20 มิ.ย. 2021 เวลา 08:19 • หนังสือ
🌟โชติกเศรษฐี (ผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง) ตอนที่ 4 : ภาพพุทธศิลป์ วัดพระธรรมกาย🌟
สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่องที่ท่านโชติกเศรษฐีได้ครอบครองเหล่านี้..ล้วนเป็นผลมาจากมหาทานบารมีที่ท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในอดีตมาหลายภพหลายชาติ ดังย้อนไปในสมัยหนึ่ง..ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ว่างเว้นจากการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ครั้งนั้น..ท่านโชติกเศรษฐีได้เกิดเป็นกุฎุมพีอยู่ร่วมกับพี่ชายซึ่งมีอาชีพทำไร่อ้อยอยู่ในนครพาราณสี
3
ในยุคนั้น..น้ำอ้อยมีรสชาติที่หอมหวานเลิศรสเป็นอย่างมาก และเพียงแค่ตัดลำอ้อยให้ขาดเท่านั้น..น้ำอ้อยก็จะไหลออกมาเอง ดังนั้น..ผู้คนในยุคนั้นจึงดื่มน้ำอ้อยได้โดยไม่ต้องทำการหีบอ้อยแต่อย่างใด อยู่มาวันหนึ่งกุฎุมพีคนน้องได้ออกไปตรวจดูไร่อ้อยของตัวเอง และก่อนกลับ..เขาก็ได้ตัดอ้อยมา 2 ลำด้วยความตั้งใจว่า “ลำหนึ่ง..เราจะให้แด่พี่ชาย ส่วนอีกลำหนึ่งเป็นของเราเอง” แล้วเขาก็ได้ผูกเชือกเหนือรอยที่ตัดด้วยเถาวัลย์
ในเช้าวันนั้นเอง..พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่งได้ออกจากนิโรธสมาบัติแล้วตรวจดูว่า “ใครคือเป็นผู้มีบุญที่ท่านควรจะไปโปรดในวันนี้” ซึ่งท่านก็ได้เห็นกุฎุมพีคนน้องเข้ามาในข่ายพระญาณ ท่านจึงถือบาตรและจีวรเหาะมาด้วยกำลังแห่งฤทธิ์ แล้วก็มายืนอยู่ ณ เบื้องหน้าของกุฎุมพีคนน้องในขณะที่เขากำลังจะเดินกลับนั้นเอง
เมื่อกุฎุมพีคนน้องได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้า เขาก็เกิดความศรัทธาได้ลาดผ้าเป็นอาสนะ แล้วกราบนิมนต์ให้ท่านนั่งบนอาสนะนั้น จากนั้น..เขาก็ได้แก้เชือกที่ผูก แล้วก็เทน้ำอ้อยซึ่งเป็นส่วนของตนใส่ลงในบาตรถวายพระปัจเจกพุทธเจ้า ฝ่ายกุฎุมพีได้เห็นพระปัจเจกพุทธเจ้าดื่มน้ำอ้อยของเขาแล้ว เขาก็เกิดความปลื้มปีติเป็นอย่างมาก จึงอยากจะถวายน้ำอ้อยในส่วนของพี่ชายอีก โดยตัวเขาคิดว่า “หากพี่ชายต้องการทรัพย์เป็นสิ่งทดแทน เราก็จะให้ทรัพย์ แต่หากพี่ชายต้องการส่วนบุญ เราก็จะให้ส่วนบุญ”
จากนั้น..เขาก็ได้ถวายน้ำอ้อยในส่วนของพี่ชายจนหมด แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า “ด้วยผลแห่งการถวายน้ำอ้อยซึ่งมีรสอันเลิศนี้ ขอให้กระผมได้เสวยสมบัติในเทวโลกและมนุษยโลก แล้วก็ขอให้ได้บรรลุธรรมที่ท่านบรรลุแล้วด้วยเถิด” ฝ่ายพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ได้ให้พรว่า “ขอความปรารถนาของท่านจงสำเร็จเถิด” แล้วก็ได้อธิษฐานให้กุฎุมพีเห็นท่าน
จากนั้น...พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ได้เหาะกลับไปสู่ภูเขาคันธมาทน์ แล้วก็ได้นำน้ำอ้อยกลับไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าอีก 500 องค์ ฝ่ายกุฎุมพีได้เห็นแล้วก็ยิ่งปลื้มปีติทับทวีไปจากเดิม และก็รีบนำข่าวบุญไปแจ้งให้พี่ชายได้อนุโมทนา เมื่อกุฎุมพีคนพี่ได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด เขาก็เกิดความปลื้มปีติเป็นล้นพ้น แล้วเขาก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ด้วยผลแห่งบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าได้บรรลุธรรมที่ท่านบรรลุแล้วด้วยเถิด”
1
ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้..ทำให้เมื่อทั้งสองละจากโลกไปแล้ว พวกเขาก็ได้ไปเสวยทิพยสมบัติอยู่ในเทวโลก จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไป 1 พุทธันดร..ถึงยุคสมัยของพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งสองก็ได้มาเกิดเป็นพี่น้องกันอีกอยู่ในตระกูลของเศรษฐี ในพระนครพันธุมดี โดยบิดามารดาได้ขนานนามพี่ชายว่า “เสนะ” ส่วนน้องชายที่เคยถวายน้ำอ้อยแด่พระปัจเจกพุทธเจ้านั้นมีชื่อว่า “อปราชิต”
เมื่อทั้งสองเจริญวัยขึ้น..บิดามารดาก็ล่วงลับไป อยู่มาวันหนึ่ง..ฝ่ายพี่ชายก็ได้ทราบข่าวอันเป็นมงคลจากอุบาสกผู้เป็นธรรมโฆษก์ว่า “พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะได้บังเกิดขึ้นแล้วในโลก” แล้วเขาก็ได้เห็นมหาชนต่างถือดอกไม้ของหอมไปยังวิหารเพื่อฟังธรรม เขาจึงได้ติดตามคนเหล่านั้นไปฟังธรรมด้วย ซึ่งพระบรมศาสดาก็ทรงทราบถึงอัธยาศัยของตัวเขาจึงได้แสดงอนุปุพพิกถา..ที่ว่าด้วยเรื่องทาน ศีล สวรรค์ โทษของกาม และอานิสงส์ของการออกบวช
เมื่อเขาได้ฟังพระธรรมเทศนาที่ไพเราะทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย อีกทั้งยังสมบูรณ์ด้วยเหตุและผลแล้ว เขาจึงได้ตัดสินใจออกบวชอยู่ในสำนักของพระบรมศาสดา และหลังจากที่เขาปฏิบัติธรรมอยู่เพียงไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ในที่สุด ส่วนน้องชายเองก็มีความตั้งใจที่จะทำสักการะแด่พระพี่ชาย จึงได้ถวายทานแด่พระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมด้วยเหล่าภิกษุสงฆ์ตลอด 7 วัน
หลังจากที่เขาถวายมหาทานครบ 7 วันแล้ว เขาก็ได้ไหว้พระพี่ชายพร้อมกับกล่าวว่า “ท่านขอรับ ท่านทำการสลัดตนออกจากภพได้แล้ว ส่วนกระผมยังเป็นผู้พัวพันอยู่ด้วยกามคุณทั้งหลาย ยังไม่สามารถที่จะบวชได้ ขอท่านจงแนะนำกระผมด้วยเถิด..ว่าบุญอะไรที่กระผมผู้ยังครองเรือนอยู่นี้ควรกระทำ” พระพี่ชายจึงได้กล่าวแนะน้องชายว่า “ดีแล้ว เจ้าผู้เป็นบัณฑิต เจ้าจงสร้างพระคันธกุฎีถวายแด่พระบรมศาสดาเถิด”
1
ฝ่ายน้องชายเมื่อได้รับคำแนะนำจากพระพี่ชายแล้ว เขาจึงได้สละทรัพย์จำนวนมหาศาลมาสร้างพระคันธกุฎีที่ทำด้วยรัตนะทั้ง 7 ประการ คือไม่ว่าจะเป็นเสา หน้าต่าง ฝา ขื่อ หรือแม้กระทั่งกระเบื้องมุงหลังคา..ก็ล้วนแต่ทำด้วยรัตนะอันวิจิตรงดงาม 7 ประการทั้งสิ้น ซึ่งในเวลาที่กำลังสร้างพระคันธกุฎีอยู่นั้น..หลานชายของเขาก็อยากจะได้บุญด้วย จึงเข้ามาหาพร้อมกับกล่าวว่า “ลุงครับ ผมอยากร่วมสร้างด้วย ขอลุงแบ่งให้ผมได้มีส่วนแห่งบุญด้วยเถิด”
แต่ไม่ว่าหลานชายจะอ้อนวอนอย่างไรก็ตาม อปราชิตผู้เป็นลุงก็ไม่อนุญาตและบอกกับหลานว่า “ฉันให้ไม่ได้หรอก ฉันจะสร้างเป็นของส่วนตัวไม่ทั่วไปแก่คนอื่น” ฝ่ายหลานชายจึงคิดว่า “ที่หน้าพระคันธกุฎีควรจะมีศาลาอีกสักหลังหนึ่ง” จึงได้ให้ช่างสร้างศาลารายที่ทำด้วยรัตนะ 7 ประการที่หน้าพระคันธกุฎีนั้น และด้วยอานุภาพแห่งบุญนั้น..ทำให้เมื่อมาถึงในชาตินี้ หลานชายจึงได้มาเกิดเป็นเมณฑกเศรษฐี
🍀 ติดตาม โชติกเศรษฐี (ผู้มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง) ตอนที่ 5 ต่อไป
🌟รับธรรมะดี ๆ ที่เป็นประโยชน์และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงความสุขภายในได้ที่นี่
⚡️Line
⚡️Facebook
⚡️YouTube
⚡️Instagram
⚡️Twitter
⚡️Pinterest
⚡️Spotify
⚡️Apple Podcasts
⚡️JOOX
⚡️TikTok
⚡️Blockdit
⚡️Clubhouse
⚡️Google Maps
โฆษณา