16 ม.ค. 2022 เวลา 12:00 • ท่องเที่ยว
เรื่องไม่(น่า)เป็นเรื่องในเกาหลีใต้ ตอนที่ 2 : หลงต่อไม่รอแล้วนะ
นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินเกาหลีครั้งแรก...
หลังจากที่เราและเพื่อนได้ตะลอนๆอยู่ในเมืองซงโดมาพอสมควรแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางสู่โซลเพื่อเข้าที่พัก แต่การเดินทางมันไม่ง่ายอย่างที่คิดนี่สิ ทั้งๆที่ประเทศเขาก็เป็นประเทศที่มีความสะดวกสะบายในการเดินทางสูงมากๆ แต่เราก็ยังหลง -=-"
เริ่มจากสถานี International Business District มุ่งหน้าไปยังสถานี Samgakji ซึ่งในตอนนั้นยังไม่รู้จักหรอกแอพพลิเคชั่นอะไรมีรึยังก็ไม่รู้555 เราก็ไปยืนจ้องแผนที่ที่สถานีนี่แหละ เล็งไว้พอคร่าวๆ แต่ก็ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ว่าควรจะไปต่อสายอะไรยังไงดี เลยตัดสินใจไปถามเจ้าหน้าที่ที่สถานีที่นั่งเหงาอยู่คนเดียวเพราะเป็นสถานีต้นทางในเมืองใหม่ที่ไม่ค่อยมีใครเดินทางกัน
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสักพัก ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจคำถาม หรือเราพูดไม่รู้เรื่องเอง ด้วยความที่เจ้าหน้าที่ก็พูดอังกฤษไม่ได้ ส่วนเราก็พูดเกาหลีไม่ได้ เลยเหมือนใช้ภาษาใบ้คุยกัน ^^"
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็เรียกเราไปในห้องพักเจ้าหน้าที่ จัดหาแผนที่ภาษาอังกฤษมาให้ พร้อมอธิบายเป็นขั้นเป็นตอนใส่เศษกระดาษให้อีกใบว่าเราต้องไปต่อรถที่สถานีไหนบ้าง จากนั้นก็เดินไปส่งพวกเราถึงประตูทางลงรถไฟใต้ดิน คือดูแลนักท่องเที่ยวอย่างอบอุ่นมากๆ แต่...
แผนที่รถไฟใต้ดินโซล Cr.https://airbnbseoul.wordpress.com/2013/09/13/subway/
ขบวนรถไฟที่กำลังแล่นไปข้างหน้ามุ่งสู่เป้าหมายของเรา จู่ๆก็ถอยหลังกลับที่สถานีหนึ่ง เรากับเพื่อนมองหน้ากันด้วยความเลิ่กลั่ก เกิดอะไรขึ้น? ทำไมรถไฟไม่ไปต่อล่ะ?
เรามองหน้ากันอย่างมึนงงพักหนึ่ง ก็เริ่มกวาดสายตาหาคนให้ความกระจ่าง ดีที่มีวัยรุ่นเกาหลีที่พอพูดอังกฤษได้อยู่บ้างเลยไปถามเขาอีกครั้ง และได้ความว่ารถไฟมันสิ้นสุดที่สถานนีนั้น..
what?!
สรุปเราต้องรอย้อนไปจุดเชื่อมต่อสถานีแล้วลงไปต่อสายอื่นแทน -_-
มันยังไงกันล่ะครับเนี่ย...
เมื่อเราเปลี่ยนสายมาถูกที่ถูกทางแล้วก็มีเวลามานั่งไขข้อสงสัยกันต่อไป และก็พบว่า อ้อ! สายรถไฟที่เรามองว่ามันเชื่อมต่อกันอ่ะ มันคนละสีกันจ้า มันมีช่องว่างอยู่นิดนึงที่ทำไมตอนดูกับลุงเจ้าหน้าที่เราก็ไม่เห็นนะ เดินทางมาอย่างมั่นใจมากๆว่าอีกเดี๋ยวก็ถึงที่พักไปเจอเพื่อนๆทันเวลานัดแล้ว สงสัยเกาหลีคงกลัวเราไม่ชินกับรถไฟใต้ดินบ้านเน๊อะ
ตัวอย่างความเด๋อของพวกเรา ไม่แน่ใจว่าใช่สถานนี้รึเปล่าแต่แผนที่มันประมาณนี้แหละ
เมื่อเราต้องนั่งรถไฟย้อนไปย้อนมาก็ทำให้การเดินทางของเราล่าช้าเป็นหลักชั่วโมง กว่าจะไปถึงที่พักก็บ่ายแก่ๆแล้ว แพลนที่วางไว้ต่างๆนานาโดนเบียดด้วยความมั่นหน้าของเราเอง แถมรู้สึกผิดกับเพื่อนอีกต่างหาก T^T
ว่าแล้วก็แนะนำแอพกันสักหน่อย จะได้ไม่มีใครหลงเหมือนเราอีก
แอพนี้เป็นแอพโปรดสำหรับเราเลย รู้สึกว่าดูง่ายดี มีติดมือถือไว้แต่ไม่ได้มีโอกาสใช้เลยช่วงนี้ TT
มีชื่อสถานีทั้งภาษาเกาหลีและภาษาอังกฤษ เผื่อไม่แน่ใจก็ไปจิ้มถามคนเกาหลีก็ได้
นอกจากบอกเส้นทางในการเดินทางและต่อรถแล้ว ยังสามารถเลือกเวลาออกเพื่อประมาณการเวลา ดูรถไฟเที่ยวแรก เที่ยวสุดท้าย ตลอดจนถึงค่าโดยสารได้อีกด้วย
นอกจากหลงทางแล้วพอมาถึงที่พักเราก็ได้พบอีกว่า หัวแปลงปลั๊กไฟที่เราเตรียมมาใช้กับที่นี่ไม่ได้!!
พีคมากกกกก ทั้งที่เรารู้อยู่แล้วนะว่าเต้ารับที่นี่ไม่เหมือนกับที่อื่น และก็เตรียมพร้อมด้วยการซื้อหัวแปลงอเนกประสงค์มาเรียบร้อยในราคา 120 บาท แถมแนะนำเพื่อนไปอีกแน่ะ
แต่พอมาถึง อ้าว! ปลั๊กหลวม คือด้วยความที่หัวแปลงมันหนักมันก็ถ่วงตัวก้านเต้าเสียบหลุดออกจากเต้ารับตลอด จะใช้ได้ก้คือต้องหาอะไรมารองไม่ให้มันถ่วงลงพื้นอ่ะ โชคยังดีที่ทางเกสต์เฮาส์พอจะมีให้ยืมใช้ไปก่อนได้
หัวแปลงเจ้าปัญหา Cr.https://pantip.com/topic/35901582
หลังจากที่รับรู้ปัญหาแล้ว ก็ถึงเวลาไปหาซื้อหัวแปลงกัน ซึ่งเราก็ไปได้มาจากตลาดมยองดง แหล่งช้อปปิ้งที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาตินี่แหละ ในราคาเพียง 2,000 วอน หรือประมาณ 60 บาท และไม่ว่าจะไปเกาหลีกี่ครั้งเราก็ยังคงใช้อันเดิมมาจนถึงทุกวันนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ
หัวแปลงที่เสียบดีควรเป็นทรงนี้นะ เพราะตรงส่วนกลมๆมันจะเข้าไปในช่องกลวงของเต้ารับได้พอดีกัน ไม่ถ่วงให้ตัวก้านมันหลุดออกมา
เป็นสองก้านกลมๆแบบนี้น้า
ขอปิดท้ายวันแรกในเกาหลีด้วยอาหารมื้อหลักมื้อแรกของพวกเราแล้วกัน
จำไม่ได้แล้วว่าพวกเราไปเตร็ดเตร่ที่ไหนกันบ้าง แต่จำได้ว่าเราหิวกันมากๆและกว่าจะได้กินอาหารหลักมื้อแรกก็ราวๆ 4 ทุ่มแล้ว ตอนนั้นคือไม่มีแรงเลือกร้านกันแล้ว เจอร้านเล็กๆข้างทางก็ตัดสินใจเดินเข้าไปทันที
พวกเราเดินเข้าไปแบบงงๆ เป็นการเข้าร้านอาหารเกาหลีครั้งแรกแถมเป็นร้านที่ไม่มีรูปอาหารเลยสักรูป กับเมนูภาษาเกาหลี พวกเรามองเมนูสลับกับมองหน้ากัน เอาไงดีๆหิวแบบหน้ามืดตาลายแล้ว สุดท้ายก็เหมือนพร้อมใจกันเหลือบมองโต๊ะข้างๆ แล้วมองเจ้าของร้าน คุยกันด้วยภาษาอังกฤษ 'Same' และชี้โต๊ะข้างๆ เป็นอันเข้าใจกัน ^^
และแล้วความพยายามของพวกเราก็ไม่เสียเปล่า เพราะแม้ไม่รู้ว่าเราสั่งอะไรไปแต่เจ้าของร้านเอาอาหารมาเสิร์ฟ มื้อนี้ก็ถือว่ารอดแล้วล่ะ55
พวกเราตั้งตารออาหารด้วยความคาดหวังกับความต้นตำหรับเกาหลี และสิ่งที่ได้ก็คือ...
แกงส้ม กับ ไข่เจียว??
แกงกิมจิ ขอโทษที่ไม่มีภาพจริงประกอบเพราะหิวจนไม่มีใครถ่ายรูปมาเลย ^^" Cr.https://pixabay.com/th/photos/อาหาร-และอาหารเกาหลี-กิมจิ-แกงกิมจิ-1954424/
จริงๆมันคือแกงกิมจิและไข่ม้วนนั่นเอง ^^ เป็นการกินอาหารเกาหลีที่รู้สึกว่าอาหารเกาหลีกับอาหารไทยเหมือนกันขนาดนี้เลยหรอ? พวกเราชิมแล้วมองหน้ากันก่อนจะยิ้มกริ่มด้วยความเข้าใจ
ไม่ใช่ว่าอาหารไม่อร่อยนะ แต่ด้วยความที่ไม่เคยกินก็ไม่คิดว่ารสชาติจะใกล้เคียงกันขนาดนั้น คิดซะว่าเป็นการปรับตัวไปทีละนิดแล้วกัน555
แค่วันแรกในเกาหลีก็ทุลักทุเลอะไรนักหนาก็ไม่รู้ พอมานึกย้อนกลับไปก็ตลกดี กว่าจะไปๆมาๆเกาหลีจนคล่องนี่ก็เรียนรู้ไม่รู้จักจบจักสิ้นเลยจริงๆ
แต่การสะสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆก็มีประโยชน์นะ ยิ่งเจอปัญหาเจอสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากเท่าไหร่ เราก็จะได้เรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น เนี่ยเรียนรู้และจดจำมาจนวันนี้เลย ^^
ตอนต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรต่อ รอติดตามกันด้วยนะคะ
โฆษณา