“Nike” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้โฆษณาที่แสดงจุดยืนผ่านการสนับสนุน Social Movement ทั้ง 3 แคมเปญกว่าครึ่งทศวรรษที่ประชาชนให้การยอมรับว่าเป็นการสร้างความดึงดูดใจสากล (Universal appeal empowerment)”
การตลาดของ Nike เชื่อในการกล้าแสดงจุดยืนของตนเองมาตลอดผ่านวลีจงเชื่อในบางสิ่งอย่าง แม้จะต้องสูญเสียทุกสิ่งที่อย่างไป ‘Believe in something, even if it means sacrificing everything.’ ก่อนหน้าก็มีเหตุการณ์ที่ Nike ใช้วิธีแสดงจุดยืนผ่านการสนับสนุนการเคลื่อนไหวสังคม (Social Movement) รวมเหตุการณ์ทั้ง 3 ครั้ง วันนี้รีวิวทุกอย่างที่อ่านออกจะพามาดูโฆษณาทั้ง 3 ตัวนี้และผลตอบรับกันค่ะ
> เหตุการณ์แรกปี 2016 มาจากโฆษณาที่ชื่อ ‘Crazy Dream’ ความยาว 2 นาทีที่มาพร้อมกับวลีข้างต้น จากการสนับสนุน Colin Kaepernick นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลผู้คุกเข่าระหว่างการเปิดเพลงชาติสหรัฐก่อนการแข่งขัน เพื่อต้านการเหยียดสีผิวและเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาคุ้มครองปกป้องสิทธิของคนผิวสีให้เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาที่ออกมาเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปี ของสโลแกน “Just Do It”