15 ก.ค. 2021 เวลา 14:21 • สุขภาพ
ความทุกข์มันยังคงอยู่ได้ เพราะเราให้อาหารมัน
อาหารของความทุกข์ คือความทุกข์และ
"ความคิดที่เป็นทุกข์"
:
:
เมื่อเราเกิดความทุกข์จะมีสิ่งหนึ่งที่หล่อเลี้ยง
ความทุกข์ให้อยู่กับเรานานขึ้น นั่นคือ
"ความคิด" ที่คิดวกวน ซ้ำไปซ้ำมาแต่เรื่อง
ที่ทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ สลัดมันออก
จากหัวไม่ได้ เราจึงยืดอายุความทุกข์
ด้วยความคิดของเราเอง
ความคิดเป็นตัวกำหนดว่าชีวิตเราจะสุขหรือทุกข์
เพราะฉะนั้นเราต้องกำจัด จัดการกับต้นตอ
แห่งความทุกข์ด้วยการจัดการกับความคิด
สมองของเรามันทำงานอัตโนมัติในการ
ปกป้องตนเองนั่นคือหน้าที่ของมัน
แต่หากเราปล่อยให้มันทำงานโดยธรรมชาติ
ของมันโดยไม่เทรนสมองตัวเอง
มันก็จะพาเราคิดไปเรื่อย คิดฟุ้งซ่านและ
ที่สำคัญคือมันพาเราคิดลบ เพราะอาหาร
ของมันคือ ความคิดลบๆ เพราะสมอง
สั่งการให้หาแต่ปัญหาเพื่อมันจะได้ทำงาน
ทำหน้าที่ของมันคือ การหาวิธีแก้ไขปัญหา
หรือการเอาตัวรอด การปกป้องตนเอง
ไม่ให้ถูกทำร้าย
อ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็สัมผัสได้แล้วใช่ไหมคะ
ว่าสมองมันชอบทำงานไปในทางลบมากกว่า
ทางบวก นั่นแหละคือสาเหตุว่าทำไม
เราต้องลุกขึ้นมาเทรนสมองของเรา
ให้คิดแต่เรื่องที่ป็นประโยชน์ เรื่องที่มีความสุข
เพราะสมองที่ถูกเทรนแล้วมันก็จะทำหน้าที่
ของมันเช่นเดิม คือ ปกป้องเจ้านายของมัน
หากเราฝึกความคิดจนเป็นคนที่มีความรู้สึกดี
กับความคิดบวก กับความรู้สึกที่อนุญาต
ให้ตัวเองได้รับแต่ความสุข ชอบที่จะรู้สึกดีๆ
กับตัวเอง จนกลายเป็นตัวตนของเรา
เมื่อมีสถานการณ์ เหตุการณ์ คำพูดหรือ
ข้อมูลใดๆ ก็ตามที่ลบๆ ที่ทำให้เรารู้สึก
อึดอัด รู้สึกกังวล เครียด และทำให้รู้สึก
ไม่สบายใจ คนที่เทรนสมองมาแล้ว
มันจะทำงานทันที ทำหน้าที่ทันทีในการ
มีสติรู้ทันว่าอันนี้ไม่ใช่ละ เรื่องนี้ไม่ใช่ละ
คำพูดแบบนี้ไม่ยอมรับมันละ ข้อมูลแบบนี้
ต้องเลิกเสพละ เพราะมันทำให้ไม่สบายใจ
มันทำให้รู้สึกว่าป็นทุกข์ใจ
สมองมันก็จะรีบสั่งการจัดการกับปัญหา
ที่ทำให้เจ้านายมันมีความรู้สึกไม่ดี รู้สึกทุกข์ใจ
วิธีการหลอกสมองก็ง่ายๆ แค่นี้ ไม่มีอะไรซับซ้อน
มีเพียงอย่างเดียวคือฝึกตนเอง จนสมองมันชิน
มันอาจต้องใช้เวลา แต่มันคุ้มค่าที่จะฝึก
เพราะถ้าเราเทรนสมองของเราสำเร็จแล้ว
เราจะมีสติรู้ทันความคิด และตัดท่อน้ำเลี้ยง
ที่ส่งอาหารให้กับความทุกข์ของเราทางความคิด
ได้ทัน มันก็จะทำให้เรารู้สึกมีความทุกข์น้อยลง
อย่าปล่อยให้ความคิดให้อาหารความทุกข์ของคุณ
จนกลายเป็นคนที่จมอยู่กับความทุกข์
จนไม่สามารถกลับมามีสติเพื่อต่อสู้กับมัน
อาการนี้อันตรายมากๆ โดยเฉพาะคนที่เป็น
"คุณแม่" เพราะถ้าคุณไม่รู้ตัวเองว่ากำลัง
จมอยู่กับกองทุกข์และไม่รู้วิธีจัดการกับมัน
ผลร้ายต่างๆ มันจะออกมาทางอารมณ์ที่คุณ
จะส่งถึงลูกของคุณ สามีของคุณ ทั้งทางตรง
โดยการระบายมันออกมาทางคำพูดที่รุนแรง
และสีหน้า อาการที่ไม่น่ารัก
ผลทางอ้อมคือคุณจะเป็นคนเก็บกด และกอด
ความรู้สึกทุกข์ ใช้ชีวิตอยู่กับมันราวกับว่าคุณ
เป็นเพื่อนรักกับมันโดยไม่รู้ตัว นั่นมันก็คือนิสัย
ของคุณที่มันกลืนกินและคุณกลายเป็นมัน
เป็นทาสของมันและทำให้คุณเป็นคนที่ไม่น่ารัก
และไม่อยากมีใครอยู่ใกล้
จนในที่สุดคุณก็จะรู้สึกแย่กับตัวเอง
รู้สึกตัวเองไม่มีค่า โทษตัวเอง หมดไฟ
ไม่มีพลังหรือแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นมา
ทำสิ่งใหม่หรืออะไรที่สร้างสรรค์
หรือแม้แต่การพัฒนาตัวเอง คุณจะมองไม่เห็นหนทางในการไปต่อของชีวิตคุณเลย
และคุณก็กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่มีสังคมและ
เป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายมากๆ
เห็นภาพไหมคะ ว่าผลของการ
ปล่อยให้สมองหรือความคิดของเรา
ทำงานอย่างอิสระโดยที่ไม่ฝึก ไม่เทรนมัน
ไม่รู้ทันมัน มันส่งผลกับคุณ ลูกของคุณ
และครอบครัวของคุณมากขนาดไหน
รู้แล้วลุกขึ้นมาคะ เริ่มศึกษาและลงมือทำ
ลงมือเทรนมัน ฝึกมันเดี๋ยวนี้ เพื่อตัวคุณเอง
เพื่อลูกของคุณและครอบครัวที่คุณรัก
เป็นกำลังใจให้คุณแม่ทุกคน เรามาช่วยกันเพิ่มพลังบวกให้กับสังคมด้วยการเริ่มฝึกตนเองให้เป็นต้นแบบของลูกเรากันคะ
________________________
-เอ ปวีร์ลดา Mother Mind
"Success Mindset for Mom"
(Mindset ความสำเร็จสำหรับคุณแม่)
#MotherMind #MotherSmart #MotherWisdom #Growth #Mindset #Emotion #Thinking #Behavior #Mindsetความสำเร็จสำหรับคุณแม่
#SuccessMindsetForMom #เอปวีร์ลดาธนะพัฒน์มงคล #เอปวีร์ลดาMotherMind

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา