19 ก.ค. 2021 เวลา 08:04 • การเกษตร
กาแฟ คั่วอ่อน และ คั่วเข้ม
คั่วอ่อนมีคาเฟอีนมากกว่าคั่วเข้มจริงหรือ ?
หากพูดถึงกาแฟ ทุกคนคงนึกถึงคาเฟอีน มีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบว่า ความขมของกาแฟและคาเฟอีนที่ได้รับนั่น คนละส่วนกัน ในตอนแรกเราอาจจะมองว่า คั่วเข้ม เข้มขมถึงใจ !! นั่นแหละคาเฟอีนเยอะ ทำให้ตื่นตัวได้ ยิ่งขมเท่าไหร่ ยิ่งตาสว่างมากเท่านั่น และมองว่ากาแฟคั่วกลาง คั่วอ่อนนั้น รสชาติเบายิ่งใส่กับนมสดนี้ น้องๆดื่มเลยครับไม่ถึงใจเหมือนพี่คั่วเข้ม มีคาเฟอีนที่น้อยกว่า
แต่แล้วก็มีงานวิจัยออกมาว่า กาแฟคั่วอ่อนนั่นแหละคาเฟอีนเยอะสุด เพราะความร้อนที่ได้รับในการคั่วเมล็ดกาแฟน้อยกว่าการคั่วเข้ม ทำให้คาเฟอีนระเหยน้อยกว่า โดนความร้อนไม่นานเหมือนคั่วเข้มที่ต้องใช้เวลาในการคั่วนานกว่า
(คาเฟอีนแปรผันกับอุณหภูมิ)
นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง หากพูดถึงการคั่วเมล็ดกาแฟ
แต่ว่า!! หากมาเทียบกันในแก้วกาแฟของเราที่ดื่มกันนั่น สมมุติว่า มีคั่วเข้ม 1 แก้ว และคั่วอ่อน 1 แก้ว จากร้านกาแฟเดียวกัน เมล็ดกาแฟพันธุ์เดียวกันจากแหล่งปลูกที่เดียวกัน เก็บผลผลิตมาพร้อมกันและคั่วในอุณหภูมิที่ต่างกัน (คั่วอ่อน,คั่วเข้ม)
พูดตามตรงว่า คาเฟอีนที่ได้รับแทบจะไม่แตกต่างกันเลย
ขอเพิ่มข้อมูลเสริมเล็กน้อย ในการคั่วกาแฟ เมล็ดกาแฟที่คั่วอ่อนจะมีน้ำหนักต่อเมล็ดมากกว่าเมล็ดกาแฟที่คั่วเข้ม เพราะมีรูพรุนภายในน้อยกว่า ทำให้มีน้ำหนักมากกว่าหากเทียบเมล็ดต่อเมล็ด
ดังนั่น หากเราใช้กาแฟในการสกัดอยู่ที่ 16 กรัม ต่อแก้ว
คั่วอ่อน 10 เมล็ด 16 กรัม / แก้ว
คั่วเข้ม 13 เมล็ด 16 กรัม / แก้ว (น้ำหนักเมล็ดเบากว่าเวลาบดเลยได้เมล็ดกาแฟที่มากกว่า)
เมล็ดกาแฟที่มากขึ้นของคั่วเข้มทำให้ได้รับคาเฟอีนเพิ่มขึ้น
หากมาวัดคาเฟอีนกันที่ จำนวนเมล็ดกาแฟ ไม่ได้ชั่งจากน้ำหนักของเมล็ดกาแฟ
คั่วอ่อน 10 เมล็ด คั่วเข้ม 10 เมล็ด แน่นอนว่า คั่วอ่อนคาเฟอีนย่อมเยอะกว่าคั่วเข้ม
*ใครชอบรสชาติกาแฟ การคั่วแบบไหน ไม่ว่าจะ อ่อน กลาง เข้ม ไม่ต้องกังวลเรื่องคาเฟอีน จงดื่มในแบบที่เราชอบ และขอให้มีความสุขกับกาแฟแก้วนั่น
โฆษณา