Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ดูก่อนนอน
•
ติดตาม
14 มิ.ย. 2021 เวลา 12:57 • นิยาย เรื่องสั้น
เรื่องสั้น ขวัญผวา ตอน หาเงินกับศพ
ผมจบมัธยมปลายเมื่อหลายปีก่อน ผมยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ของผม แต่ผมใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ ผมไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้านนั่นช่วยให้ผมสามารถประหยัดเงินได้ ผมหวังว่าวันหนึ่งผมสามารถเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ ที่ถูกกฎหมายได้ และย้ายเข้าไปอยู่ในอพาร์ตเมนต์ของตัวเอง
แต่พ่อแม่ของผมผิดหวังมาก ผมไม่ได้ทำงานที่มั่นคง ผมชอบอะไรที่เป็น DIY และเป็นเจ้านายของตัวเอง ผมรับซื้อและขายของออนไลน์ แล้วก็รับงานแปลกๆไปด้วย มันเป็นรายได้เสริมของผม และเพราะพลังของโซเชียลมีเดีย ทำให้ผมสามารถรับงานตัดหญ้าในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน และตกหิมะในฤดูหนาว ในที่สุดผมก็จะมีเงินพอที่จะซื้อรถดีๆสักคันและเริ่มไปหาลูกค้านอกเมือง รายได้ของผมพอที่จะจ้างลูกน้องสองสามคนได้เลยด้วยซ้ำ
แต่ที่จริงแล้ว ผมอยากจะมาแบ่งปันเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ผมจดจำมาจนถึงทุกวันนี้
ในปีแรกของ "ธุรกิจ" ผมทำเกี่ยวกับบริการจัดส่งดอกไม้ตามฤดูกาล ผมจะเลือกดอกไม้จากทั่วเมืองหรือซื้อจากร้านดอกไม้ในท้องถิ่น แล้วส่งไปให้คนที่ลูกค้าเลือก แม้ว่าจะไม่ใช่บริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของผม แต่ก็ทำเงินได้ดี คุณจะแปลกใจว่าบางคนยอมจ่ายเงินเพื่อความโรแมนติกในการส่งดอกไม้มากแค่ไหน
ผมมีลูกค้าประจำอยู่คนนึง เขาชื่อ เร้ด และเขาหลงใหลในแฟนสาวของเขาอย่างมาก เขาใช้บริการผมเดือนละครั้ง ผมจะส่งดอกกุหลาบหนึ่งโหลไปยังโรงแรมที่เธอทำงานอยู่ ไม่ว่าผมจะไปที่นั่นกี่ครั้งด้วยช่อดอกไม้เดียวกัน เธอก็มักจะแสดงท่าทีประหลาดใจและยินดีกับมันทุกครั้ง พวกเขามีบางสิ่งที่พิเศษจริงๆ และผมมีความสุขที่เห็นความรักของพวกเขา
แต่แล้วเดือนกุมภาพันธ์ก็มาถึง
แม้ว่างานนี้จะเป็นงานที่ไม่ค่อยได้รับความนิยม แต่พอถึงช่วงช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ลูกค้าจะเพิ่มขึ้นเหมือนปีที่แล้วแน่นอน เร้ดก็ทุ่มเทเต็มที่และเขาใช้บริการผม 3 ครั้งภายในอาทิตย์แรกของเดือน นี่ขนาดยังไม่ถึงวันวาเลนไทน์เลยนะ
เข้าสู่สัปดาห์ของวันวาเลนไทน์ มันใกล้จะถึงวันสำคัญแล้ว แต่รอบนี้มีบางอย่างแปลกไป ผมไม่ได้รับคำสั่งจากเร้ดเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปกติผมไม่ค่อยผูกพันกับลูกค้า แต่ผมชอบเร้ดและคลาร่ามาก ด้วยเหตุนี้ ผมจึงตัดสินใจติดต่อเขา
ผมพยายามโทรหาเขา แต่ไม่มีอะไรนอกจากข้อความเสียงที่บอกว่าติดต่อไม่ได้ ผมคิดว่าจะขับรถไปที่โรงแรมเพื่อถามคลาร่าเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่นั่นจะทำให้ผมผลาดงานที่เหลือที่ของผมในวันนั้นไป ผมไม่มีทางเลือก ผมจึงทำงานต่อไปและคิดในแง่บวก ว่าเขาคงกำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่างละมั้ง และผมคิดว่าไม่มีอะไรต้องกังวล
วันรุ่งขึ้น เร้ดโทรกลับมา เขาสบายดี แต่มีเขาบางอย่างจะคุยกับผม จากการคุยกันทางโทรศัพท์ สายนี้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของความแปลกประหลาด
เร้ดไม่ได้สั่งดอกไม้ไป เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์คลาร่า เขาต้องการให้สัปดาห์นั้นไม่มีการส่งของขวัญ เพื่อทำให้เธอสับสน และเซอร์ไพรส์ด้วยการขอแต่งงาน ผมมีความสุขกับพวกเขา แต่นั่นก็คือตอนที่การพูดคุยเปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝัน
เร้ดไม่มีแหวนแต่งงาน เขารวยมากและสามารถซื้อเครื่องประดับอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ แต่ไม่ใช่กับแหวนแต่งงานที่เขาจะให้คลาร่า แหวนวงเดียวที่เขาต้องการคือการแหวนของแม่เขา มันเป็นแหวนที่พ่อเคยให้กับแม่ของเขา มันเป็นมันเป็นแหวนวงเดียวที่เขาคิดว่ามันเหมาะที่สุด แต่ติดอยู่เพียงปัญหาเดียวคือ แหวนถูกฝังไว้กับแม่ของเขา ใช่ครับคุณได้ยินไม่ผิด แม่ของเค้าเสียไปนานแล้ว
เร้ดเสนอเงินสดให้ผม 10,000 ดอลลาร์เพื่อขุดหลุมฝังศพของแม่และเอาแหวนออกจากนิ้วศพ เขาบอกว่าตอนแรกเขาอยากจะทำเอง แต่เขาไม่อยากให้หลุมศพของแม่เป็นมลทินด้วยมือของเขาเอง เขาเลยจะยืมมือผม และเขารู้สึกว่านี่เป็นวิธีเดียวที่เขาจะแสดงถึงความรักที่แท้จริงของเขาได้ แต่ผมก็ยังรู้สึกว่ามันแปลกๆอยู่ดี
ผมแนะนำเขา ผมบอกให้เขาไปที่ร้านของจาเร็ด เป็นร้านขายเครื่องประดับที่มีแหวนดีๆขายอยู่เพียบ แต่อนิจจาเขาไม่สนใจมันเลย เขายังยืนยันความคิดของเขา แม้ว่าจะเป็นเงินที่จะได้ สามารถใช้เพื่อขยายธุรกิจของผมได้ แต่ผมก็ไม่ค่อยอยากรับงานแบบนี้เท่าไหร่ แต่เพราะเขาขอร้องผมอย่างหนัก ผมเลยยอมรับงานนี้อย่างไม่เต็มใจ
ผมจะไม่แก้ตัวอะไรเลย ผมรู้ว่าคุณคิดว่าผมบ้าที่รับงานแบบนี้ และใช่ ผมก็คิดแบบนั้นแหละ แต่คุณเคยมองย้อนกลับไปในสิ่งที่คุณทำในอดีตและสงสัยกันบางรึเปล่าว่า “ชั้นคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย” แต่ก็นี่เป็นช่วงชีวิตหนึ่งของผม คุณไม่สามารถย้อนกลับไปเปลี่ยนเรื่องโง่ๆ ที่คุณทำลงไปได้หรอก นี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ
ใต้แสงพระจันทร์เต็มดวง ผมขับรถไปที่สุสาน จอบที่ยื่นออกมาจากกระเป๋าเป้ของผมดูเด่นสะดุดตา หลังจากผ่านประตูทางเข้าสีดำแล้ว ผมลงเดินไปที่สุสาน
สุสานเต็มไปด้วยความหนาวเย็นช่วงปลายฤดูหนาวและความเงียบที่ทำให้ใจหวิว เสียงฝีเท้าของผมย่ำลงบนพื้นระหว่างทาง ทำให้เกิดเสียงสะท้อนที่เป็นจังหวะ ผมอยากจะตรวจรถที่วิ่งผ่านดูก่อน แต่ผมอยากเสร็จงานนี้ให้เร็วที่สุด แต่ผมกลัวผีที่ซุ่มซ่อนอยู่ในความมืด อันที่จริงผมไม่เคยเชื่อเนื่องผีหรอก แต่การอยู่กับศพที่ถูกฝังหลายร้อยศพในตอนกลางดึก มันสามารถทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน
ผมรู้สึกประหม่ามากขึ้นในทุกช่วงเวลาที่ผ่านไป ผมวิ่งเหยาะๆ ไปที่ด้านหลังของสุสานอย่างเร่งรีบ ในไม่ช้าความเร่งรีบของผมก็ถูกขัดจังหวะโดยกองหินอ่อนสีขาวสด ซึ่งสลักชื่อ “อบิเกล โกรฟวูด” ตัวอักษรดูสง่างามอย่างน่าทึ่ง นี่คือมัน นี่คือแม่ของเร้ด ถึงเวลาเริ่มงานแล้ว
ผมจะบอกว่า ณ เวลานี้ ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันผิดศีลธรรมมาก ผมกำลังจะทำลายและปล้นหลุมฝังศพของคนแปลกหน้า แล้วทำไม่ผมถึงทำแบบนี้นะหรอ คำตอบคือเงิน 10,000 ดอลล่า ที่รอผมอยู่ไงล่ะ ผมมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว ขอพระเจ้าทรงเมตตาจิตวิญญาณของผมด้วย
ผมใช้เวลาประมาณหกชั่วโมงครึ่ง ซึ่งน้อยกว่าที่ผมคิดไว้ โชคดีที่ผมเคยรับงานขุดดินมาบ้าง ผมเลยทำงานนี้ได้ดี หลังจากทำขุดเสร็จแล้ว ผมก็มองไปที่โลงศพด้านล่างและหอบหายใจถี่ แม้จะเหนื่อยแทบหมดแรง แต่ไม่มีเวลามานั่งพักแล้ว เพราะแสงแดดกำลังมา มันเริ่มจะเช้าแล้ว หลังจากสำรวจโลงศพดูแล้ว ไม่มีทางที่ผมจะเปิดโลงศพด้วยวิธีปกติเลย ผมต้องใช้พลั่วงัดตรงขอบโลง ในที่สุด ผมเปิดฝาโลงได้ ไม่ว่าแหวนจะอยู่บนมือไหนก็ตาม งานนี้ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว
ผมมองไปที่ศพผู้หญิงที่ผมกำลังจะขโมยแหวนของเขาไป ศพของเธอช่างแปลกประหลาด เธอถูกฝังไว้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น ดังนั้นเนื้อของเธอจึงยังไม่เน่าเปื่อยเต็มที่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด มันมีหนอนคลานไปทั่วทุกตารางนิ้วของศพของเธอ เป็นภาพที่ชวนอ้วกไม่น้อย
ขณะที่ผมกำลังปัดตัวนอนแมลงที่กำลังกัดกินเนื้อของศพ ผมจับมือของศพขึ้นมา แต่แล้วก็เกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้น แน่นอนว่ามันมืด แต่ผมสาบานได้ว่าผมเห็นศพของเธอลุกขึ้นนั่ง ผมสะดุ้ง จนล้มลงนั่งหลับตาปี๋ ผมตัวแข็งทื่อไม่กล้าลืมตา ผมรวบรวมกล้าทั้งหมดในชีวิตผมก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ ผมยังไม่ได้ถอดแหวนมาเลย แต่ผมไม่สนใจแล้ว ผมรีบขึ้นจากหลุมศพอย่างรวดเร็ว ผมปีนออกจากหลุม แต่ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรมาดึงข้อเท้า บางทีอาจจะเป็นมือที่เปราะบางของศพก็เป็นได้ ผมรีบวิ่งไปที่รถให้ไวที่สุด ระหว่างที่วิ่งผมอดนึกภาพเธอคลานขึ้นจากหลุมฝังศพและไล่ตามผมไม่ได้เลยจริงๆ นี่เป็นคืนที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของผม ผมกลัวตายมากกว่าเรื่องอื่น ไม่สนใจเรื่องเร้ดแล้ว หรือ 10,000 ดอลลาร์อะไรนั่น ผมแค่อยากจะออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด
แน่นอน เมื่อกลับถึงบ้าน ความคิดฟุ้งซ่านของผมก็เริ่มขึ้น และผมคิดหนักกับสิ่งที่ผมทำลงไป เป็นไปได้อย่างยิ่งศพจะขยับตัวได้หรือเคลื่อนไหวได้ แต่สิ่งที่ผมเห็นแล้วก็รู้สึกว่ามีอะไรมาจับที่ข้อเท้า มันไม่ใช่หนอนที่คลานขึ้นมาบนขากางเกงของผมแน่ ผมปล่อยให้บรรยากาศที่น่าขนลุกของสุสานหายไป ผมรู้สึกดีขึ้นแล้วและตอนนี้ผมทิ้งเงิน 10,000 ดอลล่าไปแล้ว ผมเกือบจะกลับไปเอาแหวนแล้ว แต่พอคิดถึงสุสานนั่นผมก็ยุติความนั่นไป อีกเหตุผลนึงก็คือ พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว ผมไม่อยากเสี่ยงเพราะมันอาจทำให้ผมเข้าคุกได้ ผมไม่รับสายของเร้ดประมาณสองสามวัน แต่ไม่นาน การปล้นหลุมฝังศพที่ล้มเหลวของผมก็กลายเป็นข่าวดังไปทั่ว ตำรวจสืบพบว่าเป็นฝีมือของผม นี่แหละคือสิ่งที่ผมตัดสินใจพลาดที่สุดในชีวิต อันที่จริงสิ่งที่ผมกลัวที่สุดไม่ใช่การถูกจับ แต่เป็นเนื้อหาในข่าวที่บอกว่า โลงศพนั้นว่างเปล่าและศพหายไป
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
เรื่องสั้น ขวัญผวา
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย