Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ครูเอลิน่า Elina
•
ติดตาม
17 ก.ค. 2021 เวลา 16:12 • ปรัชญา
ได้เวลากลับคืนสู่สามัญ "Back to the basic"
1
Back to the basic
ถึงเวลาที่แม่ๆ อย่างเราจะได้หวนกลับคืนสู่
ความธรรมดาสามัญของการมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
อยู่กับความสงบจากภายในที่แท้จริงเพราะ
สถานการณ์ปัจจุบันที่มันเกิดวิกฤตจนก่อ
ให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย
ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมถึงทุกคน
อยู่ในตอนนี้ซึ่งก็มีคุณแม่หลายคนโดนผลกระทบนี้
มากน้อยต่างกันไป
สติสำคัญมากในวิกฤตแบบนี้ คุณแม่ต้องตั้งสติ
อยู่กับปัจจุบันโดยต้องอาศัยสมาธิมาเป็นตัวช่วย
ให้เรามีสติเพื่อผ่านสถานการณ์แย่ๆ นี้ไปให้ได้
หากเราไม่สามารถควบคุมปัจจัยภายนอกได้
เรามามองมุมบวกของสถานการณ์นี้กัน
ถึงแม้ว่าคุณแม่บางคนอาจกลายสถานะ
เป็นคนว่างงาน ตกงาน ถูกเลิกจ้าง
บางคนต้องเลิกกิจการ บางคนตัดสินใจ
ที่จะหยุดทำงานเพื่อมาเลี้ยงลูกอยู่ที่บ้าน
เพราะโรงเรียนทุกแห่งต้องทำการปิดเรียน
คุณแม่บางคนไม่มีใครช่วยดูแลลูก จึงแบ่ง
หน้าที่รับผิดชอบการหารายได้ให้กับคุณสามี
ด้วยเหตุผลใดก็ตาม ข้อดีมันมีในวิกฤตเสมอ
อย่างน้อยคุณแม่ก็ได้กลับมาอยู่กับลูก
ได้กลับมาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น
อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า มีเวลาให้กันมากขึ้น
ได้ทำกิจกรรมต่างๆ กับครอบครัวมากขึ้น
ได้พูดคุยกันในครอบครัวมากขึ้น
ได้กลับมาใช้ชีวิตในแบบธรรมดาที่เรียบง่าย
กับครอบครัว "กลับคืนสู่ความธรรมดาสามัญ"
หลังจากที่ใช้ชีวิตวุ่นวายเพื่อตื่นแต่เช้าไปทำงาน
กลับบ้านค่ำมืด สัปดาห์หนึ่งก็หยุดแค่เพียงวันเดียว
และเวลาที่หยุดนั้นก็คิดแต่เรื่องงาน เรื่องหาเงิน
ไม่ได้หยุดพักร่างกาย จิตใจและสมองจริงๆ สักที
หาเวลาคุณภาพอยู่กับลูก อยู่กับครอบครัว
แทบจะไม่มี
หากเราใช้สติมองแง่ดีของเหตุการณ์ข้อดีคือ
เราได้กลับมาทบทวนตัวเอง นิ่ง สงบอยู่กับตัวเอง
โดยหยุดวิ่งตามหาอะไรบางอย่าง
หยุดวิ่งตามกระแสสังคม หยุดความรีบร้อน ร้อนรน
ในการทำงานหาเงินจนลืมความสุขของตัวเอง
และครอบครัว หลงคิดว่าเงินคือคำตอบของทุกอย่าง
ได้กลับมาใช้ชีวิตแบบสโลไลฟ์ในช่วงวิกฤต
แบบนี้ได้ สมาธิเป็นสิ่งสำคัญมากในสถานการณ์
แบบนี้ มันจะช่วยให้คุณแม่ใจเย็นลง สงบจิตใจลงได้และมองเห็นภาพรวมได้ชัดขึ้น
แล้วเราจะสามารถมองเห็นต้นเหตุของปัญหาที่มันทำให้เกิดความรู้สึกกังวลใจ ว้าวุ่นใจ ไม่สบายใจ
กลัว เสียขวัญ รู้สึกไม่มีความแน่นอนในชีวิต
วิตกจริต คิดฟุ้งซ่าน ต่างๆ นาๆ ที่รวมเรียกว่า
"ความทุกข์"
หากคุณแม่ท่านไหนที่ฝึกรู้ทันอารมณ์
ฝึกอยู่กับปัจจุบันขณะอยู่แล้ว นี่ได้เปรียบเลย
กับสถานการณ์แบบนี้ "คุณแม่รับมือได้แน่นอน"
ในการรู้ทันอารมณ์ทุกข์ทั้งหลายที่มันจะเกิดขึ้น
การฝึกรู้ทันอารมณ์ ให้คุณแม่สังเกตเวลาที่อารมณ์
แห่งความทุกข์ต่างๆ กำลังก่อตัวขึ้น เริ่มมีความกังวลใจ เริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เริ่มรู้สึกเครียด อึดอัด
ให้รู้ทันมันก่อน แล้วมันจะดับไปเอง อย่าปล่อยให้
ความคิดในหัวมันพูดจบประโยคหรือมีความรู้สึก
ต่างๆ นั้นเกิดขึ้นนานเกิน 3 วินาที
รู้ทันทุกข์ รู้ทันความคิดลบ ทุกความรู้สึกกังวลใจ
รู้ทันอารมณ์พลังงานลบๆ แบบนี้บ่อยๆ ฝึกบ่อยๆ
ตรวจสอบดูว่าอารมณ์ ความรู้สึกหรือความคิดไหน
ที่มันกำลังเกิดขึ้นมาแล้วทำให้เราไม่สบายใจ
นั่นแหละคือพลังงานลบที่กำลังก่อตัวขึ้น
ให้เรารีบจัดการตัดมันด้วยการรู้ทัน
ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นกับเราบ่อยมากแค่ไหน
เราก็เอาชนะมันให้ได้ นั่นคือ "การฝึก"
นี่คือโอกาสในการฝึกจากสนามจริง
ที่เป็นการฝึกรู้ทันอารมณ์แบบเข้มข้น
ทำไปเรื่อยๆ 1 วัน 1เดือน 1ปี คุณแม่จะรู้สึกเลยว่า
ชีวิตตัวเองมันเบาขึ้น มันง่ายขึ้น ปัญหาหรือ
ความทุกข์ต่างๆ มันถูกจัดการได้เร็วและง่ายขึ้น
มันจะทำให้เรารู้สึกมีความทุกข์สั้นลง น้อยลง
และความสุขในชีวิตมันเพิ่มมากขึ้น
และเพราะความเบา ความสบายใจ ความสุขใจ
นี่แหละที่ทำให้เรา วางลง ปลงเป็น คือรู้สึก
สงบจากภายใน รู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิต
ู้ธรรมดาที่เรียบง่าย รู้สึกไม่ต้องการอะไร
มากมายในชีวิต
ทั้งวัตถุสิ่งของ ชื่อเสียง ตำแหน่ง คำชื่นชม
หรือแม้กระทั่งผู้คนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิต
ก็เลือกคบแค่พอมี พอดีกับการใช้ชีวิต
ที่จะนำพาเราไปสู่เป้าหมายหรือรูปแบบชีวิตที่เราเลือกไว้ ที่เราอยากอยากจะมี อยากจะเป็นและ
ผู้มีพระคุณก็พอหรือเรียกง่ายๆ ว่ามีแค่กัลยาณมิตร
ก็พอแล้ว คนอื่น สิ่งอื่นที่นอกเหนือกว่านี้
ที่หาสาระ แก่นสาร หาประโยชน์อะไรไม่ได้
ก็ให้ตัดออกจากวิถีชีวิตไปซะ มันรังแต่จะ
พะรุงพะรัง รุงรังกับชีวิตเปล่าๆ
ถ้าคุณแม่มาถึงจุดนี้ได้ วิถีการใช้ชีวิตของคุณแม่
จะเบาขึ้น โล่งขึ้น สงบขึ้น สามารถใช้ชีวิต
แบบธรรมดาๆ ที่เรียบง่าย ได้อย่างไม่เป็นทุกข์
ไม่มีความกังวลใจและไม่สนใจคำพูดของใครทั้งนั้น
คุณแม่จะมีแต่ความสุขที่แท้จริงกับการกลับคืนสู่
ความธรรมดาสามัญ Back to basic น้อยแต่มาก
(Less is more) คุณแม่จะได้กลับมาโฟกัสกับตัวเอง
โฟกัสลูกและครอบครัวของเราอย่างเต็มที่และใช้
เวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณภาพ
คุณแม่จะรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น อยากจริงจัง
กับการดูแลสุขภาพของตนเองและครอบครัว
มากขึ้น ทำให้เรามีสติในการเลือกรับประทาน
อาหารมากขึ้น เพราะวิถีชีวิตเราช้าลง เย็นลง
สติจึงเกิดกับเรามากขึ้น
คุณแม่จะมองเห็นคุณค่าของสิ่งของต่างๆ และ
ผู้คนรอบตัวมากขึ้น จะรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามีอยู่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน ที่เราเคยมองข้าม มองผ่านมันไป
ทั้งที่เราก็มีหรือเป็นมันมานานแสนนานแล้ว
แต่เราก็ละเลย ไม่ได้หยุดชื่นชมสิ่งของต่างๆ ต้นไม้ ดอกไม้ สนามหญ้าหน้าบ้านหรือสระว่ายน้ำที่เรามี
แต่เราก็ไม่เคยสนใจมันเลย
รวมไปถึงเราจะใส่ใจความรู้สึกของคนใน
ครอบครัวมากขึ้น อยากจะดูแลกันและกันมากขึ้น
รู้สึกขอบคุณและเห็นค่าของทุกอย่างที่มีอยู่รอบตัว
ความสงบจากภายใน มันจะทำให้เรามองเห็นคุณค่า
สิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งมันส่งผลให้เรามีชีวิตอยู่กับ
ปัจจุบันได้ง่ายขึ้น และแน่นอนว่า
1
ใครก็ตามที่อยู่กับปัจจุบันขณะได้ ผู้นั้นย่อมเกิด
ความสุขสงบจากภายในโดยอัตโนมัติ
ตามกฏของธรรมชาติ ตามกฏของสัจธรรม
เราจะมีความรักและเมตตากับตัวเองและ
ผู้อื่นด้วยความจริงใจไม่เสแสร้ง
เราจะให้คุณค่ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่
และใช้สอยมันอย่างประหยัดและเห็นคุณค่า
ที่แท้จริงของมัน
รู้สึกอยากจะฝึกฝนตนเองในการเปลี่ยนแปลง
พฤติกรรมหลายๆ อย่างของเราที่เราไม่ชอบและ
สามารถเริ่มฝึกมันได้ทันทีโดยอัตโมัติและมีสติ
นี่คืออีกมุมมองหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึง Mindset
ของการสุปเหตุการณ์ในมุมบวกและเปลี่ยน
สถานการณ์ที่แย่ให้เป็นโอกาสในการ
พัฒนาตนเอง ในการเปลี่ยนแปลงตนเอง
ด้วยการกลับคืนสู่สามัญ สู่ความธรรมดา
ความเรียบง่าย เพียงแค่ปรับตัว ปรับวิถีการใช้
ชีวิตแบบใหม่ เรียนรู้จากสถานการณ์และที่สำคัญคือปรับ Mindset ในการมองชีวิตของตัวเอง
เปลี่ยนมุมมองชีวิตและลืมอดีต หยุดการยึดติด
กับรูปแบบชีวิตเดิมๆ ของตนเอง เปลี่ยนแปลง
ฝึกจนสามารถ Transform ตัวเองให้อยู่กับ
ความเป็นจริง อยู่กับปัจจุบัน และเริ่มต้นชีวิตใหม่
ในชีวิตรูปแบบใหม่และจงมีความสุขกับมัน
สนุกกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แล้วชีวิตคุณแม่
ก็จะเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง จงสร้างมันใหม่
สร้างมันขึ้นมาใหม่ด้วยความเข้าใจ ด้วยความรัก
และความศรัทธาในตัวเอง แล้วความสามัญธรรมดา
จะนำมาซึ่งความสุขสงบจากภายในอย่างแท้จริง
เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคน เรามาช่วยกัน
เพิ่มพลังบวกให้กับสังคมด้วยการเริ่มฝึกตนเอง
ให้เป็นต้นแบบของลูกเรากันคะ
________________________
- เอ ปวีร์ลดา
#ศาสตร์การเข้าใจตัวตนที่แท้จริง
#ศาสตร์ความสำเร็จแบบจงใจ
#InsideOutSelfDevelopment
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Spiritual Guide
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย