27 ส.ค. 2021 เวลา 23:30 • หนังสือ
(28) สรุปเนื้อหาสาระสำคัญจากหนังสือ
ลงทุนแบบป้าแอนน์ โดย ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ตอนที่ 28
ห้าปีกับหุ้นห้าประเทศ
วิธีที่ง่ายก็คือ ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นที่อิงดัชนี เช่น กองทุน SET50 เป็นต้น แต่นั้นเป็นเรื่องใน "อดีต" ของตลาดหุ้นไทยและสหรัฐฯ ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีเยี่ยมมายาวนานแต่ "อนาคต" นั้น
ผมเองไม่คิดว่าเราจะโตแบบเดิมได้ ดังนั้น ตลาดหุ้นไทยจะยังให้ผลตอบแทนถึงปีละ 10 เปอร์เซ็นต์แบบทบต้นไปอีกหลายสิบปี จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เหตุผลของผมก็เพราะว่า ประเทศที่เติบโตช้านั้นตลาดหุ้นมักจะไม่ให้ผลตอบแทนที่ดี
ประเทศที่ผมสนใจและอาจจะพิจารณาลงทุนแบบ VI ในระยะยาวใน AEC นั้นมี 5 ประเทศก็คือ ไทย เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
เหตุผลก็คือ ทั้งห้าประเทศนั้น มีระดับของการพัฒนาการทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน มีขนาดของเศรษฐกิจและ GDP ไม่ต่างกันมาก มีประชากรมากพอที่จะขับเคลื่อนให้บริษัทจดทะเบียนมีขนาดใหญ่และมีความหลากหลายพอที่จะลงทุนได้ และที่สำคัญที่สุด เป็นกลุ่มประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในอดีตสูงติดระดับโลก และยังมีศักยภาพในการเติบโตต่อไปในระดับโลกอีกเช่นกัน
เราอยู่อันดับที่ 3 จาก 5 ประเทศ ตลาดหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดก็คือ
ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ให้ผลตอบแทนจากราคาหุ้นประมาณ 12 เปอร์เซ็นต์ และถ้ารวมปันผล ก็คงไม่ต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์แบบทบต้น
ตลาดหุ้นอันดับ 2 ก็คือ
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ให้ผลตอบแทน 10.10 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้ารวมปันผลที่ผมคิดประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ ก็จะให้ผลตอบแทนเฉลี่ยแบบทบต้นปีละ 13.10 เปอร์เซ็นต์
ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทน 9.20 เปอร์เซ็นต์ รวมปันผลก็ประมาณ 12.20 เปอร์เซ็นต์
ตลาดหุ้นอันดับ 4 คือ
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ที่ให้ผลตอบแทน 7.10 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 10.10 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
และตลาดหุ้นมาเลเซีย ที่ให้ผลตอบแทนน้อยมากที่ 2.60 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 5.60 เปอร์เซ็นต์ต่อปีหากรวมปันผล
สิ่งที่กำหนดเรื่องของผลตอบแทนหุ้นในตลาดที่สำคัญตัวหนึ่งก็คือ เรื่องของ อัตราดอกเบี้ยของไทยเคยสูงสุดที่ 3.50 เปอร์เซ็นต์ และลดลงมาต่อเนื่องจนล่าสุดอยู่ที่ 1.50 เปอร์เซ็นต์ และนี่ก็คงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดีมาก
การเติบโตของรายได้ประชาชาติต่อหัว (GDP/capita) เริ่มจากประเทศไทยนั้นในช่วง 5 ปี มีการเติบโตขึ้นน้อยที่สุดที่เพียง 12.23 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นปีละประมาณเพียง 2.45 เปอร์เซ็นต์
ตรงกันข้าม เวียดนามมีการเติบโตของรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในกลุ่ม อยู่ที่ 24.48 เปอร์เซ็นต์ หรือเฉลี่ยปีละ 5.10 เปอร์เซ็นต์ และนี่น่าะมีส่วนสำคัญที่ผลักดันดัชนีให้ขึ้นไปสูงที่สุดในกลุ่ม
ในขณะที่ฟิลิปปินส์ที่ดัชนีเพิ่มขึ้นสูงเป็นอันดับ 2 นั้น ก็มีการเติบโตของรายได้ต่อหัวค่อนข้างสูงที่ 19.93 เปอร์เซ็นต์
ประเทศที่ดูเหมือนจะแปลกก็คือ อินโดนีเซียที่มีการเติบโตของรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างสูงที่ 23.94 เปอร์เซ็นต์ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 4.79 เปอร์เซ็นต์ รองจากเวียดนามเพียงเล็กน้อย แต่ดัชนีหุ้นหรือผลตอบแทนการลงทุนกลับมาอยู่ในอันดับที่สี่
และสุดท้ายก็คือ มาเลเซียที่รายได้ต่อหัวของประชาชนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้น มีการเติบโตน้อยมากที่ 13.49 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงปีละ 2.70 เปอร์เซ็นต์ และนี่น่าจะส่วนที่ทำให้ตลาดหุ้นมาเลเซียในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานั้นเพิ่มต่ำที่สุดในกลุ่ม
เขียน ณ วันที่ 26/11/2559
หากเห็นว่าหนังสือเล่มนี้เป็นประโยชน์กับคุณ อย่าลืมซื้อ เพื่อเป็นการสนับสนุน ผู้เขียนด้วยนะ
หาซื้อได้ที่ ร้านหนังสือ Se-Ed Book Center หรือร้านจำหน่ายหนังสือใกล้บ้านคุณ ราคา 220 บาท
สามารถกดติดตาม กดไลค์ กดแชร์ เพื่อรับบทความดีๆจาก เพจคลังปัญญา ได้ในทุกวันเวลา 06.30 น. สามารถติชม แนะนำ
ในทางสร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเพจในทางที่ดีขึ้นได้นะ ขอขอบคุณผู้ติดตามทุกท่านมานะที่นี้
โฆษณา