9 ก.ค. 2021 เวลา 08:50 • การตลาด
แอป MeowTalk กับการตลาดอันบรรเจิด เลยเถิดจากความจริง จินตนาการจึงสำคัญต่อความรู้เพราะความรู้หาเงินเองไม่ได้
การจะขายสินค้าหรือบริการหากไม่คำนึงถึงการตลาดและกระแสบน social media ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ แอปที่ผมพูดถึงเป็นหนึ่งในนั้นที่หากเรียกอย่างสุภาพก็คือพึ่งพาการตลาดแบบสุดกู่
ผมชอบและชื่นชมการพัฒนาแอป MeowTalk นะ และเข้าใจดีว่าอยู่ในระหว่างพัฒนา ตัว AI ที่ทำ machine learning ก็ยังมีข้อจำกัดเรื่อง dataset หรือฐานข้อมูล ถึง AI จะฉลาดแต่หากมีฐานข้อมูลเพื่อเรียนรู้และฝึกฝนไม่มากพอมันก็ขาดความแม่นยำ
พอดูอย่างละเอียดเราจะพบว่าแอปนี้คือแอปฟังเสียงแมวร้อง + machine learning AI พยายามแปล + ผู้ใช้ตรวจสอบและปรับปรุงคำแปล ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ก็บอกชัดเจนว่าความสามารถของแอปยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นพัฒนาเท่านั้น ทว่าอิทธิฤทธิ์ของการตลาดที่นำเสนอว่ามันเป็นแอป “แปลภาษาแมว” ผนวกกับความบันเทิงเมื่อผู้ใช้งานนำมาอวดกันผ่าน social media จนสื่อทั้งหลายยังหยิบไปนำเสนอต่อ เพียงเท่านี้ก็ทำให้สิ่งที่มีสมรรถภาพหรือสมรรถนะในระดับ “ตัวทดลอง” กลายเป็นอะไรที่ดีเลิศประเสริฐศรีขึ้นทันตา
ว่าไปแล้วก็นึกถึงลุงพลกับครูปรีชาหวยหายและเหนียวไก่เสพยา
ถ้าลองคิดกลับกัน มองแอปที่มีคุณสมบัติและทำงานแบบเดียวกันบ้าง อย่าง “แอปแปลภาษาคน” หรือ Dictionary เราจะพบว่าเมื่อใช้งานก็จะได้คำแปลที่ถูกต้อง เนื่องจากแต่ละภาษามีพจนานุกรมของตน
ฉะนั้นการเรียกแอปเหล่านั้นว่า "แอปแปลภาษา" จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างแน่นอน แตกต่างจากสิ่งที่ MeowTalk ทำโดยสิ้นเชิง นั่นเพราะเรายังไม่มีพจนานุกรมสำหรับภาษาแมว สำหรับแอปแล้วสิ่งที่เป็นจริง ๆ คือ “แอปทดลองและเรียนรู้ที่จะแปลภาษาแมว” ที่เอาเข้าจริงก็ทั้งตัวแอป ผู้พัฒนา และผู้ใช้ก็คือผู้ทดลองฝึกแปลภาษาแมว ส่วนทีมการตลาดเป็นนักหลอกลวงผู้บริโภคดี ๆ นี่เอง เอ๊ะ ! ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเป็นนักหลอกลวงผู้บริโภคเลว ๆ นี่เอง
เมื่อก่อนผมมักคิดเล่น ๆ อย่างหนึ่งเสมอตอนเห็นโฆษณาสินค้าอย่างลูกอมฮอลล์เม็ดละบาท หรือขนมเอลเซ่ชิ้นละสามบาท คิดว่าของราคาแค่นี้เองแต่เสียค่าใช้จ่ายกับโฆษณาเป็นแสนหรือเป็นล้าน พิลึกดี
ของชิ้นเดียวมันราคาแค่นั้นจริงแต่ขายทั่วประเทศก็ได้กำไรเกินค่าโฆษณาอยู่แล้ว ถึงแม้ภาพยนตร์โฆษณาอาจจะให้ความรู้สึกเกินจริงไปบ้าง อย่างทำบุญด้วยฮอลล์ให้คนในนรกอมแล้วเย็นเหมือนขึ้นสวรรค์ มันสร้างภาพแต่ก็ยังเข้าใจได้ในแง่ความบันเทิงของโฆษณานะ คือสินค้าก็ยังคงเป็นสินค้า มีคุณสมบัติตามที่นำเสนอว่าเป็นลูกอม อมแล้วเย็น เป็นเค้กไส้ครีมราคาชิ้นละสามบาท
ไม่ได้บอกให้เชื่อว่ากินแล้วบินได้
หรือบอกว่าค้นหาวัตถุระเบิดด้วยการ์ดได้
หรือซื้อข้าวแต่เรียกว่ารับจำนำ
หรือบอกว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แค่ทำสิ่งที่กฎหมายห้ามไว้
หรือบอกว่า "บริบาล" ไม่ใช่ "ให้บริการ"
หรือบอกว่ามันเป็นแค่แป้ง
หรือบอกว่าแปลภาษาแมวแต่แปลแล้วงงกว่าเดิม
~ ก็ ไม่ รู้ สิ นะ ~
อธิบายขนาดนี้ เชื่อว่าทุกคนคงเห็นภาพว่าการตลาดของแอปนี้มันชั่วช้าเหลือเกิน
เริ่มต้นก็ทำให้เข้าใจผิดจากความเป็นจริงว่าแปลภาษาแมวได้ หรือไม่ก็จงใจให้มันกลายเป็นแบบนั้นเพื่อแพร่ข้อมูลข่าวสารกระจายไปเรื่อย ๆ
ต้องถอยห่างออกมามองจึงเห็นชัดว่าชิ้นงานแค่เม็ดทราย แต่ได้การตลาดกับการบอกต่อใน social media เพื่อให้สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่าตัวทดลองกลายเป็นของที่ยิ่งใหญ่เลิศเลอ สรรพคุณเท่าภูเขา
แอปทำได้แค่ 1 แต่เอาการตลาดบวก ๆ ๆ เข้าไปให้คนหมู่มากเชื่อว่าทำได้ 100 แถมคนที่โหลดไปใช้ก็ดูจะใช้แบบอยากรู้อยากลอง อยากมีส่วนร่วมไม่ตกยุค (FOMO; Fear Of Missing Out) มากกว่านำไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในชีวิตจริง ผมยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าแอปนี้จะมีประโยชน์กับคนเลี้ยงแมว
🔶 แม้แต่ผู้พัฒนายังบอกเองว่าแมวแต่ละตัวมีวิธีออกเสียงสื่อสารกับมนุษย์ไม่เหมือนกัน Each cat also has a unique vocabulary of meows. 🔶
ดูแล้วก็เหมือนเป็น disclaimer หรือข้อจำกัดความรับผิดชอบ ซึ่งส่วนตัวผมมักเรียกมันว่าการปัดความรับผิดชอบแบบเป็นทางการหรือปัดสวะให้พ้นตัว
แต่ถ้าไม่มีการตลาดชั่ว ๆ ทั้งหมดนั้น ก็ไม่มีเงินหล่อเลี้ยงทีมวิจัยที่ศึกษาและพัฒนาการแปลภาษาแมว และไม่สามารถหาฐานข้อมูลเสียงแมวให้มากขึ้นเพื่อปรับปรุง dataset และเพื่อให้ AI เรียนรู้จนฉลาดขึ้นได้ เฮ้อ ทุนนิยมนี้มันช่างแทรกซึมไปทั่วจริง ๆ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งตัวเราเองหรือวงการต่าง ๆ อย่างวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์หรือศาสนา อาจต้องพึ่งพาการตลาดแบบนี้
ผมเป็นคนตัวเล็ก ๆ คงทำได้แค่ตกผลึกความคิดและเขียนบทความ ชักชวนให้ทุกคนลองมองดูสินค้าและบริการต่าง ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วนยิ่งขึ้น แยกแยะการตลาด ความบันเทิง การแชร์ผ่าน social media กับคุณสมบัติจริง ๆ ของมันและความต้องการของคุณให้ได้ชัด บางทีคุณอาจพบว่าของบางอย่างก็ไม่จำเป็นอะไรกับคุณตั้งแต่แรกอยู่แล้ว และคุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาหรือเสียเงินกับมัน
สุดท้าย ผมคิดดีแล้วจึงลงเรื่องนี้ในหมวด Marketng เพราะคิดได้ว่าถ้าลงในหมวด Opinion คงมี View, Reach และ Engagement ต่ำ ผมก็จะขาดกำลังใจเขียนบทความอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต อย่างไรก็พูดคุยกันในคอมเม้น แสดงอารมณ์ บุ๊กมาร์ก หรือแวะไปหน้าโปรไฟล์ผมแล้วฟอลโลวกันหน่อยนะ พลีสสสส
อยากได้ดาวของ BD สักดวงใจจะขาด แต่ทำได้แค่พับกระดาษโอริกามิเป็นดาวปลอบใจตัวเอง
เฮ้อ นี่มันทุนนิยมจริง ๆ ในเมื่อเรื่องราวมันซับซ้อนและยากจะหนีพ้นเราก็คงต้องเป็นส่วนหนึ่งของมัน พอได้ระบายที่อัดอั้นตันใจออกมาแล้วผมค่อยรู้สึกโล่งขึ้นบ้าง ขอบคุณนะที่อุตส่าห์อ่านจนถึงตรงนี้
บ๊ายบาย ! โชคดี ! แยกย้าย ๆ !
🤣 🤣 🤣
Obi-wan จาก Star Wars: Revenge of the Sith (Episode III)
⭐️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา