22 มิ.ย. 2021 เวลา 00:39 • ธุรกิจ
Billion Dollar Loser ตอนที่ 8 : The Rising Son
เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคมของปี 2016 Adam และผู้บริหารหลายรายของ WeWork ได้บินไปที่ประเทศอินเดีย เพื่อการประชุมทางด้านธุรกิจโดยมีเจ้าภาพคือ นายกรัฐมนตรีอินเดียอย่าง Narendra Modi ซึ่งต้องบอกว่าเศรษฐกิจอินเดียกำลังเติบโตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดย GDP เพิ่มขึ้น 7% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่แทบจะสูงที่สุดในโลกในยุคนั้น
2
Billion Dollar Loser ตอนที่ 8 : The Rising Son
Marc Schimmel หนึ่งในนักลงทุนของ WeWork ได้พยายามผลักดันให้ Adam นั้นหันมาโฟกัสที่ตลาดอินเดีย เพราะเป็นอีกหนึ่งตลาดที่กำลังเติบโตอย่างสูงมาก
และ Adam ก็ได้ใช้ช่วงเวลาดังกล่าวตระเวนทัวร์อินเดีย โดยเมื่อทีม WeWork ถึงมุมไบ Adam ก็ได้ไปพบปะกับนักธุรกิจท้องถิ่นหลายคนผ่านทาง Connection ของ Schimmel
2
โดยหนึ่งในนั้นคือ Jitu Virwani ผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์และชายที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งของอินเดีย ที่สนใจจะร่วมทุนกับ WeWork เพื่อขยายธุรกิจมายังประเทศอินเดีย
โดยในคืนสุดท้ายของเขาที่อินเดียนั้น Adam ได้ไปพบกับหนึ่งในบุคคลสำคัญมาก ๆ นั่นก็คือ Masayoshi Son ที่บาร์ชั้นบนสุดของอาคารแห่งหนึ่งในนิวเดลี
1
การประชุมดังกล่าว กำหนดขึ้นโดย Nikesh Arora รองประธานของ Softbank ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องบอกว่า Softbank เองแทบจะไม่เคยสนใจในธุรกิจของ WeWork มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
ต้องบอกว่าตัว Masayoshi Son เอง ก็เก็บงำความสงสัยในหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับธุรกิจ WeWork ของ Adam ส่วน Adam เอง ก็มีความต้องการเป็นอย่างมากที่จะพบกับ Son เพราะเขามั่นใจว่า เขาสามารถโน้มน้าวให้ Softbank ลงทุนได้
1
ดูเหมือนการพบกันครั้งนี้ ทำให้ Son เองมองเห็นอะไรบางอย่างในตัว Adam ที่สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณของธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการได้ เหมือนที่เขาในผู้นำธุรกิจหลาย ๆ ที่เขาเคยประสบพบเจอมา
ต้องบอกว่า การลงทุนของ Son นั้นเป็นสิ่งที่ผสมผสานระหว่างเรื่องของการมองไปที่ตัวบุคคล กับ การมองตัวเลขทางด้านธุรกิจ ซึ่งพบว่าหลาย ๆ ครั้ง Son ตัดสินใจเพียงไม่กี่นาที หากเขารู้สึกเชื่อมั่นในผู้ก่อตั้งที่ มีความเชื่ออย่างแท้จริงในหัวใจของพวกเขาว่าจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ เขาก็พร้อมจะอัดเงินให้แบบทันที
2
ตัวอย่างตอนที่ Son ได้พบกับ Jack Ma มันเป็นจิตวิญญาณผู้ประกอบการตัวจริงที่ Jack Ma แสดงให้ Son เห็น ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องเงินเป็นเรื่องรอง Son ต้องการเข้าถึงจิตใจของคนเหล่านี้มากกว่า ว่าพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงโลกผ่านเงินลงทุนของเขาหรือไม่
2
Adam และ Son นั่งคุยกันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง บนโซฟาตัวเล็กที่มุมบาร์ Adam บอก Son เกี่ยวกับการเติบโตของ WeWork โดยบริษัทกำลังจะเปิดสาขาที่หนึ่งร้อยในปลายปีนั้น ซึ่งเป็นจำนวนที่ Adam นั้นใฝ่ฝันมานานแล้ว
1
หลังจากนั้นเมื่อ Adam เดินทางกลับไปที่อเมริกา Son เองก็มีแผนที่จะมาเยือนอเมริกาอยู่แล้ว และได้วางแผนที่จะไปเยี่ยมสำนักงานใหญ่ของ WeWork ด้วยเช่นกันในการเดินทางเยือนอเมริกาของเขา
Son เดินทางมาที่อเมริกาโดยมีจุดประสงค์หลายประการ อย่างแรกคงเป็นการมาเยี่ยมเยียนประธานาธิบดี Donald Trump ที่เพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016
1
Son เองสนใจที่จะรื้อฟื้นการควบรวมกิจการระหว่าง T-Mobile และ Sprint ซึ่ง Softbank เป็นเจ้าของ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวถูกเบรค โดยหน่วยงานกำกับดูแลของอดีตประธานาธิบดี Barack Obama ที่กังวลเกี่ยวกับการแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือ
1
และ Son เองก็มีแผนที่จะนำ Softbank เข้ามาลงทุน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และสร้างงานใหม่ห้าหมื่นตำแหน่งในช่วงสี่ปี ซึ่งเป็น Timeline ที่เชื่อมโยงกับการครองอำนาจของประธานาธิบดีคนใหม่อย่าง Donald Trump ในตอนนั้น
4
Son เข้ามาร่วมลงทุนและสร้างงาน 5 หมื่นตำแหน่งในสมัยของ Trump (CR:jsonline.com)
เนื่องจาก Softbank เองได้มีการประกาศโครงการ Vision Fund ซึ่งเป็นกองทุนร่วมทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ และกลายเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพันธมิตรจากทั้ง Foxconn รัฐบาลอาบูดาบี และ Apple ซึ่งมีเงินสดอยู่ในมือมากจนไม่รู้จะเอาไปลงทุนที่ไหนต่อ รวมถึงเงินส่วนใหญ่ที่มาจากรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย
ในช่วงหลายเดือนนับตั้งแต่ Son และ Adam ได้พบกันที่อินเดีย พวกเขาได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการลงทุน และ Vision Fund อาจจะเติมเต็มสิ่งที่เป็นไปได้ให้กับ WeWork
3
ซึ่งในวันเดียวกับที่ Son มีกำหนดการไปเยี่ยมประธานาธิบดี Trump เขาก็มีกำหนดการในการทัวร์สำนักงานใหญ่ของ WeWork แต่ Son เองยังสงวนท่าที โดยไม่ได้รับปากว่าจะเข้าร่วมทัวร์บริษัทและร่วมฟังการนำเสนอแบบเต็มรูปแบบจาก WeWork แต่อย่างใด
ในวันนั้น ตัวแทนของ Softbank ได้โทรแจ้ง Adam ให้ทราบว่า Son จะเข้ามาสาย Adam เริ่มกระวนกระวายเดินไปมาในห้องทำงานของเขา ซึ่งหลังจากผ่านช่วงเช้าไป Son ก็ยังไม่มาปรากฏตัวซะที
Adam เตรียมการนำทัวร์ไว้ถึง 2 ชม. แต่ เมื่อ Son มาถึง มันก็เลทไปเยอะมากแล้ว มันเหลือเวลาเพียงแค่ 12 นาที ให้ Adam ทำทุกอย่างเพื่อให้ Son หันมาสนใจลงทุนกับ WeWork
4
Adam นั้นรู้เป็นอย่างดีว่า Vision Fund มุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยี ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นหลังจากที่เดินผ่านชั้นที่หนึ่งของอาคารที่เต็มไปด้วยสมาชิกของ WeWork เพื่อแสดงให้เห็นว่ามันน่าอยู่เพียงใด
2
Adam ได้พา Son ตรงไปที่ ห้องปฏิบัติการด้าน R&D ของบริษัท บนชั้นสาม ซึ่ง Dave Fano ผู้ร่วมก่อตั้ง Case-Buildings บริษัทด้านข้อมูลที่ Adam ได้ทำการซื้อมา กำลังแสดงให้ Son ได้เห็นถึงเทคโนโลยีเบื้องหลังต่าง ๆ ที่ WeWork กำลังพัฒนา ซึ่งหลังจาก 12 นาทีผ่านไป Son ก็บอกให้ Adam ขึ้นรถไปกับเขา
Adam รีบคว้ากระเป๋า และกระโดดขึ้นรถไปที่เบาะหลังทันที Son ไม่ได้ต้องการให้ Adam นำเสนองานใด ๆ ต่อบนรถ แม้จะมีข้อสังสัย แต่ Son ประทับใจในความเร็วที่ WeWork สามารถขยายตัวโดยใช้แรงงานที่เป็นมนุษย์ได้ดีมาก
1
ในเดือนนั้น WeWork ได้เปิดสำนักงานใหม่ 13 เมืองใน 7 ประเทศ ซึ่ง Adam ยังได้เตรียมนำข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับกองทุน Vision Fund ให้กับ Son อีกด้วย
ซึ่งในขณะที่ Adam และ Son กำลังนั่งรถเคลื่อนออกจากสำนักงานใหญ่ของ WeWork สิ่งที่เหลือเชื่อคือ Son ได้ดึง iPad ออกมาและเริ่มร่างเงื่อนไขของข้อตกลง : Softbank และ Vision Fund จะลงทุนมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ใน WeWork ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ WeWork เคยระดมทุนมา
2
Son ได้ทำการเซ็นชื่อและลากเส้นอีกเส้น ถัดจากนั้นก็ส่งสไตลัสให้กับ Adam มันเป็น Deal ที่เซอร์ไพรส์มาก ๆ สำหรับ Adam หลังจากเขาได้พยายามทำสิ่งนี้มาหลายปี ในที่สุด มันก็ถึงเส้นชัยของ WeWork เสียที
หลังจากที่ Son ขอตัวไปทำธุระต่อ Adam ก็ได้เข้าไปในรถยนต์ Maybach สีขาวของเขา ซึ่งขับตามหลังรถของ Son โดยได้เปิดเพลงแร็พแบบสุด Volume และขับรถกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของ WeWork
1
ต้องบอกว่าภาพถ่ายลายเซ็นของ Son ที่เป็นสีแดง และ สีฟ้าของ Adam นั้นกำลังถูกเผยแพร่ในหมู่ผู้บริหาร WeWork มันใช้เวลาเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น นับตั้งแต่ Son ย่างเก้าเข้ามาที่สำนักงานใหญ่ของ WeWork แต่ตอนนี้ Adam กำลังได้รับการลงทุนในการร่วมทุนที่ใหญ่ที่สุดตลอดกาลของประวัติศาสตร์บริษัท WeWork ได้สำเร็จ
1
การลงทุนของ Softbank ใน WeWork ครั้งนี้ ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 สิงหาคม ปี 2017 มีมูลค่ารวม 4.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินบางส่วนจาก Softbank เองและ อีก 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการจัดสรรสำหรับการขยายกิจการไปยังเอเชียของ WeWork
มันได้ทำให้มูลค่าของ WeWork พุ่งสูงขึ้นเป็น 20,000 ล้านดอลลาร์ และทำให้ WeWork กลายเป็นบริษัท Startup ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสี่ในอเมริการองจาก Uber , Airbnb และ SpaceX เพียงเท่านั้น
3
นั่นทำให้เหล่านักลงทุนกลุ่มแรก ต่างร่ำรวยกลายเป็นมหาเศรษฐีกันถ้วนหน้า แต่ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเกมครั้งนี้ คือ Adam โดย We Holdings บริษัทนิติบุคคลส่วนตัวของ Adam ได้ทำการขายหุ้น WeWork มูลค่า 361 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนเงินสูงสุดและมากกว่าพนักงาน WeWork คนอื่น ๆ ที่ได้รับการจัดสรรหุ้นไปก่อนหน้านี้
2
ต้องบอกว่าเป็นจำนวนเงินที่น่าตกใจมากที่ Adam ได้ตัดสินใจขายหุ้นไปจำนวนมหาศาลขนาดนี้ เหตุใดเขาจึงไม่รอเงินที่จะได้รับอีกมากมายหลังจากนี้ เพราะ WeWork กำลังจะกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ และทำเงินได้อีกมากมายมหาศาลในอนาคต
1
ซึ่งคำตอบก็คือ Adam จำเป็นต้องใช้เงิน เพื่อตอบสนองชีวิตที่ฟุ่มเฟือยมากขึ้นเรื่อย ๆ ของเขา ช่วงสิ้นปี 2017 Adam และ Rebekah ใช้เงิน 35 ล้านดอลลาร์ เพื่อซื้ออพาร์ทเมนต์สี่ห้องในอาคาร Gramercy โดยรวมสามยูนิตเข้าด้วยกันให้กลายเป็นเพนต์เฮาส์ขนาดใหญ่
3
เพนต์เฮาส์สุดหรูใจกลางนิวยอร์กที่ Adam ได้ซื้อทันทีหลังจากขายหุ้นล็อตใหญ่ (CR:BusinessInsider.com)
Adam ได้ซื้อบ้านให้พี่สาวและยายของเขา โดยจ่ายค่าเช่า และค่าเล่าเรียนทั้งหมดคืนให้กับพวกเขาที่ได้ยืมมาก่อนหน้านี้ ตอนเริ่มต้นใช้ชีวิตในนิวยอร์กใหม่ ๆ
1
พนักงานของ WeWork ทำได้เพียงแค่กลอกตา เมื่อนึกถึงคำพูดของ Adam และ Rebekah ที่ว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ เรื่องที่พวกเขาไม่ได้เป็นพวกวัตถุนิยม แต่ตอนนี้ ทั้งคู่กำลังเปลี่ยนไปเป็นอีกคนแล้ว
1
“เราเชื่อใน รูปแบบการดำเนินชีวิตใหม่นี้” Rebekah ให้สัมภาษณ์ หลังจาก Deal ใหญ่ของ WeWork และ Softbank ดำเนินการเสร็จโดยสมบูรณ์ และ Adam กำลังเป็นเจ้าของบ้านสุดหรูจำนวน 5 หลัง ใจกลางมหานครนิวยอร์ก
ต้องบอกว่า ถึงตอนนี้ มันได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทั้ง Adam และ WeWork ที่เหมือนถูกลอตเตอรี่รางวัลใหญ่ สถานการณ์ ที่ดูเหมือนจะหมดหวังก่อนหน้านี้ ได้ชายที่ชื่อ Masayoshi Son ที่ได้กลายเป็นอัศวินขี่ม้าขาว มาช่วยกอบกู้วิกฤติได้ทัน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อกับเรื่องราวของ Adam และ WeWork โปรดอย่าพลาดติดตามต่อในตอนหน้าครับผม
2
อ่านตอนที่​ 9 : Winner Loses All
ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
=========================
ร่วมสนับสนุน ด.ดล Blog และ Geek Forever Podcast
เพื่อให้เรามีกำลังในการผลิต Content ดี ๆ ให้กับท่าน
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog ผ่าน Line OA เพียงคลิก :
=========================
ฟัง PodCast เรื่องเกี่ยวเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ที่ Geek Forever’s Podcast
——————————————–
ฟังผ่าน Podbean :
——————————————–
ฟังผ่าน Apple Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Google Podcast :
——————————————–
ฟังผ่าน Spotify :
——————————————–
ฟังผ่าน Youtube :
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา