13 ก.ค. 2021 เวลา 07:40 • ท่องเที่ยว
เจาะอารยธรรมโบราณที่เนปาล ตอน2 (สถูปโพธนาถ Boudhanath )
สำหรับตอนนี้ บันทึกการเดินทางจะพาไปที่ สภูปโพธนาถ(Boudhanath) เป็นสถูปที่ใหญ่ที่สุด เหนือสถูปตรงบัลลังก์วาดเป็นรูปดวงตาเห็นธรรมของพระพุทธเจ้า (Wisdom Eyes) ทั้งสี่ทิศ สถูปนี้เป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานในเนปาล ได้รับการเคารพบูชาจากชาวทิเบตที่อพยพเข้ามาอยู่ในเนปาลเมื่อปีพ.ศ. 2502 และ ชาวเนปาลที่นับถือพุทธศาสนา ตลอดทั้งวันเราจะเห็นคนเนปาลและคนทิเบต มาเดินหมุนกระบอกล้อมนต์ที่รายรอบอยู่รอบองค์สถูป ยิ่งช่วงเย็นจะหนาแน่นมากๆ แสดงถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ยังเหนียวแน่น
ตามประวัติ สถูปโพธนาถ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 8 กม. อยู่บนเส้นทางการค้าโบราณที่เชื่อมต่อกับทิเบต จึงเป็นที่เคารพสักการะของพ่อค้าที่กำลังจะเดินทางไป ค้าขายหรือที่เพิ่งเดิน ทางกลับซึ่งต้องผ่านเทือกเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่และอันตราย เป็นที่จาริกแสวงบุญของชาวพุทธโดยเฉพาะจากทิเบต
องค์การยูเนสโกขึ้นได้ทะเบียนสถานที่แห่งนี้เป็นมรดก โลกในปีพ.ศ. 2522
ที่จริงเจดีย์โพธนาถ ควรเป็นจุดแรกของการเดินทางในทริปนี้ที่จะมาเยือน แต่เนื่องจากกว่าจะฝ่าด่าน ตม. เนปาล ที่ทำงานด้วยมือปราศจากคอมพิวเตอร์ กว่าจะตรวจเอกสารเสร็จ(อย่างใจเย็นมากๆของเจ้าหน้าที ่) กว่าจะประทับตราในพาสปอร์ต กว่าเราจะได้รับกระเป๋าเดินทาง ก็กินเวลาไปกว่า 2 ชม. จากล้อเครื่องบินที่แตะแผ่นดินเนปาลเมื่อ 12.45 น. กว่าจะหลุดออกมาได้ก็เกือบ 15 น.
เราเข้าพักที่ Tibet International Hotel ที่อยู่ห่างจากโพธนาถไม่เท่าไหร่ แต่หลังจากประชุมตกลงกันแล้ว เราเก็บโพธนาถไว้ก่อนดีกว่า ไปปศุปตินาถก่อน ตามรายละเอียดตอน1
เช้านี้จึงรีบตื่นกันแต่เช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ไฮไลท์อยู่ที่ดาดฟ้าของโรงแรม เพื่อถ่ายเจดีย์โพธนาถมุมสูงจากโรงแรม กับวิวบรรยากาศรอบๆ
ค่อนข้างผิดหวังกับหมอกที่มัวๆ ไม่กระจ่างชัด บ้านเรือนที่ค่อนข้าระเกะระกะ
ที่ห้องอาหารวิวจากมุมนี้ก็สวยพอได้ แดดเริ่มส่องแล้ว เก็บภาพอีกนิดก็ไปหม่ำข้าวดีกว่า แต่น้ายักษ์...ยังแน่วแน่ยืนนิ่งสนิทรอแสงอย่างใจเย็น
นี่ถ้าไม่มีหมอก ทัศนวิสัยกระจ่างชัดกว่านี้ เราจะได้วิวภูเขาหิมาลัยเป็นฉากหลังที่สวยงามเลย อุตส่าห์ยอมลงทุนพักโรงแรมหรูเพื่อวิวนี้ อดซะงั้น
ไปหาของอร่อยๆทานดีกว่า ภาพชุดนี้บันทึกด้วย iPhone มื้อนี้ ข้าวโอ๊ตต้มใส่นมอร่อยดี มะเขือม่วงผัดซอสก็อร่อยดี
ออมเล็ตที่นี่ ทานยังไงเมื่อไหร่ในกาฐมาณฑุ รสชาดเหมือนไข่เจียวบ้านเราทุกที บางมื้อเราสั่งมากินกับข้าวสวยซะงั้น เพราะมีน้ำจิ้มแจ่วติดไปด้วย และคุณเดชก็พกแม๊กกี้ไปด้วย เข้ากันได้ดีเลย ส่วนขนมปังที่เนปาล กินร้านไหนก็แข็งๆแน่นๆ ไม่นิ่มไม่หอมอร่อยเหมือนบ้านเรา
อิ่มแล้ว ยังไม่อาบน้ำ รีบไปโพธนาถเพราะแสงกำลังสวย เก็บภาพรายทางนิดหน่อย
ศรัทธาความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาของ คนที่นี่ไม่ว่าจะเป็นชาวทิเบตอพยพหรือชาวเนปาลเอง จะเลื่อมใสและสวดมนต์อย่างตั้งใจมาก วงล้อมนต์ที่รายรอบบางคนจะพยายามหมุนให้ครบทุกอัน ซึ่งหมายถึงการสวดมนต์ครบรอบในทุกครั้งที่หมุนล้อมนต์
แม้กระทั่งวงล้ออันใหญ่ยักษ์นี่ก็จะมีคนมาเดินจงกรมส วดมนต์และหมุนล้อมนต์ไปด้วย
ตรงข้ามกับเจดีย์มีวัดเล็ก หรือ ตึกเล็กๆซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกอะไรดี เดินขึ้นบันไดไปชั้นบนดาดฟ้าประมาณชั้น4 จะมีห้องบนดาดฟ้ามีคนมาไหว้พระพุทธรูปด้านในกันมาก
เยี่ยมๆมองๆ เห็นพระทิเบตกำลังสวดมนต์อยู่ เลยมุดเข้าไปใช้เลนส์มุมกว้างที่คุณเดชให้ยืมมาใช้งานเก็บภาพช่วงนี้
แต่ความเลื่อมใสศรัทธาตามแบบของทิเบต ที่เวลาทำความเคารพจะต้องทิ้งตัวลงนอนราบกับพื้นนั้น วันนี้ก็ยังพอได้เห็นบ้างแต่ไม่ทุกคนเหมือนครั้งก่อน ที่เคยมา ครั้งนี้จะแค่ก้มลงคุกเข่าหน้าผากแนบพื้นเท่านั้น ยุคสมัยแปรเปลี่ยนจริงๆ
เดินเก็บภาพรอบสถูปพักใหญ่จนแดดแรง
จนหมดมุข จึงเห็นพวกเราขึ้นไปเก็บภาพมุมสูงอยู่บนตึกร้านอาหาร ตะกายตามขึ้นไปดูว่ามุมเด็ดแค่ไหน
ของที่ระลึกที่ขายรอบๆสถูป
แดดแรงแสงแข็งแล้ว เดินกลับโรงแรมไปอาบน้ำดีกว่า ระหว่างทางก็หยุดละเลียดเก็บภาพไลฟ์ข้างทางไปเรื่อยๆ
อาบน้ำเก็บของเช็คเอาท์ เพื่อออกเดินทางไปต่อ ยังรู้สึกไม่จุใจเพราะแสงและอากาศไม่ค่อยเป็นใจ
หลังจากมาคุยกัน ทุกคนก็เห็นตรงกันว่าต้องมี นัดล้างตา อีกซักวันหากมีเวลาเหลือช่วงท้ายๆของทริป
ในที่สุดเราก็ได้กลับมา ล้างตา กันอีกรอบในวันสุดท้ายของทริป เลือกช่วงบ่ายเย็นๆเพื่อเก็บแสงคนละช่วงกับช่วงเช้า ช่วงนี้ผู้คนพลุกพล่าน เวลาเดินหยุดถ่ายภาพต้องคอยยืนหลบไม่งั้นโดนชนแน่
ช่วงบ่ายนี้แสงเงาเพียบ เก็บแสงกันหนุกหนาน
เงาสะท้อนในกระจก มีให้เล่นกันจุใจ
เก็บภาพกับความพลุกพล่านวุ่นวาย
เย็นมากแล้ว เริ่มเปิดไฟที่องค์สถูป เก็บได้พักเดียวไฟช๊อตดับ ก่อนไฟจะดับทดลองเล่นฟังชั่น Pop Art ที่มีในกล้องโอลิมปัส OM-D สีสันแจ่มจรัสเหลือเกน เล่นได้ไม่กี่ภาพไฟที่สถูปดับซะนี่
พอไฟกลับมาใหม่ ฟ้าก็มืดดำซะแล้ว ระหว่างไฟดับ ก็ถือโอกาสเก็บแสงเทียนกับบรรยากาศสลัว
จบชุดที่โพธนาถ แต่เพียงแค่นี้ จุดต่อไปที่บันทึกการเดินทางจะพาไป หมู่บ้านชางกู และ พัชรโยกินี ติดตามชมได้ในตอนที่ 3
หรือกลับไปอ่านตอนแรก ปศุปตินาถ ได้ที่นี่
โฆษณา