30 มิ.ย. 2021 เวลา 13:06
ลอนดอน

💠British Museum💠

🔸 การกำเนิดของพิพิธภัณฑ์ หลายแห่งในโลก​ เริ่มจากการสะสมส่วนตัว ของใครซักคน หรือหลายๆคน​ ที่มีความสนใจเรื่องแนวนี้ ก่อนจะก่อตั้งเป็นกลุ่ม เป็นชมรมฯ จนเป็นพิพิธภัณฑ์ ติดตามมา ด้วยนานาสาเหตุ
▪️
🔸 British Museum ก็เช่นกัน ที่มีจุดกำเนิด จากนายแพทย์หนุ่ม จากครอบครัวชนชั้นกลางชาวไอริช ผู้หลงรักธรรมชาติวิทยา​, แพทย์ศาสตร์ และโลกแห่งพฤกษศาสตร์
▪️
🔸คุณหมอหนุ่ม​ เจริญก้าวหน้าในการงาน มีชื่อเสียง มีบุคคล ระดับสูงของสังคมอังกฤษ​ วนเวียนเป็นลูกค้ามากมาย และในมากมายเหล่านั้น มี Queens Anne, King George I และ King George II ซึ่งต่อมา ได้ร่วมกันก่อกำเนิด​ เป็น British Museum
▪️Alexander The Great ▪️
🔸 การออกเรือสู่​ Jamaica ในยุคค้าทาส นอกจากจะทำให้ Hans Sloane คุณหมอหนุ่มชาวไอริช สร้างความมั่งคั่ง จากอาชีพ ที่ผูกขาดการดูแล​รักษาทาส ที่ไม่ต่างสินค้าแล้ว ที่ Jamaica, Ivory Coast และ Ghana หมอ Sloane ได้สะสมพันธุ์พืช สัตว์สายพันธุ์แปลก ไว้กว่าหนึ่งพันชนิด จนเป็นขุมพลัง​ ในความรู้
▪️พระนางตารา Tara พระโพธิสัตว์หญิง ตามคติพุทธมหายาน จากศรีลังกา หนึ่งในโบราณวัตถุ ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และคำถาม ของ British Museum ▪️
▪️
🔸 บวกกับเมื่อแต่งงาน กับลูก​สาวคหบดีชาวอังกฤษใน Jamaica นั่น ยิ่งเพิ่มทุน ​ให้กับ Sir Hans Sloane ได้สนุกสนาน ในแนวทางที่ตนชื่นชอบ อย่างติดจรวด
▪️ พระพุทธรูปจากประเทศไทย ▪️
🔸 การออกผจญภัยในต่างถิ่น​ เพื่อค้นหา​ ซื้อหา​ มาสะสมไว้ ทั้งจากนักสะสมด้วยกัน ที่มีอยู่ทั่วในอาณานิคมของอังกฤษ ทำให้จำนวนของสะสมในมือ Sir Sloane เพิ่มขึ้นตามวันเวลา และจากวัยหนุ่ม​จนถึงแก่เฒ่า คุณหมอมีสะสมอยู่ กว่าแสนชิ้น
▪️ ตุ๊กตาลายครามจีนหมิง ศ : 15-16 ▪️
▪️กลุ่มพระพุทธรูปคันธาระ คุปตะ ปาละ▪️
▪️
🔸 บ้านทุกหลังของหมอ Sloane ในลอนดอน กลายเป็นที่ชุมนุม ของผู้รู้ทางธรรมชาติวิทยา นักประดิษฐ์ นายแพทย์ และนักโบราณคดี ทั้งชาวอังกฤษ​ และจากทั่วยุโรป รวมถึงพระราชวงศ์ และกษัตริย์ของอังกฤษ ที่ล้วนเคยเสด็จฯ แวะเวียน มาสนทนากับ​หมอ​ Sloane
▪️ Easter Island Stone ▪️
🔸 Sir Hans Sloane เสียชีวิตในวัย 92 โดยระบุไว้ในพินัยกรรม ว่ายกมรดก ซึ่งคือของสะสมทั้งหมด นับแสนชิ้นนี้ ให้กับพระเจ้า George II โดยมีเงื่อนไขว่า ขอให้รัฐสภาอังกฤษ สร้างพิพิธภัณฑ์ขึ้น เพื่อเก็บรักษาของล้ำค่า และยังระบุเป็นข้อแม้สำคัญไว้ ว่าต้องเปิดโอกาสให้สาธารณะชน ได้เข้าชมของสะสม ในพิพิธภัณฑ์นี้​ได้โดยง่าย และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไม British Museum จึงไม่เคยเก็บค่าเข้าชมเลย ตลอด 250 ปีอันยาวนาน
1
▪️
💠 (รัฐสภาอังกฤษ ออก Museum Lottery มาเพื่อระดมทุน และปัจจุบัน มีตู้รับบริจาค ตั้งอยู่ บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์ โดยมารยาท​ ผู้เข้าชม​ ควรหยอดลงตู้ ประมาณ 5 -10 ปอนด์)​💠
▪️
🔸 อาคารและพื้นที่ ของ​พิพิธภัณฑ์ รัฐสภาอังกฤษ จัดหาทุนมาซื้อและสร้าง และขยายเติบโต ตามกาลเวลา จนปัจจุบัน British Museum มีของสะสมอยู่​ในคลัง กว่า 8 ล้านชิ้น และเชื่อกันว่า​ นี่คือพิพิธภัณฑ์ ที่มีโบราณวัตถุ​ และวัตถุสะสมจัดแสดง มากกว่าใครในโลก โดยเปิดให้เข้าชม​ มากมายกว่า 100 ห้องจัดแสดง
1
▪️ 1- 4 ภาพวาดภายในสุสานอียิปต์ ให้รายละเอียด การใช้ชีวิตของยุคสมัย เห็นความสมบูรณ์ของพืชพันธุ์ ตลอดลำน้ำไนล์ & การล่าสัตว์ การเก็บเกี่ยว โดยมี Nebamun ตรวจตรา ทำบัญชีคลังอาหาร ถึงภาพชนชั้นสูง ในงานเลี้ยง ที่มีนักดนตรี ขับกล่อม ▪️
🔸 ชั้น Ground Floor จะเป็นของสะสมจาก​เอเชีย ธิเบต​ จีน อินเดีย พม่า ศรีลังกา ฯลฯ รวมถึงโบราณวัตถุไทยเรา โดยลึกเข้าไปในชั้นนี้ จะเป็นงานสะสม ประติมากรรม​ ทั้งโรมันและกรีกโบราณ
▪️
▪️
▪️
▪️ Parthenon Sculptures ▪️
🔸 ในส่วนของ Ancient Greek ดูเหมือนว่า British Museum จะยกมหาวิหาร ยุคโบราณ Temple of Artemis หรือ Temple of Diana มาไว้ที่นี่ แต่ที่จริง British Museum ได้ซื้อทับหลัง งานแกะสลักจำนวนมหาศาล ที่เคยกองระเกะระกะ อยู่ที่ Parthenṓn เหล่านี้ ต่อมาจากคหบดีชาว​ Scottish
▪️
🔸 คหบดีชาวสก๊อตฯ ได้ซื้อและขน ปฎิมากรรม และชิ้นส่วนมหาวิหาร Parthenṓn​ ในกรีก สมัยยังที่ทำงานอยู่ที่นั่น เพื่อนำกลับมาที่คฤหาสน์​ของตน​ใน Glasgow แต่การต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล กว่า 7 ล้านปอนด์ เมื่อ​ 100 ปีก่อน​ สร้างความเสียหาย จนต้องนำทับหลัง​และเสาหิน ​รวมถึงปฎิมากรรม​ จำนวนมหาศาล ขายต่อให้กับพิพิธภัณฑ์ ในราคาเพียงครึ่งเดียว​
▪️ พระอมิตาพุทธะ สูง 5.8 เมตร ศตวรรษ ที่ 6 จากมณฑลหูเป่ย รัฐบาลจีนมอบให้พิพิธภัณฑ์ ใน ปี ค.ศ.1937 ▪️
▪️ภาพสเก๊ตช์โดย Micheal Angelo ก่อนศิลปินผู้ช่วย​ จะนำไปลงสีในมหาวิหาร​ ในภาพคือพระแม่มารี​ มีพระเยซูอยู่ใต้ขา​ เด็กด้านซ้ายคือโจเซฟ​ ส่วนมือซ้ายของพระแม่มารี​ ผลักจอห์น​สามีออกไป​ ผู้ชายทางขวาไม่ทราบ​ รูปนี้ไม่ทราบความหมาย ของศิลปิน ▪️
🔸 ที่ชั้นสอง Upper Floor ที่นี่รวบรวมโบราณวัตถุ จากตะวันออกกลาง, ออตโตมาน และเปอร์เซียโบราณ​ มีทั้งทองคำ งานหินแกะสลัก​ขนาดใหญ่ ที่ขนมา​จาก Persepolis พระราชวังโบราณของเปอร์เซีย​ ที่เคยได้ชื่อว่า ใหญ่โต และมั่งคั่งที่สุด​ ภายใต้ดวงอาทิตย์ ก่อนจะถูกเผาทำลาย​ลง โดยกองทัพของอเล็กซานเดอร์ฯ
▪️ Ancient Persia ▪️
▪️ หินแกะสลักจาก Gate of Nation ใน Persepolis : Iran Persia ▪️
▪️ 1-3 พระมาลา​, ช่อมะกอก​, หน้ากากทองคำ ▪️
▪️ รถม้าทองคำ Achaemenid Empire เปอร์เซีย 559-331 ก่อนคริสต์ศักราช ▪️
▪️
▪️ เหรียญทองคำ ทุนทำสงคราม The War of the Roses : ศตวรรษที่ 15 ▪️
🔸 ชั้นนี้นี้ ยังมีโบราณวัตถุจากกรีก และจากแผ่นดินใหญ่ยุโรป รวมถึงของอังกฤษเอง ทั้งจากชุดเกราะนักรบ ดาบ เหรียญทองคำ ที่ใช้เป็นทุน ในการทำสงคราม ​War of the Roses รวมโบราณวัตถุอีกมาก ที่เกี่ยวพันกับสงครามยุคโบราณ​ อีกหลายร้อยชิ้น 🔸แต่ส่วนจัดแสดง ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ให้ความสนใจมากที่สุด คงไม่พ้น โซนจัดแสดง ​อียิปต์โบราณ
▪️ Human Mummy - Wrapping มัมมี่ไม่ทราบชื่อ ถูกพันร่างด้วยกรรมวิธีที่พิถีพิถัน บริเวณใบหน้า และตลอดตามลำตัว เขียนด้วยสี อย่างชัดเจน ▪️
▪️
▪️Artmidorus Mummy วาดรูปของชายหนุ่มวัย 20 เศษ ไว้บนโลง รวมถึงคำจารึก ในภาษากรีกว่า Farewell Artmidorus▪️
▪️Animal Mummy▪️
▪️
▪️
🔸 ยิ่งเขียน​ ทำท่าจะยืดยาว ดูท่าน่าจะจบยาก เอาว่าขอเลือก โบราณวัตถุ 5 ชิ้นใน British Museum มาลงไว้พอสนุก​ บรรยายไว้พอรู้ ไล่เรียงลงไว้​ ดูกันให้ฉ่ำตา ไปด้วยกัน⬇️
▪️ Nero ▪️
⬆️ (1)​ Nero : หน้ากากจักรพรรดิ อายุน้อยที่สุด​ของ​ Roman​ Empire ซึ่งตลอด 13 ปี ที่ครองราชย์ นี่คือจักรพรรดิโรมัน ที่มีเรื่องอื้อฉาว โหดร้าย และบ้าคลั่ง ที่สุดในประวัติศาสตร์​ ไม่นับที่ฆ่าภรรยา และมารดา ของตัวเองแล้ว
▪️ Nero ▪️
🔸 เหตุไฟไหม้กรุงโรม 6 วันอันยาวนาน Great Fire of Rome การเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ แถมเล่นพิณ​ ชมเพลิง อย่างเพลิดเพลิน รวมที่จับชาวคริสเตียน มัดไว้กับเสาแล้วจุดไฟเผา โดยโทษว่า​ เป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ 🔸เพียงไม่กี่ข้อแค่นี้ ก็ทำให้ชื่อของ Clavdivs Caesar Avgvstvs Germanicvs หรือ Nero ถูกจดจำว่า คือบุคคลที่วิปริต ที่เคยมีอำนาจสูงสุดในโลก​ ด้วยวัยเพียง 16 เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว
1
💠เรื่องราวของ​ Nero​ มีเบื้องหน้า-เบื้องหลัง การเติบโตมาอย่างขึ้นลงสุดขั้วของครอบครัว​และอำนาจ​ การกำจัดคนใกล้ตัว​ ล้วนมีสาเหตุ​ รวมถึงไฟไหม้กรุงโรม​ ก็มีเบื้องหลัง​ : หารายละเอียดกันเพิ่มเติม 💠
▪️ Crouching Venus : British Museum ▪️
⬆️ (2)​ Venus ภาพวีนัสที่โลกจดจำ กันไว้แม่น คงไม่พ้น​ แบบหน้าปกสมุดวาดเขียน​ในวัยประถม ซึ่งคือ Venus de Milo​ ตั้งแสดงอยู่ที่​ Louvre​ ใน​ Paris ซึ่งล้วนก็คือ​ Venus หรือเทพี Aphrodite คือเทพีแห่งความงดงาม ความรัก และความอุดมสมบูรณ์
1
▪️
🔸 Venus มารดาของกามเทพ Cupid ส่วนรูปทรงองค์เอว จะสะโอดสะองค์ เรียวสวย​ หรืออวบอั๋น ก็แล้วแต่ความนิยมของยุคสมัย ซึ่ง Venus ที่ British Museum​ นี้ก็งดงาม มีเอกลักษณ์​ ในแบบหนึ่ง
▪️ Venus de Milo : @ Louvre ; Paris ▪️
🔸 Venus ของ British Museum แกะสลักจากหินอ่อน ในศตวรรษที่ 2 ไล่เลี่ยกับ Venus de Milo จะผิดกันก็ วีนัสที่นี่ จะสมบูรณ์อวบอั๋น และปกปิดส่วนสงวนไว้​​ด้วยท่วงท่า อย่างมีศิลปะ ซึ่งทำให้ Crouching Venus ชิ้นนี้ เคยไปตั้งอยู่ที่หลายสถานที่​ ทั้ง​พระราชวัง Kensington พระราชวัง Windsor ก่อนจะนำมาตั้งแสดง ไว้ที่ British Museum เมื่อ 60 ปี​ที่แล้ว และเป็นอีก Venus ที่มีชื่อเสียง​ของโลก
▪️ Lindow Man ▪️
⬆️ (3) ศพในพรุ : Lindow Man การทับถมของซากพืช ในพื้นที่น้ำขังชุ่ม อยู่เป็นเวลานาน จะก่อตัวให้เกิดพรุ​ ขนาดน้อย​ใหญ่ ซึ่งพื้นที่ลักษณะนี้ มีกระจายอยู่​ทั่ว​ตอนเหนือของยุโรป ในเยอรมัน​ และในอังกฤษ 🔸 ซึ่งการทับถมแบบนี้​ จะเป็นแหล่งกำเนิด​ถ่านหิน ชนิดดินเลน เมื่อบวกเข้ากับ อากาศสุดเย็นยะเยือกในฤดูหนาว สภาพสุดน่าอึดอัด และไร้ออกซิเจน​ในดิน​ มันจะหยุดการเจริญเติบโต ของแบคทีเรีย ที่มีหน้าที่ย่อยสลาย ให้เท่ากับศูนย์
🔸 Lindow Man อายุประมาณ 2,000 ปีร่างนี้ ถูกพบ ขณะมีการ​ขุดถ่านหิน​ บริเวณพรุใหญ่แห่งหนึ่ง ไม่ไกล Manchester ผลของการตรวจ​ ทำให้รู้ว่า​ นี่คือร่างของชายหนุ่ม อายุราว 20 ที่มีสุขภาพสมบูรณ์ และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้รู้ถึงอาหาร ​มื้อสุดท้าย​ที่รับประทาน 🔸รวมถึงช่วงเวลาคือเดือน ที่ชายผู้นี้​เสียชีวิต ได้จากเกสรดอกไม้ชนิดหนึ่ง ที่ติดอยู่ที่ร่าง​ ซึ่งเป็นดอกไม้ ที่จะผลิและบาน เฉพาะช่วงมีนาคม และเมษายน​เท่านั้น
▪️
🔸 แต่ที่น่าตกใจคือ Lindow Man หรือ Peat Marsh ร่างนี้ มีหลักฐานชัดเจนว่า​ ถูกฆาตกรรม จากแผลยาว ที่ถูกเชือด​บริเวณลำคอ และยังมีเชือก​ที่ใช้รัดคอ รวมถึงกระดูกซี่โครง​ อีกซี่​ที่หัก ทิ้งเป็นปริศนา​ฆาตกรรม​ ยาวนาน ถึง​ ​2,000​ ปี
⬆️ (4)​ Ancient Egypt & Mummy เพราะความเชื่อเรื่องปรโลก ของชาวอียิปต์โบราณ ชื่อเฉพาะอย่าง Pyramid, Giza, Luxor, The Valley of the Kings หรือ Nefertiti และ Tutankhamen ล้วนเป็นชื่อเฉพาะ ที่คนทั่วโลก รู้จักดี🔸ปัจจุบัน British Museum สะสมโบราณวัตถุอียิปต์โบราณ ที่อยู่นอกประเทศอียิปต์ มากมายกว่าใคร ซึ่งตลอดทั้ง 2 ชั้น ที่ British Museum นำออกมาจัดแสดง พิสูจน์ชัดว่าถึงความจริง
▪️ หินแกรนิตขนาด 83 ตัน ของฟาห์โรห์ Ramesses II ชิ้นดังของพิพิธภัณฑ์ฯ จากการขุดพบ &. นำส่งโดย Giovani Balzoni▪️
▪️ Amunhotep III ▪️
🔸 ชิ้นโด่งดังที่นี่​ มีอยู่หลายชิ้น​ทั้ง ​Ramesses II และ Amunhotep III จากฝีมือขุดค้น โดย Giovanni Belzoni นักโบราณคดีชาวอิตาลีคนดัง ผู้ค้นพบมหาวิหาร Abu Simbel และยังเป็นผู้นำปฎิมากรรม ชิ้นเขื่องๆ​ ส่งให้​กับ British Museum​ ถึงที่​ลอนดอน
▪️
▪️
▪️
▪️
▪️
🔸การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ ในอียิปต์หลายแห่ง ได้สร้างชื่อเสียง ให้ British Museum อย่างมากมาย ลงรูปไว้​ เท่าที่เห็นมากับตา​ แบ่งเป็นความเพลิดเพลิน เป็นความสนุก ได้รู้ไปด้วยกัน.
▪️ ด้านหน้า กลาง และหลัง ของศิลา Rosetta Stone ที่เปิดโลกอียิปต์โบราณ ให้โลกปัจจุบันรับรู้ โดยนักภาษาศาตร์ฝรั่งเศส Jean-François Champollion ค.ศ.1822 ▪️
▪️ The Famous Rosetta Stone ▪️
▪️
▪️
1-3▪️แกรนิตสีแดง แกะสลักรูปฟาห์โร Amenhotep III โดยหลงเหลืออยู่เพียงที่เห็น คือส่วนเศียรและแขนขวา โดยสวมมงกุฎทรง 2 ชั้น ที่หมายถึงผู้ปกครองแห่ง upper และ lower egypt โดยมีงูเห่าคอยปกป้อง พระองค์ และแผ่นดิน ▪️
▪️
▪️Mummy ถูกพันไว้อย่างบรรจง ตบแต่งด้านนอกด้วย Turquoise▪️
▪️
▪️ 1-2 Mummy ของหญิงชรา สภาพสมบูรณ์ : Human Mummy ; Amulet ; Wrapping ; figure ▪️
▪️ 1-2 Mummy ยุคแรกในทวีปแอฟริกา ถูกฝังร่างไว้ใต้ผืนทราย พร้อมวางเรียงอุปกรณ์เครื่องใช้ของผู้ตาย ไว้ในหลุมแบบง่ายๆ ก่อนบรรจุร่างไว้ในตะกร้าขนาดใหญ่ และฝังไว้ ก่อนจะเข้าสู่ยุค ของการทำ Mummy แบบอียิปต์โบราณ ที่โลกรู้จัก▪️
▪️ Egyptian Shoes อายุราว 3,500 ปี ถักทำจากต้น Papyrus ▪️
▪️ Canopic Jars โถเก็บชิ้นส่วนภายในของมนุษย์ หลังการทำมัมมี่ Imsety เทพเศียรเป็นมนุษย์ (ดูแลตับ) Duamutef เทพเศียรเป็นสุนัข (ดูแลกระเพาะ) Hapy เทพเศียรเป็นลิงบาบูน (ดูแลปอด) และ Qebehsenuef เทพเศียรเป็นเหยี่ยว (ดูแลลำไส้) ▪️
▪️ Ushabti หุ่นดินเผา ที่จะติดตามไปรับใช้ เป็นแรงงาน ให้แก่ผู้ตาย ในปรโลก ▪️
▪️ Alexander The Great ▪️
⬆️ (5)​ Alexander The Great : ผมจำได้แม่นว่า เมื่อได้เจอ Alexander รูปหินแกะสลักชิ้นนี้หนแรก ผมบอกกับ Alex ซึ่งๆหน้าว่า "ในที่สุดเราก็ได้เจอกัน" คงเพราะชื่นชอบ ทั้งเรื่องราว​ &​ ประวัติ คืออ่านทั้งหนังสือ ดูทั้งสารคดี และภาพยนต์ ​ ที่เกี่ยวกับ​ มหาราชหนุ่ม ผู้นี้
1
▪️
🔸 Alexander มีชีวิตอยู่เมื่อราว 356 ปีก่อนคริสตกาล และเสียชีวิตในวัยเพียง 32 ที่ Babylone ซึ่งตลอดชีวิต​ บนเส้นทางของการรบ &​ การเดินทางไกล ไกลจาก​ Macedon จนมาถึงที่​ Hindu Kush ในลุ่มน้ำสินธุ ในเอเชียกลาง​ และมหาราชผู้นี้เอง คือบุคคลผู้เปลี่ยนแปลงโลก ไปในทุกทิศทาง​
▪️
🔸 ศาสตร์ความรู้ ศิลปะ​ วิทยาการ รวมถึงการผสมผสานข้ามเผ่าพันธุ์​ นำผู้คนจากถิ่นหนึ่ง​ ไปสู่อีกถิ่นหนึ่ง ตำราจากแหล่งหนึ่ง​ ถูกประยุกต์ใช้​ หลอมรวมในอีกแหล่งหนึ่ง​ กลมกลืนไปทั่ว สถาปัตยกรรม, ศาสนา, การเมือง​, การปกครอง, ปรัชญา แม้แต่บทกวี ทั้งทางตรงและอ้อม ทุกเรื่องราว​สามารถโยงเข้าหาถึง Alexander The​ Great​ ผู้ครอบครอง กว่า 70 เมืองใหญ ครอบคลุมอาณาจักร​ ไปถึง 3 ทวีป ครอบคลุมพื้น​ที่​ กว้างไกล กว่า 3 ล้านตารางกิโลเมตร​ ผู้นี้
▪️
▪️
▪️ ร้านขายของที่ระลึก ด้านช้าง British Museum  ▪️
▪️ British Museum มีโบราณวัตถุในครอบครอง อีกมหาศาล รูปจำนวนน้อยนี้ ไม่ได้เศษเสี้ยว กับสิ่งที่ British Museum มี ใครไป London ชื่นชอบแนวนี้ ที่นี่ห้ามพลาด▪️
▪️
📸 All Photos by Tui Kajondej
⭕ Louvre พิพิธภัณฑ์ลูฟท์ Paris
⭕ พิพิธภัณฑ์พระนคร
🌸 เขียนทุกเรื่อง ด้วยความสนุก เพื่อความสุข และไว้สะสมเรื่องไว้ในมุมนี้ 🌸

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา