1 ก.ย. 2021 เวลา 08:48 • ปรัชญา
บทที่ 18 ภารตะทวีป ดินแดนแห่งอสรพิษและรากษส
2
บทที่แล้วได้เล่าถึงสายน้ำที่ไหลลงใต้ออกสู่โลกมนุษย์แล้ว บทนี้จะเล่าถึงอลักนันดานทีที่ยังไหลอยู่ในโลกหิมพานต์กันต่อ
อลักนันดานทีซึ่งไหลแยกไปทางตะวันออก สายน้ำมีความคดเคี้ยวมากราวกับรอยงูใหญ่เลื้อยทิ้งไว้ เมื่อน้ำไหลผ่านป่ารกชัฏไปได้ก็เข้าสู่ผืนป่าที่หนาแน่นไปด้วยต้นหวายซึ่งมีกิ่งหนามแหลมคมไปทั้วทั้งต้น ขึ้นเบียดเสียดหนาแน่นไปกับต้นสบู่ ละหุ่ง กล้วยและไผ่ อันมีขนาดสูงใหญ่กว่าพืชชนิดเดียวกันในโลกมนุษย์จนแม้แต่งูก็ยังเลื้อยผ่านไปได้อยาก ป่าหวายเหล่านั้นมีขนาดพื้นที่เหนือจรดใต้ถึง 100 โยชน์ (1,600 กม.) ทำหน้าที่ป้องกันผู้รุกรานไม่ให้ขึ้นไปยังไกรลาสกูฏได้โดยง่าย สองฝากฝั่งของแม่น้ำเต็มไปด้วยป่าไม้หวายที่ขึ้นสูงหนาทึบจนแสงจากฝากฟ้าไม่อาจส่องลงมาถึงผิวน้ำได้ ต้นหวายเหล่านั้นแผ่กิ่งหนามแหลมคมไปทั่วทุกสารทิศแม้แต่ในน้ำ จนสัตว์น้ำก็ยากที่จะว่ายผ่านไปมาได้ง่าย
1
เมื่อสายน้ำไหลออกมาจากป่าหวายก็เข้าสู่ผืนป่าเบญจพรรณ จึงทำให้เกิดความรู้สึกปลอดโปร่งขึ้นมาบ้าง ทว่ากลับมิอาจเบาใจได้เพราะใต้ผืนน้ำกลับเต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนาๆชนิด ทั้งงูยักษ์แสนเจ้าเล่ห์ มีขนาดลำตัวยาวหลายร้อยเมตร งูยักษ์บางตัวทำทีเป็นนอนนิ่งๆพาดระหว่างสองฝั่งแม่น้ำให้สัตว์อื่นคิดว่ามันเป็นไม้ใหญ่ที่โค้นล้มพาดแม่น้ำไว้เป็นสะพานให้ข้ามได้โดยง่าย เมื่อสัตว์ผู้เคราะห์ร้ายขึ้นข้าม มันก็จะแว้งกัดรวบรัดเหยื่ออันโอชะอย่างรวดเร็ว บรรดาจระเข้เหราลำตัวอ้วนท้วนอันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าไปในทางอ้อม ต่างพากันนอนอาบแดดอยู่สองริมฝั่งแม่น้ำ เป็นภาพที่งดงามตาแต่น่าหวั่นวิตกไปพร้อมๆกัน
1
Creatures [multifarious] by PigeonHero on Imgur: The magic of the Internet
ป่าเบญจพรรณมีขนาดพื้นที่เหนือจรดใต้ราว 100 โยชน์ (1,600 กม.) เช่นเดียวกับป่าหวาย ผืนป่าต่างแผ่ขยายกว้างเต็มพื้นที่ระหว่างทวีปด้านไกรลาสจรดทวีปด้านคันธมาทน์ ก่อนที่สายน้ำจะไหลเข้าสู่บริเวณรอยต่อระหว่างทวีปทั้งสอง พื้นที่รอยต่อหว่างสองทวีปเป็นที่ราบดอนให้สายน้ำสามารถไหลผ่านไปได้ เป็นที่อยู่ของยักษ์ซึ่งมีขนาดตัวสูงกว่ามนุษย์สัก 100 เท่าหลายตน แต่ละตนมีผิวหนังหยาบกร้านสีน้ำเงินเข้ม นัยน์ตาแดงก่ำดุจเปลวไฟ ต่างพกพาอาวุธเป็นค้อนเหล็กและขวานใหญ่ค่อยดักจับสัตว์ที่ผ่านไปมาเป็นอาหาร
1
Yotun Mobius , wisnutan (2D) CGTalk, the CGSociety's official forum for digital artists
ส่วนบนภาคพื้นบนภารตะทวีป สายน้ำที่ไหลแยกตัวไม่ลงอุโมงค์สู่โลกมนุษย์ ต่างไหลอ้อมอุโมงค์ลงใต้กระจายไปทั่วภารตะทวีป สองฝั่งแม่น้ำบนภารตะทวีปล้วนเป็นหน้าผาสูงชันสลับซับซ้อนจนหาที่ราบได้ยาก ไล่ลงไปถึงใจกลางแผ่นทวีปเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ มีนามว่า“อหิสระ” รอบสระชั้นในถูกล้อมรอบด้วยป่าหนามแหลมคมถัดออกมาเป็นป่ารกทึบ ป่าอ้อและป่าไผ่ ทำหน้าที่เป็นกำแพงหนารวมกันราว 3 โยชน์ (48 กม.) รอบสระ ราวกับกำลังกักขังอะไรบางอย่างไว้ เมื่อเข้าไปด้านใน อหิสระเกลื้อนกลาดไปด้วยงูนาๆชนิดจำนวนมหาศาลเลื้อยพาดทับกันทั้งบนบกและในน้ำจนหาที่ว่างไม่ได้และสุดแสนจะอันตราย สายนั้นก็กระจายกันเป็นสายย่อยๆจำนวนมาก บางสายไหลออกจากผืนทวีปไปรวมกับอลักนันดานทีเพื่อไหลออกสู่มหาสมุทร จนต้องเดินทางด้วยการเดินเท้าหรือเหาะขึ้น
1
เมื่อเดินทางจากอหิสระลงใต้ป่าหญ้าขนาดใหญ่ ที่ต้องใช้คำว่า”ป่าหญ้า”แทนคำว่าทุ่งหญ้าเพราะหญ้าเหล่านั้นต่างมีลำต้นขนาดใหญ่ขึ้นสูงกว่ามนุษย์โลก แถมมาด้วยใบที่แหลมคมดั่งใบมีด แผ่สยายพร้อมที่จะปาดสัตว์ที่หลงเข้ามาให้กลายเป็นชิ้นๆ ป่าหญ้านั้นไปสิ้นสุดที่แนวเทือกเขาแห่งหนึ่งซึ่งมีพื้นภูเขาเป็นแร่เงินและทองคำ อีกฟากทางตอนใต้ของแนวเทือกเขาเงินและทองคำนั้นเป็นทุ่งหญ้าคากว้างใหญ่ราว 1 โยชน์ (16 กม.) อันแสนงดงาม แต่ความงามนั้นเป็นเพียงสิ่งลวงตาเพราะดอกของหญ้าคาเหล่านั้นเต็มไปด้วยพิษร้ายอันตรายถึงชีวิต
1
Raphael Lacoste on Twitter “MushLand #ArtistOnTwitter #conceptart #fantasy #photoshop”
เมื่อผ่านทุ่งหญ้าคาไปได้ก็เข้าสู่เขตแดนใต้ของทวีปด้านข้างโลกหิมพานต์ฝั่งไกรลาสอย่างแท้จริง โดยมีสัญลักษณ์บอกเขตแดนเป็นแนวป่ามหาขฏัมพะ(ป่าต้นกระทุ่มยักษ์) ป่านั้นหนาทึบไปด้วยต้นกระทุ่มสูงใหญ่จนภาคพื้นราวกับอยู่ในยามค่ำคืนตลอดเวลา ป่านั้นเงียบกริบจนน่าวังเวง เมื่อถึงใจกลางป่ามีทะเลสาบแห่งหนึ่งนามว่า “สระขฏัมพะ” ซึ่งก็คงเดาไม่ยากว่ามันหมายถึงสระต้นกระทุ่ม ถูกใช้เป็นที่อยู่และดื่มกินของเหล่ารากษสทั้งหลาย จึงไม่น่าแปลกใจว่าเหตุใดแถวนี้จึงไม่ค่อยมีสัตว์ทั่วไปอาศัยอยู่ ยกเว้นแต่เหล่าปีศาจที่จะอาศัยอยู่บริเวณนี้รวมกับรากษส
1
Vidar the pale hunter by r/characterdrawing on reddit
เราดั้นด้นออกจากป่ามหาขฏัมพะจนพบกับทางออก แต่ทว่าทางออกนั้นกลับถูกปิดสนิทโดยเหมวตบรรพตที่ต่างโน้มหัวอันเป็นยอดเขาทองคำมาปิดกั้นเป็นกำแพงขนาดมหึมาขวางทางออกไว้สนิท มีวิธีการเดียวที่จะผ่านมันไปได้นั้นคือต้องร่ายมนต์แห่งไกรลาสอันศักดิ์สิทธิซึ่งใช้กันมาตั้งแต่ก่อนพุทธกาล มนต์แห่งไกรลาสนั้นร่ายว่า
1
"โอม มฤตยูน จะยะ ปะเรชานะ จะกะตา ภะยะนาชานะ
ตะวัธ ธยาเนนะ เดเวชา มฤตยูป ปราบโนติ จีวะตี
วันเด ฮีชานะ เดวายะ นะมะตัสไม ปินากิเน
อาดิมัธ ธยานตะ รูปายะ มฤตยูนาชัม กะโรตุเม
นะมะตัสไม ภะกะวะเต ไกลาส สาจจะละ วาสิเน
นะโมบรัม ฮเมน ดะรูปายา มฤตยูนาชัม กะโรตุเม
ตรัมบะกายะ นะมัสตุป ภยัม ปันจัส สยายะ นะโมนะมะฮะ
นะโมโด รดันนะ จาปายะ มะมะ มฤตยูม วินาชายะ
นะโม รเธน ดรุส วารูปายะ นะโม ดิก วะสะนายะ จะ
นะโม ภาก ตา รติ ฮันเต จะ มะมะ มฤตยูม วินาชายะ
เดวัม เมตตยุเวนาชานัม ภยาฮารัม สาม รมา จยะมุกติ ประดัม
นานาภูต ตะกะนาน วิตัม ดิวิปะเดฮะ เดไวฮะ สะดาเสวิตัม
อัก กยานัน ธะกะนาชะนัม โชวาการัม วิธ ธยาสุ โสคเคียประดัม
สราวะ สราวะปะติม มเฮชะวะระ ฮรัม มฤตยูน จะยะ ภาวะเย"
1
เราต้องร่ายมนต์ ณ ยอดเขานั้น เหมวตบรรพตจึงจะค่อยๆยกหัวอันเป็นยอดเขาขึ้นเพื่อเปิดทางให้เราผ่านไปได้ มันจะค่อยขยับตัวเปิดทางให้เราไปตลอดทาง แต่เราต้องร่ายมนต์ตลอดทางเดินนั้นห้ามหยุดร่ายมนต์โดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นมันจะเบียดตัวแล้วฟาดหัวอันเป็นยอดเขากลับลงมาใส่ให้เราแหลกรานในทันที
1
Chasm Duty by Johanna Rupprecht
เมื่อพบแสงสว่างที่ปลายทางและผ่านออกมาได้ก็ต้องให้เป็นที่น่าประหลาดใจเพราะบริเวณนั้นเป็นพื้นที่เรียบโล่งมีฝุ่นตลบอบอวลไปทั่วและไม่มีต้นไม้แม้สักต้นผิดวิสัยของโลกหิมพานต์ แต่ในไม่ช้าก็ต้องเข้าใจได้โดยง่าย เพราะพื้นที่นี้เป็นลานประลองกำลังของช้างขนาดยักษ์สองเชือกต่างขบเคี้ยวประสานงากันอย่างดุเดือนจนพืชพรรณต้องแหลกรานจนราบเป็นหน้ากลองเช่นนี้ เราเรียบหลบออกจากลานประลองอันดุเดือด แล้วลงใต้ต่อสู่ป่าหวายรกชัฏเบื้องหน้าซึ่งมีลักษณะคล้ายกับป่าหวายตอนบนของทวีป พืชในป่าล้วนออกผลดกตลอดทั้งปี แต่ทว่ากลับไม่สามารถกินได้ เพราะผลเหล่านั้นเต็มไปด้วยพิษรวมทั้งส่วนอื่นของต้นทั้งดอก รากและใบ ก็ล้วนเป็นพิษทั้งสิ้น เราต้องคอยสังเกตพวกลิงและนกในระแวกนั้นว่าพวกมันกินพืชใดไม่กินพืชใดจึงจะกินตามได้ แม้เราอยู่เฉยๆก็ต้องระวังเกสรพิษทั้งหลายที่ลอยมาตามลมสัมผัสผิวให้ปวดแสบปวดร้อน
1
ผืนป่าพิษนั้นนั้นมีถ้ำอันคดเคี้ยวลงสู่บาดาลและมหาสมุทรอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้ำเหล่านั้นเป็นที่อยู่ของ มโหรคะและอหิภัณฑ์ทั้งหลาย ซึ่งจะอธิบายในเนื้อหาส่วนของสัตว์วิเศษในอีกไม่นาน ทั้งต้นไม้เบื้องบนก็เต็มไปด้วยรังและเสียงโวกเวกของนกหัสดีลิงค์ เราเดินทางรอนแรมลงใต้ไปตามแนวไหล่ทวีปอันเป็นป่าพิษระยะทางประมาณ 60 โยชน์ (960 กม.) ตามความสูงของแนวเทือกเขาด้านใต้ของทวีปที่เกยสูงขึ้น ก่อนจะถึงชายฝั่งมหาสมุทรหิมพานต์อันมีพื้นทรายเป็นแก้วผลึก แก้วมุกดาและผลึกเงินอันงดงาม ในที่สุดการเดินทางผจญภัยทวีปด้านข้างโลกหิมพานต์ของเราก็สำเร็จและสิ้นสุดปลายทางมหาสมุทรหิมพานต์นี้
1
บทต่อไปเราจะเวียนขวาไปทวีปด้านข้างโลกหิมพานต์ฝั่งที่อยู่ด้านเขาจิตตกูฏและกาฬกูฏ หรือ"เกตุมาละทวีป"กันบ้าง โดย ลามะน้อย
1
โฆษณา