🌟โชติกเศรษฐี (ผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง) ตอนที่ 3 : ภาพพุทธศิลป์ วัดพระธรรมกาย🌟
ฝ่ายพระราชกุมารอชาตศัตรู..หลังจากกลับสู่พระราชวังแล้ว พระองค์ก็ยังคงมีพระประสงค์ที่จะยึดเอาปราสาทของท่านโชติกเศรษฐีอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้นเป็นเจ้าชายผู้มีร่างกายแข็งแกร่ง ได้ทรงสมคบกับพระเทวทัต และทำการปลงพระชนม์พระเจ้าพิมพิสารผู้เป็นพระราชบิดาของพระองค์เอง
เมื่อพระองค์ทรงขึ้นครองราชย์แล้ว...ได้ทรงวางแผนที่จะไปยึดเอาปราสาทและสมบัติทั้งหมดของท่านโชติกเศรษฐี พระองค์จึงได้ตระเตรียมการรบแล้วก็เสด็จไปยังปราสาทของท่านโชติกะพร้อมด้วยเหล่าทหารจำนวนมาก แต่เมื่อพระองค์ได้เสด็จไปถึง..กำแพงแก้วที่ใสกระจ่างก็สะท้อนให้พระองค์ทอดพระเนตรเห็นเงากองทัพของพระองค์เอง แต่พระองค์กลับเข้าพระทัยว่า “ท่านเศรษฐีได้เตรียมการรบกับพระองค์” จึงไม่อาจจะเสด็จเข้าไปได้
ฝ่ายยักษ์ที่ทำการรักษาซุ้มประตูที่ 1 ก็ได้เนรมิตกายให้ใหญ่โต แล้วไล่ตะเพิดพระเจ้าอชาตศัตรูพร้อมทั้งเหล่าทหารของพระองค์จนแตกพ่ายกระจัดกระจายไปทั่วสารทิศ ซึ่งในเช้าวันนั้นเอง..ท่านโชติกเศรษฐีได้บริโภคอาหารแต่เช้าตรู่ แล้วก็ไปยังพระวิหารเพื่อเข้าเฝ้าพระบรมศาสดา
ฝ่ายพระเจ้าอชาตศัตรู..แม้จะพ่ายแพ้แก่ยักษ์แล้ว แต่ยังก็ไม่ทรงท้อถอย..ได้ทรงติดตามท่านโชติกเศรษฐีไปยังพระวิหาร เพื่อจะยึดเอาทรัพย์จากท่านเศรษฐีให้จงได้ เมื่อท่านเศรษฐีเห็นพระราชาเสด็จมาอย่างเร่งรีบและแสดงอาการอย่างไม่เป็นมิตรเช่นนั้น จึงได้ลุกขึ้นยืนถามว่า “ข้าแต่สมมติเทพ พระองค์มีเรื่องอะไรเร่งด่วนหรือ พระเจ้าข้า ถึงรีบเสด็จมาเช่นนี้”
พระเจ้าอชาตศัตรูได้ตรัสว่า “คฤหบดี ท่านสั่งคนของท่านให้เตรียมรบกับเรา แล้วก็มานั่งทำเป็นเหมือนฟังธรรมอยู่หรือ” ท่านเศรษฐีจึงได้กราบทูลถามกลับว่า “ก็สมมติเทพเสด็จไปเพื่อจะยึดเอาเรือนของข้าพระองค์ไม่ใช่หรือ” พระเจ้าอชาตศัตรูก็ได้ตรัสยอมรับว่า “ใช่ เราไปจริง” ท่านเศรษฐีจึงได้กราบทูลว่า “ข้าแต่สมมติเทพ หากข้าพระองค์ไม่อนุญาตแล้ว แม้พระราชาผู้มีอานุภาพมากจำนวนนับพันก็ไม่สามารถจะยึดเอาเรือนและทรัพย์ของข้าพระองค์ไปได้แม้เพียงเส้นด้ายที่ชายผ้า”
จากนั้น..ท่านเศรษฐีก็ได้ทูลเชิญให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงพิสูจน์ด้วยการให้ลองถอดแหวนทั้ง 20 วงที่นิ้วมือของท่านดู ซึ่งก็เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง..เพราะแม้พระเจ้าอชาตศัตรูผู้มีพละกำลังมหาศาล..ขนาดประทับนั่งบนพื้นแล้วทรงสามารถกระโดดได้สูงถึง 18 ศอก (9 เมตร) และหากประทับยืน..ก็ทรงสามารถกระโดดได้สูงถึง 80 ศอก (40 เมตร) แต่แม้มีพละกำลังถึงเพียงนั้น..ก็ยังไม่สามารถจะถอดแหวนออกจากนิ้วของท่านโชติกเศรษฐีได้เลยแม้แต่เพียงวงเดียว
ครั้นแล้วท่านเศรษฐีจึงทูลให้พระเจ้าอชาตศัตรูทรงลาดผ้าสาฎกลง แล้วท่านก็ได้ทำทุกนิ้วให้ตรง ทันใดนั้น..แหวนทั้ง 20 วงก็ได้เคลื่อนออกจากนิ้วมือของท่านอย่างง่ายๆ เมื่อท่านเศรษฐีได้เห็นถึงความโลภของพระเจ้าอชาตศัตรูเช่นนั้น ท่านก็เกิดความรู้สึกสลดใจอย่างยิ่ง..จึงได้ทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระเจ้าอชาตศัตรูเพื่อจะออกบวช
เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรูได้สดับดังนั้นก็ทรงรีบอนุญาตทันที เพราะทรงดำริว่า “หากท่านเศรษฐีออกบวชแล้ว พระองค์ก็จะทรงยึดเอาปราสาทได้ง่ายขึ้น” แต่ครั้นท่านเศรษฐีได้บวชแล้ว ชั่วเวลาเพียงไม่นาน..ท่านก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ผู้ทรงคุณอันเลิศ พร้อมกันนั้นเอง..ปราสาทแก้วและขุมสมบัติของท่านทั้งหมดก็ได้พลันอันตรธานหายไปจนสิ้น แม้นางสตุลกายาภรรยาของท่าน..เทวดาทั้งหลายก็ได้นำกลับคืนไปสู่อุตตรกุรุทวีปดังเดิม เพราะนางมาด้วยอานุภาพแห่งบุญของท่านโชติกเศรษฐีเท่านั้น
แม้ท่านโชติกเศรษฐีจะเป็นผู้ที่พรั่งพร้อมด้วยโลกิยทรัพย์และเป็นเจ้าของสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง อีกทั้ง..ยังมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุขเยี่ยงชาวสวรรค์ที่ยากจะหาใครมาเทียบได้ก็ตาม แต่เมื่อถึงคราวออกบวช..ท่านก็ตัดใจอย่างไม่อาลัยและไม่เสียดายในทรัพย์สมบัติใดๆ เลย ท่านจึงนับได้ว่าเป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมในทุกสิ่งทั้งทางโลกและทางธรรมโดยแท้
🍀 ติดตาม โชติกเศรษฐี (ผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง) ตอนที่ 4 ต่อไป
🌟รับธรรมะดี ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงความสุขภายในได้ที่นี่
⚡️Line
⚡️Facebook
⚡️YouTube
⚡️Instagram
⚡️Twitter
⚡️Pinterest
⚡️Spotify
⚡️Apple Podcasts
⚡️JOOX
⚡️TikTok
⚡️Blockdit
⚡️Clubhouse
⚡️Google Maps
- 76
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
