โดยดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้มากที่สุด หรือทำการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions หรือ Net Zero Carbon Emission) ซึ่งคือการที่ประเทศ องค์กร หรือบริษัท กำจัดก๊าซเรือนกระจกออกจากสิ่งแวดล้อมในปริมาณเทียบเท่ากับก๊าซเรือนกระจกที่ตนเองได้ปล่อยออกไป รวมถึงอาจหันมาใช้พลังงานสะอาดเพิ่มมากขึ้น
บริษัทน้ำมันรายใหญ่นี้ตั้งเป้าหมายให้เกิด Net Zero ภายในปี 2050 แม้ว่าธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลจะเป็นธุรกิจที่ปล่อยมลพิษออกมามากที่สุด โดย BP เริ่มพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดจากเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เร่งพัฒนาการเติบโตของพลังงานไฟฟ้าจากลมนอกชายฝั่งบริเวณแท่นขุดเจาะของ bp ขายให้กับอังกฤษ สรรหาเทคโนโลยี zero waste ในการผลิตเชื้อเพลิง รวมถึงร่วมมือกับ Volkswagen Group และ BMW Group เพื่อขยายและเร่งการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าให้กับรถ EV
1
AstraZeneca
บริษัทเวชภัณฑ์เจ้าของวัคซีน COVID-19 จะลงทุนสูงถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้บริษัทเข้าถึงเป้าหมาย Net Zero Carbon Emission ในปี 2025 และเป็น Negative Carbon ในปี 2030 ด้วยการใช้พลังงานสะอาดในกระบวนการผลิต ใช้รถ EV 100% ในการขนส่ง พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้พลังงานน้อยลง รวมถึงเริ่มโครงการปลูกป่าขนาด 50 ล้านต้น
Apple
ปัจจุบัน Apple ได้ดำเนินการลดคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการทั้งหมดขององค์กรแล้ว โดยตั้งเป้าว่าภายใน 20 ปีข้างหน้า Apple จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเลย (Net Zero) แนวทางของ Apple คือ การลงทุนในพลังงานทางเลือกจากลมและแสงอาทิตย์ การใช้วัสดุรีไซเคิลในผลิตภัณฑ์ การออกแบบสินค้าให้มีการใช้พลังงานให้น้อยที่สุด และการร่วมลงทุน 100 ล้านดอลลาร์กับ US-China Green Fund ในโครงการเร่งประสิทธิภาพพลังงานสำหรับ supplier ของ Apple นอกจากนี้ในส่วนของอาคารสำนักงาน Apple ทำการอัพเกรดประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอาคารที่มีอยู่แล้วกว่า 6.4 ล้านตารางฟุต ลดความต้องการไฟฟ้าลงเกือบหนึ่งในห้าและช่วยบริษัทประหยัดเงิน 27 ล้านดอลลาร์
ตอนต่อไปเราจะมาดูว่าประเทศไทยดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง มีการวางนโยบายหรือเป้าหมาย ในการจะเป็นประเทศ Net Zero Carbon Emission รวมถึงภาคเอกชนและองค์กรที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยมีส่วนร่วมอย่างไร ติดตามกันด้วยนะคะ