#LawSchool EP.2 (1) หลังดูคิดยังไง
เปิดมาที่เดือนตุลาปี 2010 สังเกตว่าซลเอใส่ชุดนักเรียนและมีเรื่องจนต้องขึ้นโรงพัก แต่คนที่เป็นคนดูแลคดีนี้คืออาจารย์ยังในตอนนั้นที่เป็นอัยการอยู่นั่นเอง
แสดงว่าทั้งสองเคยรู้จักกันมาก่อน และจากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้ว่าแม้ว่าคู่กรณีจะเป็นใครแต่เพื่อความยุติธรรมต่อทั้งสองฝ่ายเขาถึงกล้าเสนอกับหัวหน้าเขาเองจนเกือบโดนไล่ออก
และนั้นอาจจะเป็นความประทับใจแรกที่ซลเอมีต่ออาจารย์ยัง และสำหรับคนดูทำให้รู้สึกว่าตัวละครซลเอน่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย
แต่ประเด็นคืออาจารย์ยังยิ้มแบบเอ็นดู คือน่ารักมาก
แล้วก็ตัดไปตอนอาจารย์ยังถูกจับ บอกตามตรงว่ากำลังรู้สึกระมุนๆอยู่หายวับแบบไม่ทันตั้งตัว อย่าพิมพ์คอมเม้นต์เหมือนใน wetv ว่า ไบโพลาร์จ้า
คำให้การของนักศึกษาที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยทำให้พอรู้อะไรเพิ่มเติม
จอนเยซึล เทอน่าจะเข้าไปตอนที่อาจารย์เสียชีวิตแล้ว แต่ถ้าไม่พูดถึงรอยช้ำที่ข้อมือที่กล้องเคยแพลนให้เห็นตอน EP 1 ก็บอกตามตรงว่าแอบตัดคนนี้ออกจากลิสผู้ต้องสงสัยไปแล้ว
ต่อมา ซอจีโฮ หนุ่มเนิร์ดใส่แว่น เขาถือเป็นหนึ่งในคนที่น่าสงสัยลำดับต้นๆเลยเพราะเขาทำตัวลับๆล่อตอนลบไฟล์บางอย่างในคอมพิวเตอร์ แต่เขาให้การว่าเขาเข้าไปเจออาจารย์ที่นั่งปวดหัวอยู่ ซึ่งแสดงว่าตอนนี้อาจารย์ซอยังไม่ตาย
เหมือนซีรี่ย์ต้องการจะสื่ออะไรบางอย่างกับการตัดไปมาระหว่าง จุนฮวีที่กำลังให้ปากคำกับอาจารย์ซอที่น่าจะกำลังเดินเข้าโรงพัก
ดูครั้งแรกไม่ได้คิดอะไรแค่คิดว่าซีรี่ย์อยากให้รู้ว่าขณะที่ให้ปากคำอาจารย์ยังก็กำลังเข้ากรมตำรวจแล้ว แต่ถ้าคิดอีกมุมคือ จุนฮวีวางแผนบางอย่างหรือเปล่า เป็นผู้บงการเพื่อให้อาจารย์มาพบเจอเรื่องราวแบบนี้ ตอนอาจารย์ยังสบตาตอนเดินผ่านอาจารย์ถึงได้พยักหน้าเหมือนเข้าใจบางอย่าง
หรือจุนฮวีไม่ใช่ผู้บงการแต่มีแผนบางอย่างที่เกี่ยวกับอาจารย์ยังในช่วงหลังจากนี้
แต่การข้ามคำให้การของจุนฮวีทั้งแบบนั้นมันน่าสงสัยหรือเปล่านะ
ต่อมาเป็น ซลบี เธอได้พูดคุยกับอาจารย์ตอนที่อาจารย์ซอยังสติครบถ้วนดี ตอนนั้นที่เธอตอบห้วนๆดูไม่ให้ความร่วมมือก็คิดว่าน่าจะเพราะคาแรคเตอร์ของเธอหรือเปล่า
picture from Netflix
ตาอาจารย์ยังให้การบ้าง อยากให้ไปลองฟังเอง เพราะอาจารย์ยังคือนิ่งมาก ดูมีสติมากและอะไรที่เป็นสิทธิตามกฎหมายเขาก็ไม่ปล่อยไปเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่อาจารย์ยังคือตอบได้หมดจริงๆ และมันทำให้แอบคิดไปว่าอาจารย์ไม่ใช่คนร้ายหรอก แต่พอมีหลักฐานเรื่องตั๋วเครื่องบินก็ทำเอาเงิบเลยจ้า
แล้วมันเหมือนเตรียมการมาเพื่อหนีจริงๆซะอย่างนั้น
เบาะแสต่อมาคือโน๊ตบุ๊คของอาจารย์หายไป
แต่เห็นด้วยกับคุณตำรวจนะคะที่บอกว่าคุยกับคนเรียนกฎหมายนี่มันยากเย็นเหลือเกิน5555
แล้วเขาได้พูดถึงรอยเข็มบนตัวผู้ตายที่ฉีดอินซูลินเข้าไปเพื่อรักษาโรคเบาหวาน สาเหตุที่เขาคิดแบบนั้นเพราะยาไอซ์ที่อาจารย์ซอเสพนั้นเป็นลักษณะผงไม่ใช่แบบฉีด
และแล้วผลตรวจก็ออก ว่าดีเอ็นเอของเส้นผมที่อยู่ในมือผู้ตายตรงกับอาจารย์ซอ ตอนนั้นคืออยากกรี้ดมาก แล้วอาจารย์คิมก็มาหาดูออกมาว่าเธอเป็นห่วงมากแต่อาจารย์ยังก็ไม่รับความเป็นห่วงของเธอเลย
ความรู้สึกของเราในตอนนั้นคือทีมอาจารย์คิมเลยค่ะ เวลาแบบนี้ช่วยร้อนใจในการช่วยเหลือตัวเองจากการถูกปรักปรำหน่อยได้มั้ย
เพราะดูแล้วอาจารย์คิมน่าจะเป็นคนสนิทมากๆคนหนึ่งของอาจารย์ยังและฌะอรู้ดีกว่าอาจารย์ยังไม่มีทางทำเรื่องเช่นนี้ได้แน่ๆ
แต่คำตอบของอาจารย์ยังยังคงเป็นข้อสอบกลางภาค... จนใจจริงๆค่ะ อุแง
กลับมาที่ศาลจำลอง บอกตามตรงว่าชอตที่กล้องแพลนไปหาแต่ละคนคือแทบมึนเลยค่ะ แต่สีหน้าแต่ละคนส่วนใหญ่จะไปในแนวนิ่งเฉยไม่ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อละมั้งคะ
แต่คำพูดของซลบีทำให้แอบคิดไม่ได้ว่าหรือเธอจะเป็นคนร้ายหรือเปล่า เพราะตอนที่ซลเอพูดถึงยื่นหนังสือร้องทุกข์เธอก็ขัดขึ้นมาทันทีเหมือนกับว่าไม่ให้ทุกคนถูกโน้มน้าวสำเร็จ
แต่อีกใจก็แอบคิดว่าเธออาจจะแค่เห็ต่างเพราะไม่ได้รู้จักกับอาจารย์ยังมาก่อนและคิดแค่เขาว่าเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น
"อาจารย์ยังไม่ใช่คนที่จะฆ่าใครได้" ซลเอตอบซลบีอย่างมั่นใจแต่อยู่ๆ ยูซึงแจก็ค้านขึ้นมา
อยากบอกว่าจีโฮถามเหมือนรู้ว่าเราสงสัยเลย แต่แทนที่ซึงแจจะตอบตรงๆว่าทำไมถึงคิดว่าอาจารย์จะเป็นคนร้ายกลับตอบตามหลักสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์เสียอย่างนั้น
หรือซึงแจจะมีส่วนเกี่่ยวข้องกับการตายของอาจารย์ซอหรือเปล่า
แล้วการที่ซลบีมาฝากให้ซลเอไปถามอาจารย์เรื่องการสอบในคุก เอาจริงๆเราเข้าใจนะว่าตอนนี้ซลเอแสดงตัวว่าอยากช่วยอาจารย์ยังมากที่สุดและดูสนิทกับอาจารย์ยังมากที่สุดเลยทำให้เธอโดนดันเป็นตัวแทนไปคุยกับอาจารย์ยัง
แต่การที่คนๆหนึ่งถูกจับกุมเข้าคุกทั้งยังเป็นคนรู้จักยังไงมันก็ควรรักษาความรู้สึกของคนถูกจับด้วย แม้ว่าอาจารย์อาจจะไม่รู้สึกอะไรแต่ถ้าเป็นเราก็คิดว่าเราควรไปหาด้วยความเป็นห่วงหรือไปด้วยอยากจะช่วยเหลือมากกว่าจะมาถามเรื่องงานแบบนี้
แล้วคนอื่นๆกลับเห็นตรงกับซลบีเสียอย่างนั้น
เข้าใจซลเอเลยว่ามันน่าจะรู้สึกหัวเสียเลย เพราะการไปหาคนที่ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาพูดคุยใรสภาพแบบนี้มันรู้สึกลำบากใจขนาดไหน เข้าไปเพื่อบอกว่าเป็นห่วงอาจารย์ท่านจะคิดยังไง มองเธอแย่หรือเปล่าที่แทนที่จะเอาเวลาไปอ่านหนังสือกลับมาทำอะไรไร้สาระแบบนี้
แต่ถ้าไปด้วยใจ ก็เชื่อว่ามันต้องเป็นกำลังใจให้ได้แน่นอนค่ะ
ปล. นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวที่ไม่ได้มีความรู้ในสายงานด้านภาพยนตร์ใดๆ มาพูดในฐานะผู้ชมคนหนึ่งเท่านั้นและสนใจที่อยากจะรู้ดีเทลเกี่ยวกับเรื่องนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นคิดเห็นกันยังไงคอมเม้นต์แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ ฮริ๊ง
หากมีข้อผิดพลาดประการใดสามารถทักท้วงเพื่อแก้ไขได้นะคะ
แล้วก็อย่าลืมอุดหนุนลิขสิทธิ์ได้ที่ Netflix ค่า
ถึงรูปภาพบางอันไม่ได้เอามาจากNetflixเพราะเอามาจากgoogle
แต่จะพยายามหาภาพที่เขียนเครดิตเอาไว้แล้วนะคะ
ส่วนเราดูจาก Netflix แท้ไม่ได้ดูเถื่อนนะฮะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ
cr Netflix
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
