24 มิ.ย. 2021 เวลา 06:35 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น ขวัญผวา ตอน อพาร์ตเมนต์หลอน
ในที่สุดผมก็ได้ยายที่อยู่เป็นครั้งแรกในชีวิตแล้ว ผมทำงานสองงานเพื่อหาเงิน และการย้ายที่อยู่ครั้งนี้มันเป็นอิสระที่ผมไม่เคยมีมาก่อน ตอนอายุ 18 ปี ผมอาศัยอยู่กับรูมเมท กระทั่งผมอายุ 25 ปี ผมได้ย้ายเข้าอพาร์ทเมนท์หนึ่งห้องนอน อยู่ที่ชั้นสองในอาคารห้าชั้นใจกลางเมือง ผมไม่เคยโชคดีเท่านี้มาก่อนในชีวิต สองสัปดาห์ต่อมา ผมได้รับข่าวว่าได้ทุนเต็มจำนวนจากมหาวิทยาลัย ชีวิตเป็นไปด้วยดี! มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต ผมยอมรับว่าการทำงานสองงานและเรียนไปด้วยมันเป็นเรื่องที่ยาก แต่ผมรู้ว่ามันเป็นงานชั่วคราว และวันหนึ่งผมจะได้ทำงานประจำเพียงงานเดียวและจะสามารถซื้อบ้านได้ ผมตั้งใจแบบสุดตัวและมีความสุขมาก
ผมอยู่ในห้องใหม่ของผมประมาณ 7 เดือนแล้ว วันนึงผมกลับบ้านและสังเกตเห็นของเหลวสีแดงเข้มหยดนึง หยดลงบนพื้นห้องครัว ผมกินพิซซ่าเมื่อคืนก่อน ผมเลยคิดว่ามันคงเป็นซอส แต่เมื่อผมเช็ดออก มันดูเหมือนเลือดมากกว่า ผมคิดว่าบางทีมันอาจเป็นเลือดของผมเองก็ได้ สองวันต่อมา มีเลือดหยดอยู่บนพื้นอีกแล้ว และมันหยดลงที่เดิม ผมรีบทำความสะอาดมัน ผมตรวจร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วน มองหาบาดแผลหรือรอยถลอกเล็กๆ แต่พบรอยฟกช้ำเล็กๆเท่านั้น ผมเลิกคิดไป ผมไม่อยากเพิ่มอะไรเข้าไปในหัวแล้ว แล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ต่อมา วันนั้นผมกลับบ้านดึก ผมเจอกับเลือดนั่นอีแล้ว จุดเดียวกันเหมือนครั้งก่อน แต่ครั้งนี้มันมีขนาดประมาณลูกกอล์ฟเลย ผมมองไปที่เพดานเพื่อหาจุดที่เลือดหยดลงมา แต่ก็ไม่เห็นอะไรแปลกๆเลย ช่องระบายอากาศก็อยู่ไกลเกินกว่าจุดที่มีเลือดหยดลงมา ผมเหนื่อยมาก ผมเลยทำความสะอาดและล้มตัวลงนอน คืนนั้นผมนอนหลับอย่างกังวล
และในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เลือดหยดลงบนพื้นแบบสุ่ม ไม่ซ้ำกันเลย ผมตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงาน เขาบอกให้ผมถ่ายรูปไว้และโทรหาช่าง แล้วเลือดโผล่มาอีกเช่นเคย ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ครั้งนี้เลือดมีรูปร่างเหมือนโบว์ แต่พอผมเปิดภาพให้เพื่อนร่วมงานดู เลือดหายไป ในภาพเห็นแค่พื้นห้องครัวที่ปูด้วยกระเบื้องสีเหลือง ผมหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง โดยคิดว่ามันอาจสะท้อนแสงเลยทำให้มองไม่เห็น ผมพยายามจะเลิกคิดแต่ก็ทำไม่ได้
ผมได้หยุดสองสามวัน ผมก็ตั้งตารอวันหยุด เพื่อจะอยู่บ้านอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม ดูรายการโปรดในทีวี แต่แล้วสิ่งที่รบกวนจิตใจผมมันก็กลับมาอีกแล้ว ผมตื่นมาเจอเลือดบนพื้นอีกแล้ว แต่รอบนี้เรียกว่าแอ่งเลือดได้เลย ผมไม่เคยเห็นเลือดเยอะขนาดนี้มาก่อน ผมรีบโทรหาช่างทันที พวกเขาบอกว่าจะมาถึงประมาณสองสามชั่วโมง ผมไม่สามารถทิ้งเลือดขนาดเท่าจานไว้บนพื้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงได้ ถ้ามีใครมาเห็นผมจะซวยเอาได้ ดังนั้นผมจึงทำความสะอาดมัน ทำไมผมถึงคิดว่ามันคือเลือดน่ะหรอ ก็เพราะ มันเป็นของเหลวที่มีสีแดงเข้ม มีความเนอะเหนียวๆเหมือนที่คุณเห็นในภาพยนตร์สยองขวัญเลย ผมไม่รู้ว่ามันมาหยดอยู่บนพื้นได้เลยยังไงและไม่อยากจะคิดถึงมันด้วย
แล้วชายมีหนวดชื่อสจ๊วตก็มาถึงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขาดูเหนื่อยแต่ร่าเริง ผมบอกเขาว่าผมเจอกับอะไร เขาเองก็เห็นด้วยว่ามันดูแปลกมาก แต่เขามั่นใจว่าเรื่องนี้ต้องมีคำอธิบาย เขาทรุดตัวลงกับพื้นและมองดูใต้ตู้เย็น และเครื่องล้างจาน จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบบันได เพื่อขึ้นไปดูบนเพดาน แต่ก็ไม่พบอะไรเลย ผมรู้สึกผิดหวังอย่างแรง เขาถามคำถามสองสามข้อ เรื่องที่ผมเห็นของเหลวนั้น ผมรู้สึกว่าต้องพิสูจน์ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือเรื่องจริง ผมดึงถังขยะออกจากใต้อ่างล้างจาน เพื่อให้เขาเห็นกระดาษทิชชู่ที่ผมใช้เช็ดเลือดนั่น ถังขยะเต็มไปด้วยกระดาษทิชชู่ แต่กลับไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว
ผมไม่อยากจะเชื่อเลย! ผมสาบานได้ว่าผมพูดความจริง สจ๊วตวางบันไดไว้ในห้องโถงและบอกให้ผมโทรหาอีกครั้งถ้าเห็นของเหลวนั้น เขาส่ายหัวขณะเดินออกไป ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง ผมกำลังจะเป็นบ้าหรอ? หรือผมเครียดมากเกินไปจนเห็นภาพหลอน? แม่ของผมมีอาการป่วยทางจิตมาก่อน หรือว่าผมจะเป็นเหมือนเธอ ผมส่ายหัว ไม่ ผมไม่ได้เป็นแบบแม่ ผมได้เรียนได้เกรดเฉลี่ยเกิน 3.5 แทบทุกเทอม และเจ้านายของผมทั้งคู่ก็บอกว่าผมทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผมไม่ได้บ้าแน่นอน
ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ผมได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อลิซ่า เธออยู่ชั้น 1 ในอพาร์ตเมนต์เดียวกับผม เราออกไปเดทกันสองสามครั้ง เป็นช่วงนึงที่ผมลืมเรื่องเลือดนั่นไป แต่พอผมเกือบจะลืม มันก็กลับมาเตือนความจำผมอีกครั้ง ผมกลับมาที่ห้องในตอนเย็น คราวนี้มันเลือดนองเต็มพื้นห้อง เหมือนมีสัตว์ถูกฆ่าในห้องของผม ผมรีบวิ่งออกจากอพาร์ตเมนต์ แล้วลงบันไดมาเคาะประตูห้องลิซ่า ผมเล่าเรื่องบ้าๆ ทั้งหมดให้เธอฟัง และเธอแนะนำให้โทรเรียกช่างซ่อม แล้วก็เช่นเคย ผมโทรหาสจ๊วตตามที่เธอบอก สจ๊วตมาที่อพาร์ตเมนต์ของผม ผมพาเขาเดินไปที่ห้องของผม และเมื่อเราเดินเข้าไปที่ห้องครัว ไม่มีเลือดอีกแล้ว ไม่มีอะไรเลือด ห้องครัวสะอาดสะอ้าน ผมจ้องมองด้วยความไม่เชื่อ ผมดูเลขห้องที่ประตูเพื่อให้แน่ใจว่าเราอยู่ห้องของผมจริงๆ และใช่ มันคือของห้องของผมนั่นแหละ
สจ๊วตกับลิซ่ายืนเงียบๆอยู่ข้างผม ผมพูดตะกุกตะกักว่า “ผมไม่ได้โกหกหรือเป็นบ้านะ” แต่ผมไม่มีหลักฐานเพื่อพิสูจน์เรื่องที่ผมพูดเลย สจ๊วตขอตัวกลับ เขารีบปิดประตูแล้วเดินออกไป ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมร้องไห้ออกมา ผมคิดว่าลิซ่าคงจะกลับไปด้วยเช่นกัน เธอคงคิดว่าผมเป็นคนโกหกไปแล้วแน่ๆ แต่เธอไม่ทำแบบนั้น เธออยู่ข้างๆผมและปลอบผม เราไม่ได้พูดอะไรถึงเรื่องนั้นอีกเลย แต่ตอนที่เธออยู่กับผมในห้องนี้ ผมหวังให้เธอเห็นเลือดบนพื้นเหมือนกับผม เพื่อพิสูจน์ว่าผมไม่ได้บ้า
แต่แล้ววันอันน่าสยดสยองในเดือนมีนาคมก็มาถึง มันเป็นวันที่ 13 แต่เป็นวันอังคาร ผมเกือบเรียนจบแล้ว ผมกับลิซ่าเริ่มจริงจังกันมากขึ้นและเธอแนะนำให้ผมรู้จักกับพ่อแม่ของเธอ เราเพิ่งใช้เวลาทั้งวันไปกับการช่วยน้องสาวของเขาย้ายเข้าหอพักและกำลังจะกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปทานอาหารเย็น เรากลับมาที่อพาร์ตเมนต์ของผม ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก มีกลิ่นบางอย่างเข้าปะทะกับจมูกของผมอย่างแรง มันให้ความรู้สึกน่ากลัวมาก ผมถามลิซ่าว่าได้กลิ่นไหม แต่เธอกลับไม่ได้กลิ้นอะไรเลย และมันยิ่งแย่ลงไปอีกเมื่อเปิดประตูห้องของผมออก มันไม่มีเลือดในห้องผม แต่มีกลิ่นคาวเลือดอย่างรุนแรงในห้องของผม ผมโทรหาสจ๊วตอีกครั้ง ผมหยิบเสื้อผ้าแล้วพาลิซ่ากลับลงไปห้องของเธอที่ชั้นหนึ่ง
แล้วไม่กี่วันต่อมาข่าวในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นระบุ "11 ศพถูกพบในอพาร์ตเมนต์ของฆาตกรต่อเนื่อง" เขาฆ่าและหั่นศพทุกคนไว้บนพื้นห้องครัว เขาถูกขนานนามว่า "นักฆ่าผูกโบว์" เพราะเขาเก็บสะสมโบว์ไว้ในตู้เสื้อผ้าของเขา ห้องครัวของเขาอยู่ข้างบนห้องของผม ผมเห็นเขาแค่ครั้งสองครั้งในลิฟต์และที่ตู้ไปรษณีย์ เขาดูเป็นคนเงียบๆแต่ไม่ได้เป็นคนที่น่ากลัวเลย ผมไม่เคยคิดว่าเขาจะสามารถก่ออาชญากรรมแบบนั้นได้ ที่แปลกคือเขาได้ทำความสะอาดเลือดทั้งหมดออกไปแล้ว มันไม่น่าจะมีเลือดหยดลงมาที่ห้องของผม แล้วเลือดที่ผมเห็นล่ะมันมาจากไหน และมันมาอยู่ที่ห้องของผมได้ยังไง...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา