24 มิ.ย. 2021 เวลา 16:03 • คริปโทเคอร์เรนซี
ด้วยสกุลเงินดิจิทัล หรืออาจเรียกว่าเหรียญ คริปโตเคอเรนซี เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นในยุคนี้ ส่งผลให้เกิดการคิดค้นและนำเสนอสกุลเงินต่าง ๆ ให้กับผู้ที่สนใจอยากลงทุนซื้อเก็บไว้เก็งกำไร หรือนำไปใช้งานตามความเหมาะสม Tether (USDT) ก็จัดเป็นอีกประเภทเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่ได้รับความนิยมสูง อีกทั้งยังมีค่าเงินอย่างดอลลาร์สหรัฐ (USD) คอยเป็นแบล็คอัพให้อีกต่างหาก เรามาศึกษาถึงสกุลเงินนี้ไปด้วยกันว่าเหรียญ Tether (USDT) คืออะไร ใช้ทำอะไร ปลอดภัยหรือไม่
Tether (USDT) คืออะไร
Tether (USDT) คือ Stablecoin หรือ สกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าคล้ายกับสกุลเงิน Fiat หรือพวกบรรดาเงินกระดาษ ที่เราใช้งานกันมาเนิ่นนาน Tether นั้นสร้างบนบล็อกเชนของ Ethereum นอกจากนั้นยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลแบบ Stablecoin เหรียญแรกของโลกอีกด้วย
ซึ่งการสร้างสกุลเงินนี้ขึ้นมาจะใช้ค่าเงิน USD ฝากไว้ค้ำประกันกับผู้ดูแลหลักทรัพย์ เพื่อค้ำประกันมูลค่าของ USDT โดยวางค้ำประกันแบบ 1:1 และมีสำนักงานกฎหมายใน washington เป็นผู้ตรวจสอบ นี่จึงเป็นเหตุผลที่บอกว่าทำไมเงิน USD จึงกลายเป็นแบล็คอัพชั้นเยี่ยมที่ทำให้ Tether (USDT) ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีมาร์เก็ตแคปสูงเป็นอันดับ 3 ขนาดถูกจัดให้อยู่ในระดับเทียบเคียงกับเหรียญคริปโตรุ่นพี่ที่ใคร ๆ ก็รู้จักอย่าง Bitcoin, Ethereum, XRP ซึ่ง Tether (USDT) มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจาก Bitcoin และ Ethereum โดยมูลค่าตลาดล่าสุดแตะ 60 พันล้านดอลลาร์ไปเรียบร้อย
Tether (USDT) ใช้ทำอะไร ?
โดยปกติหากเราต้องการซื้อสินค้าเราจะใช้สกุลเงิน Fiat ในการจับจ่ายใช้สอย แต่ในกรณีของสินทรัพย์ดิจิทัลหากเราจะซื้อสินทรัพย์พวกนั้นเราต้องนำสกุลเงิน Fiat ไปแลกเป็น Stablecoin ซะก่อนเหมือนกับเวลาที่คุณต้องการจะเล่นตู้เกมคุณก็ต้องนำเหรียญของคุณไปแลกเป็นโทเคนที่เคาท์เตอร์ถึงจะนำโทเคนที่แลกมานั้นหยอดตู้เกมได้ Stablecoin ก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน และมันยังช่วยรักษามูลค่าเงินของคุณอีกด้วย ซึ่ง StableCoin ที่ได้รับความนิยมที่สุดก็คือ USDT เนื่องจากเขาทำงานอยู่บนบล็อกเชนของ Ethereum ทำให้เหรียญ USDT ถือว่าเป็นหนึ่งในเหรียญ ERC-20 ที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จเพราะอยู่มานานกว่า Stablecoin ตัวอื่นๆ และมี Market Cap ที่ใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่อง Supply ของเหรียญ ทำให้ราคาของเขาจะผันผวนน้อยกว่าเหรียญอื่น
Tether (USDT) จะใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน คริปโตเคอเรนซี ยกตัวอย่างเช่นหากคุณใช้ Bitcoin ซื้อ Ethereum มา แล้วราคาของ Ethereum พุ่งสูงขึ้น คุณจึงต้องการขายเพื่อทำกำไรกลับมาเป็น Bitcoin แต่ถ้าเกิดคุณโชคไม่ดีระหว่างที่คุณกำลังจะขาย Ethereum กลับไปเป็น Bitcoin ราคาของ Bitcoin ดันตกฮวบลงมาคุณอาจจะขาดทุนได้แทนที่จะกำไร แต่ถ้าคุณขายกลับมาเป็น USDT ก่อน จะไม่มีปัญหาดังกล่าวเนื่องจาก USDT ไม่ผันผวนเพราะอิงกับสกุลเงินดอลลาร์ คุณเพียงคำนึงถึงราคา Ethereum อย่างเดียวก็พอ
นอกจากนี้ หากคุณต้องการโอนเหรียญของคุณไปยัง Exchange อื่น USDT จะมีประโยชน์กับคุณอย่างมากเนื่องจากหากคุณนำเหรียญคริปโตเคอเรนซีตัวอื่นโอนไปยังอีก Exchange ก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องของความผันผวนในมูลค่าของเหรียญ แต่ถ้าคุณนำเหรียญคริปโตเคอเรนซีของคุณมาแลกเป็น USDT ก่อนแล้วค่อยโอนเรียญ USDT ไปอีก Exchange จะลดความเสี่ยงในการผันผวนของราคาได้
Tether ปลอดภัยไหม และมีความเสี่ยงอะไร ?
ผมเชื่อว่าหลายคนก็คงไม่มั่นใจที่ Tether เขาบอกว่า ทุกหนึ่งเหรียญ USDT จะมีเงิน หนึ่งดอลลาร์ค้ำประกันอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง หรือแค่คำโฆษณากันแน่ เรื่องนี้เองยังนับว่าครุมเครือ เพราะก่อนหน้านี้มีผลการตรวจสอบว่า Tether มีดอลลาร์ครอบคลุมสำหรับการค้ำประกันเหรียญ USDT ได้ไม่ครบทั้งหมด 100 % แต่ถึงจะยังมีความไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ USDT ก็ยังคงครอง Market Shared เป็นอันดับ 1 ของเหรียญที่เป็น Stablecoin อยู่ดี
เนื่องจาก ถ้าถามกลับว่าเงินดอลลาร์สหรัฐมีทองคำหนุนหลังอยู่เหมือนกัน แล้วเรารู้ไหมว่าธนาคารกลางสหรัฐมีทองคำอยู่ในคลังมากพอที่จะหนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้จริงหรือไม่ คำตอบก็คงเป็น "ไม่รู้ "ใช่ไหมล่ะครับแต่ถึงแบบนั้น เงินดอลลาร์สหรัฐก็ยังคงเป็นสกุลเงินหลักในระบบเศรษฐกิจของโลกอยู่ดี รูปแบบของ USDT ก็เช่นเดียวกันไม่สำคัญหรอกครับว่า USDT จะมีเงินดอลลาร์ค้ำประกันแบบ 1:1 หรือไม่หากผู้คนเชื่อว่ามันมีค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์ มูลค่าของมันก็จะคงเป็นเช่นนั้นต่อไป
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า Tether (USDT) ไม่ใช่ Stablecoin เพียงตัวเดียว เพราะยังมีผู้พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ ระดับความน่าเชื่อถือก็แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับตัวผู้พัฒนาและความชัดเจนในเรื่องของสินทรัพย์ค้ำประกัน ดังนั้นใครที่สนใจในการซื้อสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้เก็บไว้อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามข่าวสาร หรือความนิยมในช่วงเวลานั้น ๆ ด้วย เพื่อลดโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาดจนทำให้ขาดทุน เพราะทุกการลงทุนย่อมเกิดความเสี่ยงได้ทั้งสิ้น การศึกษาข้อมูลอย่างชัดเจนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา