17 มิ.ย. 2021 เวลา 07:45 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
หนังทำเงินเกาหลีสุดสัปดาห์ 11-13 มิถุนายน ‘F9’ สร้างสถิติใหม่ในยุคโควิด-19 ขณะที่สถานการณ์โรงภาพยนตร์ยังไม่ค่อยสดใส หนังในประเทศอยู่ในสภาพสุ่มเสี่ยง
จากรายงานหนังทำเงินในเกาหลีใต้สุดสัปดาห์ที่ 11-13 มิถุนายน ของวาไรตี หนัง ‘F9’ กลายเป็นหนังต่างประเทศที่มีผู้ชมมากที่สุดในเกาหลี นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ขณะที่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังฮอลลีวูดและหนังญี่ปุ่นยังคงครองอันดับในตารางหนังทำเงิน
อันดับ 1 ตกเป็นของ ’Cruella’ ที่ยืนระยะได้แข็งแรงจากการฉายในสุดสัปดาห์ที่สาม และแซงหน้าหนังที่เปิดตัวที่หลัง ‘The Conjuring: The Devil Made Me Do It’ เข้าวินสบายๆ โดยทำรายได้อีก 1.82 ล้านเหรียญสหรัฐ ตกจากสัปดาห์ที่สองของการฉายแค่ 17% นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อ 26 พฤษภาคม หนังทำเงินไปแล้ว 8.29 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
หนัง ‘The Conjuring 2’ ทำเงินอีก 1.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้ตกลงจากสัปดาห์เปิดตัว 46% หนังทำเงินไปแล้ว 5.51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับจากวันเปิดตัว 3 มิถุนายน
‘Wrath of Man’ ที่เพิ่งเปิดตัวมาเป็นที่สาม ทำรายได้ 967,000 เหรียญสหรัฐฯ จากวันศุกร์-วันอาทิตย์ และนับจากวันเปิดตัว 9 มิถุนายน หนังทำรายได้ไป 1.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
‘F9’ ตกจากอันดับ 3 ลงมาอยู่ที่ 4 รายได้สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 746,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่ก็มากพอที่จะทำให้กลายเป็นหนังที่ทำรายได้มากที่สุดในปี 2021 ของเกาหลี เมื่อรายได้รวมเพิ่มเป็น 18.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทำยอดขายตั๋วไปถึง 2.19 ล้านใบ นับจากเปิดตัวฉายเมื่อ 19 พฤษภาคม แท้จะเอาชนะแชมป์เก่าอย่าง ‘Demon Slayer The Movie: Mugen Train’ และ ‘Soul’ ที่เคยเป็นหนังทำเงินในเกาหลีมากที่สุดของปี 2021 ได้ และเอาชนะ ‘Tenet’ กลายเป็นหนังนำเข้าที่ทำเงินสูงที่สุดในยุคโรคระบาด แต่หนังทำเงินมากที่สุดตั้งแต่มีการระบาด ยังคงเป็นหนังเจ้าถิ่น ได้แก่ ‘Peninsula’ และ ‘Deliver Us From Evil’ ที่ขายตํ่วไปได้กว่าสามล้านใบ
นอกจากนี้ ‘The Fast And The Furious’ หนังภาคแรกก็กลับมาฉายใหม่ในเกาหลีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทำเป็นงาน 4มิติ และ 3 มิติ
แอนิเมชันญี่ปุ่น ‘Earwig And The Witch’ เปิดตัวในวันพฤหัสฯ และเข้าวินเป็นที่ห้า โดยทำรายได้ห่างจากที่สี่ ไม่น้อย ด้วยรายได้สามและสี่วันตามลำดับ 135,000 และ153,000 เหรียญสหรัฐฯ
ที่น่าสนใจก็คือ รอบพรีวิวของ ‘A Quiet Place: Part II’ สามารถทำเงินมากพอจะเข้ามาติดอันดับ 6 โดยทำเงินไป 131,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยหนังจะเปิดตัวเต็มๆ 16 มิถุนายนนี้
‘Demon Slayer’ อยู่ในอันดับ 7 ด้วยรายได้ 74,000 เหรียญสหรัฐฯ รายได้รวมเพิ่มเป็น 18.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยหนังเข้าฉายในเกาหลีตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม
‘Pipeline’ เป็นหนังเกาหลีที่ทำได้ดีที่สุด โดยอยู่ในอันดับที่ 8 ทำรายได้ 30,700 เหรียญสหรัฐฯ หนังที่เปิดตัวมาตั้งแต่ 26 พฤษภาคม ทำรายได้รวมผ่านล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปแล้ว
มาถึงตอนนี้บรรดาผู้จัดจำหน่ายหนังท้องถิ่นยังลังเลว่าจะปล่อยหนังออกมาฉายดีหรือไม่ เมื่อผู้ชมเองก็ยังกังวลเรื่องการกลับเข้าโรงภาพยนตร์ ทำให้ไม่มีหนังเกาหลีเข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบ็อกซ์ออฟฟิศที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศ และในแถบเอเชีย-แพซิฟิกมากนัก และทำให้อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ของเกาหลีเอง ไม่ได้กลับมาอย่างแข็งแกร่ง โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รายได้รวมของบ็อกซ์ออฟฟิศที่ 5.63 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นรายได้รวมประจำสุดสัปดาห์ที่มากเป็นอันดับ 4 ของปี 2021
ความแตกต่างระหว่างการปล่อยหนังท้องถิ่นกับหนังฮอลลีวูดออกฉาย เป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน แต่ที่โดดเด่นมากที่สุดคือ หนังฮอลลีวูดสามารถเปิดตัวในที่อื่นๆ ได้ ในแบบเป็นการฉายในวงกว้าง และมีแผนการตลาดร่วมกันทั้่วโลก แต่หนังท้องถิ่น ต้องพึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลัก และหากเกิดล้มเหลวขึ้นมาก็จะเจ็บหนัก
โรงหนังหลายแห่งในเกาหลียังคงปิด ทำให้บรรดาเครือโรงภาพยนตร์ยังคงต้องดิ้นรนกันต่อ และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ล็อตเตเครือโรงหนังอันดับสอง ถึงกับประกาศขึ้นค่าตั๋วเป็นครั้งที่สองแล้วในยุคโรคระบาด โดยจะขึ้นราคาอีก 1000 วอน หรือ 0.90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อที่นั่ง นั่นหมายความว่า ค่าตั๋วในช่วงสุดสัปดาห์จะอยู่ที่ 14,000 วอน หรือ 12.55 เหรียญสหรัฐฯ นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ทางบริษัทต้องประสบปัญหาเรื่องรายได้มาตลอดปี 2020 และในไตรมาสแรกของปี 2021 เคยประกาศขึ้นค่าตั๋วมาแล้วในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และรายได้จำเป็นจะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อสามารถที่จะอยู่ได้ ส่วนผู้นำตลาดอย่างซีเจ-อีจีวี ก็ขึ้นราคาตั๋วไปแล้วสองครั้ง ในเดือนตุลาคม 2020 และเมษายน 2021
เดือนกรกฎาคม มีหนังเกาหลีวางโปรแกรมฉายเอาไว้ถึงสองเรื่องคือ หนังของผู้กำกับ เรียวซึงวอน ‘Escape From Mogadishu’ และหนังเรื่อง ‘Hostage: Missing Celebrity’
อ่านแล้วชอบ อย่าลืมกดติดตาม และยังมีเรื่องราวมากมายให้อ่านได้ที่ www.sadaos.com และทำความรู้จักกันได้มากกว่านี้ด้วยการกดไลค์เพจ www.facebook.com/Sadaos และ www.blockdit.com/sadaos
‘Lords of Dogtown’ ว่าด้วยชีวิตเด็กเล่นสเก็ตบอร์ดและกระดานโต้คลื่น 3 คนที่สไตล์การเล่นบอร์ดและใช้ชีวิตแตกต่างกัน และทำให้การเล่นเสก็ตบอร์ดเปลี่ยนไปจากเดิมจนถึงทุกวันนี้ อ่านเรื่องราวเต็มๆ กันได้ที่นี่ >

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา