📖 บทที่ 3 เด็กน้อย "น่ารัก น่าชัง" .... ตอนที่ 3 : น่ารักที่สุด
ตัวอย่าง “ความน่ารัก” ของเด็กน้อย
ที่เรียกรอยยิ้มและความภาคภูมิใจให้คุณพ่อคุณแม่หายเหนื่อย และอยากจะเล่าให้ใครต่อใครฟังถึงความน่ารักของเจ้าตัวน้อยของคุณ
🐣หนูช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้ว
แม้ว่าคุณแม่จะยังต้องคอยดูอยู่ใกล้ๆ แต่ก็สามารถเอาอย่างอื่นมาทำควบคู่กันไปกับการดูแลหนูได้แล้ว เพราะหนูสามารถนั่งกินข้าวด้วยตัวเองได้ หนูยกแก้วน้ำดื่มเป็นแล้วนะ หนูเช็ดตัว ทาแป้ง ช่วยเอาเสื้อและกางเกงที่พึ่งถอดเปลี่ยนออกมาไปใส่ตระกร้ารอซักให้คุณแม่ได้ด้วย เพียงแต่คุณแม่คอยชมเชยและให้กำลังใจหนูเยอะๆ ก็แล้วกัน
🐣ช่วยเหลืองานได้ รู้หน้าที่ ใครทำแทนไม่ได้
เห็นหนูเป็นเด็กตัวเล็กแค่นี้ สิ่งไหนที่หนูพอจะช่วยหยิบจับให้คุณแม่ได้ ลองมอบหมายให้หนูทำ รับรองว่าหนูจัดให้คุณแม่ได้ทุกครั้งแน่นอน เช่น ทุกครั้งที่คุณแม่รีดผ้า หนูน้อยจะเป็นผู้ช่วยคอยหยิบขวดน้ำยารีดผ้าให้ ซึ่งคุณอาจรู้สึกขำกับความน่าเอ็นดูของเด็กน้อยกับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่เกิดขึ้นได้ นั่นก็คือ หากคุณแม่เผลอลืมตัว ไปหยิบน้ำยารีดผ้ามาซะเอง เมื่อหนูหันมาเห็นล่ะก็ หนูจะเอามันไปเก็บไว้ที่เดิม และเป็นคนหยิบมาส่งให้กับคุณแม่ด้วยตัวของหนูเองใหม่อีกครั้ง
คุณแม่ลองมอบหมายงานความรับผิดชอบเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกลองช่วยทำได้ เช่น ช่วยคุณแม่เด็ดผัก ช่วยคุณแม่รดน้ำต้นไม้ ฯลฯ
🐣ชอบเลียนแบบ
สิ่งที่คุณพูด และ สิ่งที่คุณทำ ไม่ว่าจะแสดงออกมาโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม หนูน้อยก็สามารถ copy ออกมาได้หมด และทำได้เหมือนมากซะด้วย เช่น ท่าทางการนั่งของคุณแม่ การใช้ภาษารวมถึงท่าทางการพูด กริยาอาการที่คุณแสดงออก การทำกิจวัตรประจำวันของคุณ เพื่อนๆ ของคุณจะรู้ว่าที่บ้านของคุณใช้การเปิดพัดลมด้วยนิ้วเท้าจากลูกช่างเลียนแบบของคุณนี่แหละ หรือบางคำพูดที่ลูกพูดออกมาอย่างน่าเอ็นดู เช่น แทนที่เค้าจะพูดคำสั้นๆ ว่า ไม่มี , ไม่ใช่ ก็อาจจะพูดว่า ก็ไม่น่าจะมีนะ หรือ ก็ไม่น่าจะใช่นะ แทน เพราะเคยได้ยินมาจากคนใกล้ตัวบางคนนั่นเอง และการที่ลูกแอบหยิบลิปสติคมาทาปากได้ท่าทางเหมือนคุณแม่มาก ทั้งๆ ที่คุณไม่เคยสอนเขาเลยว่าสิ่งนั้นคืออะไร และมีวิธีการใช้งานอย่างไร
🐣ช่างจดช่างจำ
เด็กน้อยวัยนี้เป็นวัยช่างจดช่างจำไปซะหมดทุกอย่าง ทำให้คุณรู้สึกภูมิใจถึงความฉลาดของเขา คุณจะรู้สึกว่า คุณใช้เวลาสอนเขาเพียงไม่นานเท่านั้น เขาสามารถจดจำได้เกือบทั้งหมด และเขาก็ยังจดจำบางสิ่งที่คุณไม่ได้ตั้งใจสอนเขาอีกด้วย เช่น ลูกสามารถเล่านิทานได้เหมือนกับที่คุณเล่าให้ฟังได้ ท่อง A-Z และ ก-ฮ ได้ สามารถนับ 1-10 หรือมากกว่านั้นได้
🐣ช่างซักช่างถาม
ลูกมักจะมีคำถามต่างๆ มาซักถามคุณอยู่เสมอ บางคำถามไม่ได้ยากเกินไปที่คุณจะตอบ เพราะคุณคุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น “อันนี้อะไรหรอ เอาไว้ทำอะไร ฯลฯ...”
แต่กับคำถามที่ว่า
- “ทำไมหนูกินไม่ได้ล่ะ มันเผ็ดหรอ ถ้ามันเผ็ดแล้วพริกมันอยู่ไหนหรอ"
- แล้วทำไมพริกมันไม่เป็นสีแดงล่ะ? ”
ฯลฯ
บางคำถามให้คุณเป็นคนมีเหตุผลมากขึ้น และทำให้คุณต้องสอนลูกให้มีความรู้หลากหลายมากขึ้นด้วยว่า พริก ไม่ได้มีเพียงแค่สีแดงเท่านั้น แต่ยังมีสีเขียว สีเหลือง และสีอื่นๆ ด้วย
บางคำถาม ฝึกให้คุณใช้ความคิดสร้างสรรค์ ถึงขนาดกลายเป็นนักแต่งเพลงก็ได้ เพราะลูกอาจมีคำถามมาคุยกับคุณตอนเห็นภาพม้าลายในหนังสือว่า มีเพลง “ม้าลาย” หรือเปล่า...แล้วเพลงม้าลายร้องยังไง ? เพราะลูกคุณเคยร้องแต่เพลง “ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ เป็ดอาบน้ำในคลอง ” “เจี๊ยก เจี๊ยก เจี๊ยก เป็นเสียงเรียกของลิง” พอเห็นม้าลาย ก็นึกอยากจะร้องเพลงม้าลายบ้าง
หรือกับคำถามที่ว่า แล้วทำไมแมวมันเอาขาเกาหูได้ล่ะ คุณพ่อทำแบบนี้ได้หรือเปล่า บางครั้งคุณอาจรู้สึกขำๆ อยากทดลองทำตามเสียงเรียกร้องของลูกเล่นๆ ดูก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำ หรือทำไม่ได้ คุณก็ต้องใช้สติปัญญาหาคำตอบมาให้ลูกได้ทำความเข้าใจด้วย เพราะการตอบเพียงแค่ว่า เพราะแมวมันไม่มีมือ อาจจะไม่เพียงพอก็ได้ เพราะลูกอาจถามคุณต่อว่า แล้วทำไมแมวมันไม่มีมือล่ะ ???
นอกจากนั้น ยังมีความน่ารักใน รูปแบบอื่นๆ อีก โปรดติดตามตอนต่อไป
แล้วลูกของคุณล่ะ มีความน่ารักแบบไหน ส่งมาอวดกันบ้างน๊า
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
