ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้จริง ๆ สำหรับเทคโนโลยีในยุคนี้ การสำรวจอวกาศกลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้บ่อย แต่สิ่งที่กำลังก้าวหน้าไปอีกขั้นนั้นคือ เทคโนโลยีบล็อกเชน ที่สามารถใช้งานนอกโลกได้ หรือก็คือบนอวกาศนั่นเอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันว่า SpaceChain คืออะไร ทำไมต้องสร้างบล็อกเชนไว้บนอวกาศ
SpaceChain คืออะไร ?
SpaceChain เป็นบริษัทสตาร์ทอัพบล็อกเชนชื่อดังของสิงคโปร์ เปิดตัวขึ้นมาในช่วงเดือน มีนาคม ปี 2017 โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่รวมกันระหว่างเทคโนโลยีอวกาศ และ เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมด้วยระบบบล็อกเชนแบบ Open-Source แห่งแรกของโลก
ซึ่งเครือข่ายดาวเทียมนี้จะเป็นดาวเทียมแบบโคจรต่ำ ทำให้ทั้งคนที่อยู่บนโลก และอยู่ในอวกาศ สามารถใช้งานและพัฒนา Decentralized Application (Dapp) หรือ แอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ ที่ทำงานอยู่บนเครือข่ายดาวเทียมนอกโลกได้นั่นเอง ตัวอย่างเช่น การแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี การรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัส (Peer To Peer) หรือ ระบบ VR (NFT) และ Dapp ที่รอการเปิดตัว เป็นต้น
แน่นอนว่าการทำธุรกรรมทุกอย่างล้วนปลอดภัย ตรวจสอบได้เนื่องจากทำงานอยู่บนระบบ บล็อกเชนของ Ethereum อย่างที่เราทราบกันดีว่า Ethereum มีจุดเด่นในเรื่องของ Smart Contact ซึ่งทำให้สามารถทำธุรกรรมสัญญาได้อย่างปลอดภัย และมี Node จำนวณมากที่คอยตรวจสอบดูแลการเข้ารหัสสำหรับการทำธุรกรรมแบบไร้ตัวกลาง
SpaceChain มีโปรเจคอะไรที่น่าสนใจบ้าง
1.SpaceChain OS คือ ระบบปฏิบัติการแบบ Open Source การเปิดให้นำ Source Code ของ SpaceChain ไปพัฒนา แอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ (Dapp) ต่อได้ฟรี ๆ และทำได้ง่าย โดยระบบนี้ได้เริ่มใช้งานจริงตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 และมีการพัฒนาระบบปรับปรุงความเสถียรอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
2.SpaceChain Hardware คือ โปรเจคที่ SpaceChain กำลังสร้างชิปคอมพิวเตอร์ชนิดพิเศษสำหรับใช้ในเครือข่ายดาวเทียม โดยมีจุดประสงค์เพื่ออัปเดตติดตามความคืบหน้าของทีม ให้กับหุ้นส่วนของบริษัทรวมถึงผู้ที่สนใจในโปรเจคของ SpaceChain อีกด้วย
3.Satellite Launches ในส่วนของโปรเจคนี้คือความพยายามของทาง SpaceChain ที่จะส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศเพิ่ม เพื่อพัฒนาให้ระบบเครือข่ายดาวเทียมแบบกระจายศูนย์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ทำไมต้องสร้างบล็อกเชนไว้บนอวกาศ
SmartChain ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2021 ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้ทำการปล่อยตัว Payload ที่มีคุณสมบัติในการใช้งานร่วมกับบล็อกเชนออกจากศูนย์อวกาศ Kennedy Space Center ในสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยโดยใช้บริการจรวด SpaceX Falcon 9
ทั้งนี้ยานอวกาศที่ใช้ในการขนส่งดังกล่าวมีชื่อว่า "Dragon" จาก SpaceX ได้ทำการเทียบท่าเข้ากับ Module Harmony ของตัวสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) อย่างปลอดภัยเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา
จากรายงานของทางเว็บ SpaceChain ได้ออกมาเปิดเผยว่าที่ภารกิจนั้นสำเร็จลุล่วงได้ดี เกิดจากการร่วมมือกันของ Nanoracks พร้อมการทำข้อตกลงระหว่าง Space Act และ NASA ในการปล่อย Payload บล็อกเชนไปยังห้วงอวกาศเป็นลำดับที่ 4 แต่ทีเด็ดของครั้งนี้คือ ได้มีการนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชน Ethereum มาควบรวมกับฮาร์ดแวร์เป็นครั้งแรกซึ่งเกิดขึ้นบนสถานีอวกาศนานาชาติ กลายเป็นอีกความน่าภาคภูมิใจในวงการวิทยาศาสตร์ที่ซึ่งมนุษย์ทำออกมาได้สำเร็จ
Zee Zheng หนึ่งในผู้ก่อตั้ง และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO ของ SpaceChain ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เราทุกคนมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากเมื่อนำเอาแพลตฟอร์ม Ethereum ไปสู่อวกาศได้สำเร็จ อีกทั้งยังมีการทดสอบถึงข้อสงสัยที่ว่า เหตุผลใดระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ของดาวเทียมควรต้องมองเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชน ย้อนกลับไปในปี 2019 เราได้มีการปล่อย Payload ตัวทดลองสำหรับการใช้งานกับ Bitcoin ออกไปแล้ว และวันนี้ก็เป็นคิวของ Payload จาก Ethereum อันถือเป็น Payload รุ่น 2 ของเราด้วย”
“และอย่างที่รู้กันว่า Bitcoin กับ Ethereum คือ 2 ระบบบล็อกเชนที่มีระบบนิเวศใหญ่สุดของโลกในตอนนี้ ยิ่งจุดเด่นหลักของ Ethereum คือการมี Smart Contract ทำให้การดำเนินงานในอวกาศจะยิ่งเพิ่มระดับความแข็งแกร่งให้กับตัวบล็อกเชน โดยช่วยเสริมระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้นเมื่อต้องทำธุรกรรม ที่สำคัญยังเป็นการช่วยให้คนที่ลงทุนใช้งานและตัวนักพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมกับเทคโนโลยีที่เราสร้างสรรค์มากขึ้นกว่าเดิม”
ขณะที่ Jeff Garzik ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผู้ก่อตั้งและ CEO ของ SpaceChain ก็ได้พูดถึงความสำคัญของ Ethereum ที่อยู่ในอวกาศเมื่อนำไปใช้กับองค์กรทั่วไปโดยสรุปว่า ระบบนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยและจุดอ่อนต่าง ๆ ซึ่งเซิร์ฟเวอร์ประเภทรวมศูนย์บนโลกนั้นไม่สามารถทำได้ อีกทั้งยังเป็นโอกาสอันดีในเชิงพาณิชย์ด้านอื่น ๆ อีกด้วย
SpaceChain Token (SPC) ใช้ทำอะไร
จุดประสงค์หลักของ SpaceChain Token เป็นหนึ่งในเหรียญ ERC-20 โดยมีไว้เพื่อชำระค่าบริการในการเข้าถึงการใช้งาน และ Source Code สำหรับการพัฒนาบน SpaceChain OS นอกจากนั้นสำหรับใครก็ตามหรือบริษัท ที่ต้องการสร้าง Dapp โดยใช้พื้นที่ของ SpaceChain OS ในเชิงพาณิชย์ ก็ต้องจ่ายค่าบริการเป็น SpaceChain Token เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากคุณสร้าง Application (App) ขึ้นมาแล้วต้องการให้คนมาดาวน์โหลด App ของคุณไปใช้งาน คุณก็ต้องนำ App ที่คุณสร้างไปไว้บน App Store หรือไม่ก็ Google Play ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับการนำ App ของเราไปวางไว้บนแพล็ตฟอร์มเหล่านี้ โดยจะจ่ายเป็นเงิน Fiat หรือส่วนใหญ่จะเป็นเงินสกุลดอลลาร์
ในทำนองเดียวกัน สำหรับการนำ Dapp ไปไว้บน SpaceChain OS ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกันเพียงแต่เปลี่ยนจากจ่ายด้วยดอลลาร์ เป็น SpaceChain Token เท่านั้นเอง...
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
