโกนลั่นในหัวเพราะกอหญ้ากำลัง ‘หึง’
“หญ้าขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ...” กอหญ้าพูดจบรีบลุกขึ้นยืนทันที
“ไปที่ห้องทำงานคุณแม่ก็ได้นะ...” กอหญ้าหันมาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ และเดินออกจากห้องทำงานชั่วคราวของคริสต์ไป โดยที่วางบทโทรทัศน์ไว้ คริสต์หยิบขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “หน้าที่พี่เขมต่อครับ” คริสต์พิมพ์บทความนั้นในไลน์ระหว่างเขากับเขมิกา