28 ก.ค. 2021 เวลา 11:24 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
จากเรื่อง Kingdom : Ashin of the North ชนเผ่าหนี่ว์เจิน คือใคร เกี่ยวข้องอย่างไรกับประวัติศาสตร์เกาหลี
2
*มีการเปิดเผยเนื้อหาในภาพยนต์บางส่วน*
หลังจากภาพยนตร์เรื่อง Kingdom : Ashin of the North ได้ฉายผ่าน Netflix ซึ่งเป็นภาคพิเศษแยกจากซีรีส์เรื่อง Kingdom เพื่อเล่าย้อนที่มาที่ไปของดอกไม้สีม่วงต้นตอของการเกิดโรคระบาดที่ทำให้คนในยุคโชซอนกลายเป็นซอมบี้ ผู้เขียนพบว่ามีประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยของเกาหลี
7
บริบทในเรื่องคร่าวๆ เป็นช่วงอาณาจักรโชซอนของเกาหลี กำลังเผชิญภัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการรุกรานของญี่ปุ่น และ ชนเผ่าต่างๆในบริเวณคาบสมุทรเกาหลี
3
เนื้อเรื่องมีการพูดถึงชนเผ่าหนี่ว์เจิน ชนกลุ่มน้อยชายขอบ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากโชซอนและจากเผ่าด้วยกันเอง ซึ่งมีความน่าสนใจว่าพวกเขาเป็นใครมาจากไหน เกี่ยวข้องอย่างไรกับประวัติศาสตร์ของเกาหลี
2
- ชนเผ่าหนี่ว์เจิน -
1
ชนเผ่าหนี่ว์เจิน หรือ เจอร์เชน (女真; pinyin: nǚzhēn) เป็นชนเผ่าที่อยู่ในกลุ่มผู้พูดภาษาทังกุส (Tungus) มีถิ่นฐานเดิมอยู่บริเวณไซบีเรีย และบริเวณแมนจูเรีย ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในปัจจุบัน
1
แต่เดิมก่อนที่จะเป็นชนเผ่าหนี่ว์เจิน ชนเผ่าที่พูดภาษาทังกุสทั้งกลุ่มอยู่รวมกันเป็นเผ่าใหญ่ ก่อนที่บางส่วนจะแยก อพยพลงมาทางตอนใต้ ซึ่งก็คือบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของจีน หรือบริเวณแมนจูเรีย
Credit : https://static.wikia.nocookie.net/civilization-v-customisation/images/5/5f/ManchuMap.png/revision/latest?cb=20160719044220
ในพื้นที่นั้นมีชนเผ่าเดิมที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว ชื่อว่าชนเผ่าม่อเหอ ชาวทังกุสที่ได้อพยพลงมาก็ได้รวมกลุ่ม ผสมกลมกลืนสังคมและวัฒนธรรมเข้าเป็นชนเผ่าหนี่ว์เจิน แต่เนื่องด้วยความเป็นชนเผ่า ทำการเลี้ยงสัตว์ เพาะปลูกระยะสั้น ไม่ได้ตั้งที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่ละเผ่าจึงแยกกระจัดกระจายกันไป ไม่มีอำนาจส่วนกลางที่รวมทุกเผ่าเป็นหนี่ว์เจินเดียว
ดังนั้นเผ่าไหนที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางอำนาจที่ไหน ก็มักจะเข้าร่วมอยู่ภายใต้ศูนย์กลางอำนาจนั้น เช่น จีน และ เกาหลี
3
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ชนเผ่าหนี่ว์เจินปกครองตนเองอย่างอิสระ และดำเนินความสัมพันธ์กับจีนและเกาหลี จนในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 หัวหน้าเผ่าหนี่ว์เจิน นามว่า อากู๋ต่า ได้ต่อสู้แย่งชิงอำนาจจากพวกชี่ตัน และสามารถล้มราชวงศ์เหลียวได้สำเร็จ ในปีค.ศ. 1114
2
อากู๋ต่ารวบรวมเผ่าหนี่ว์เจินที่กระจัดกระจายเข้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ และสร้างเป็นอาณาจักรจินขึ้นมา อากู๋ต่าสถาปนาและตั้งตนเป็นกษัตริย์นามว่า ไท่จู่ ปกครองอาณาจักรจินจากเดิมที่อยู่กันแบบชนเผ่า เปลี่ยนเป็นการรวมอำนาจบริหารจากหัวหน้าเผ่ามาไว้ที่หัวหน้าสูงสุด และทั้งหมดถูกรวมอยู่ภายใต้กษัตริย์
1
อากู๋ต่า หรือ พระเจ้าไท่จู่ ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จิน (Credit : https://en.wikipedia.org/wiki/File:Wanggiyan_Aguda.jpg)
รวมถึงแต่เดิมที่เลี้ยงสัตว์เร่ร่อน ก็เปลี่ยนเป็นตั้งถิ่นฐาน สร้างบ้านเรือน ทำการเพาะปลูก ทำเกษตรกรรม และหัตถกรรม มีตัวเขียนและภาษาเป็นของตนเอง
อาณาจักรจิน ปกครองโดยกษัตริย์ทั้งหมด 9 พระองค์ กินระยะเวลา 120 ปี มีประชากรคาดการณ์ประมาณ 45 ล้านคนอาศัยอยู่ ก่อนที่จะโดนมองโกลบุกเข้ามาตีและเอาชนะได้ในที่สุด ทำให้อาณาจักรจินล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1234 และถูกรวมเข้ากับอาณาจักรฮั่นของจีนในเวลาต่อมา
1
ภายใต้การปกครองโดยมองโกล ชาวหนี่ว์เจินเดิมที่อยู่บริเวณแมนจูเรียต้องกระจัดกระจายแยกตัวเป็นเผ่าเล็กๆอีกครั้ง และแยกกันไปตามที่ต่างๆ ซึ่งบางส่วนอพยพมาที่ตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งตรงกับยุคโชซอนตอนต้นของเกาหลี
1
ภาพวาดบนผ้าไหมช่วง c.13 เป็นภาพคนหนี่ว์เจิน ที่ทำหน้าที่เลี้ยงเหยี่ยวในอาณาจักรจิน (ภาพนี้จัดแสดงอยู่ที่ British Musuem เมืองลอนดอน) Credit : https://www.worldhistory.org/image/7383/jurchen-falconer/
- หนี่ว์เจินบนคาบสมุทรเกาหลี -
ตัดภาพมาที่คาบสมุทรเกาหลี ทางตอนเหนือมีพรมแดนติดกับประเทศจีน และรัสเซีย
เกาหลีในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 อาณาจักรโครยอ (Goryeo) เปลี่ยนผ่านไปเป็นอาณาจักรโชซอน (Joseon) ซึ่งมีอายุยาวกว่า 500ปี (ค.ศ. 1392-1910) เป็นศูนย์กลางอำนาจที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมบริเวณเมืองเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ และครอบคลุมถึงเมืองฮันยาง (กรุงโซล) ประเทศเกาหลีใต้ในปัจจุบันด้วย
Credit : https://bodashiri.tumblr.com/post/139534503906/six-flying-dragons-ep-39-40
หลักฐานการเข้ามาของชนเผ่าหนี่ว์เจิน มีบันทึกในสมัยศตวรรษที่ 10 หรือ ช่วงโครยอ ในบันทึกมีการพูดถึง Heishui Mohe เป็นพวกอนารยชนที่พูดภาษากลุ่มทังกุสทางตะวันออก ซึ่งป่าเถื่อนและรุนแรง
1
โชซอนมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือกว่าอาณาจักรใกล้เคียงใดๆในคาบสมุทรเกาหลีตอนนั้น และได้พยายามเข้าควบคุมอาณาจักรเล็กๆ รวมถึงชนเผ่าเอาไว้ด้วย
ซึ่งอธิบายได้ว่าทั้งโชซอนและราชวงศ์หมิงของจีน พยายามรวบรวมพันธมิตรและขยายดินแดนให้ได้มากที่สุด เพื่อต้านทานกองทัพของมองโกล ที่เป็นภัยรุกรานของจีน เกาหลี และญี่ปุ่น
2
โชซอนยกเลิกระบบในการควบคุมชนเผ่าทางตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลีของโครยอที่ใช้ก่อนหน้านี้ โดยเปลี่ยนจากการควบคุม เป็นการปรองดองกับหัวหน้าเผ่าต่างๆของหนี่ว์เจิน มีหลักฐานปรากฏด้วยว่าโชซอนอนุญาติให้เผ่าหนี่ว์เจินตั้งถิ่นฐานภายในอาณาจักรได้ ในฐานะผู้ลี้ภัยและการ์ดปกป้องราชสำนัก
1
ภาพวาด ยุนกวานแห่งโครยอ ที่เอาชนะกลุ่มหนี่ว์เจินได้ และกำลังสร้างอนุสาวรีย์เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขต (Credit : https://en.m.wikipedia.org/wiki/Korean%E2%80%93Jurchen_border_conflicts)
ชนเผ่าหนี่ว์เจินทางตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี มี 2 กลุ่มหลักๆ
กลุ่มแรกในสายตาของโชซอน คือ เป็นกลุ่มของศัตรู ชื่อว่า พาจอวี (Pajeowi) เป็นกลุ่มชนเผ่าหนี่ว์เจินที่ใหญ่และทรงอิทธิพลมาก เพราะสามารถรวบรวมกลุ่มเล็กๆไว้ได้หลายกลุ่ม และมีความเชี่ยวชาญในการรบ อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของโชซอน ทำให้โชซอนจับตามองเป็นพิเศษ เพราะเกรงว่าจะโดนชนเผ่าพาจอวีรุกราน
2
(Credit: https://kakuchopurei.com/2021/07/16/what-to-know-before-watching-kingdom-ashin-of-the-north/)
ซ้าย: หัวหน้าผ่าซองจอยาอิน / ขวา: หัวหน้าเผ่าพาจอวี  (Credit : https://www.mymusictaste.com/news/kingdom-ashin-of-the-north-drops-the-posters-of-4-characters-intertwined-with-the-mysterious-herb,2001/)
กลุ่มที่สอง ชื่อว่า ซองจอยาอิน (Seongjeoyain) แปลได้ว่า อนารยชนที่อาศัยอยู่ใกล้ป้อมปราการ ในสายตาโชซอนคือเป็นกลุ่มกันชน ซึ่งเป็นชนเผ่าหนี่ว์เจินที่อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำอัมนก (Amnok River) ซึ่งติดกับเขตแดนและป้อมปราการทางตอนเหนือของอาณาจักรโชซอน
5
ชนเผ่าซองจอยาอิน ได้รับอนุญาตจากราชอาณาจักรโชซอนให้ตั้งบ้านเรือนและถิ่นฐานได้ ซึ่งพวกเขาอยู่เช่นนี้กว่าร้อยปีก่อนที่เกาหลีจะโดนญี่ปุ่นรุกราน
แต่ชนเผ่าซองจอยาอิน ไม่เคยถูกยอมรับจากโชซอน และไม่ถูกนับรวมว่าเป็นชนเผ่าหนี่ว์เจินด้วย ทำให้สถานะของเผ่าอยู่ตรงกลาง เป็นเพียงเขตกันชน (Buffer zone) ระหว่างชนเผ่าพาจอวีและโชซอน
6
การไม่ถูกยอมรับโดยฝ่ายไหน เรียกว่าเป็นคนชายขอบก็ย่อมได้
1
จากเรื่อง Kingdom : Ashin of the North อาชินตัวละครหลักและพ่อของเธอ เป็นคนของกลุ่มซองจอยาอิน ที่โชซอนมอบพื้นที่บริเวณพเยซากุน (Pyesagun) ให้ตั้งบ้านเรือน
พ่อของอาชินเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่จงรักภักดีต่อโชซอน มีการส่งบรรณาการแสดงความภักดี เช่น หนังเสือ หนังสัตว์ เครื่องหนังต่างๆให้โชซอน ส่วนชนเผ่าพาจอวีและเผ่าหนี่ว์เจินอื่นๆ จะมองว่าเผ่าซองจอยาอิน เป็นเผ่าที่ไว้ใจไม่ได้ เป็นผู้ทรยศ และเป็นสายลับของโชซอน
- ประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ และ คนชายขอบ -
เรื่อง Kingdom : Ashin of the North นำเสนอสถานะของคนในเผ่าซองจอยาอินที่เป็นคนชายขอบ ไม่ถูกยอมรับทั้งโชซอน และไม่นับว่าเป็นเผ่าหนี่ว์เจิน ตัวละครหลักอาชิน ค้นพบแล้วว่าทุกอย่างล้วนคือการเมือง และการแย่งชิงอำนาจ ที่ตัวเธอเป็นเพียงหมากตัวนึงที่ถูกหลอกใช้เพียงเท่านั้น
2
Credit : https://readysteadycut.com/2021/07/23/kingdom-ashin-of-the-north-ending-explained-netflix-k-drama-film/
ในช่วง 500 ปีที่อาณาจักรโชซอนเรืองอำนาจ หนี่ว์เจินหรือเจอร์เชน เป็นชนเผ่ากลุ่มใหญ่ที่กระจายไปยังพื้นที่ของจีน เกาหลี และญี่ปุ่น
3
ช่วงต้นราชวงศ์โชซอน ทางการมองว่า หนี่ว์เจินหรือเจอร์เชน เป็นพวกอนารยชนที่ป่าเถื่อน หยิ่งยโส และขี้เกียจ แต่ขณะเดียวกันก็มองว่าชนเผ่านี้มีประโยชน์ทางการเมืองต่อโชซอน ในการต้านทานการรุกรานของพวกมองโกล
ในช่วงแรกทางการโชซอนกำหนดขอบเขตที่ให้หนี่ว์เจินอยู่ และไม่อนุญาตให้ข้ามเขต แต่ก็มีบางครั้งที่ชาวหนี่ว์เจินลักลอบข้ามเขตเพื่อขุดโสมมาขายให้กับเผ่าอื่นๆและจีน
1
ในช่วงแรกถ้าทหารโชซอนจับได้ ก็มักจะฆ่าผู้ที่ลักลอบขโมยโสมทิ้งอย่างโหดเหี้ยมทันที แต่ภายหลังมีการเปลี่ยนกฎให้ยกเลิกการจับและฆ่า ถ้าพวกเขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนมากให้กับคนโชซอน
2
สาเหตุที่ต้องลดความรุนแรงกับชาวหนี่ว์เจิน เนื่องจากทางการโชซอนไม่อยากเป็นปฏิปักษ์กับคนในชนเผ่า การฆ่าอย่างทารุณจะทำให้พี่น้องชนเผ่าไม่พอใจ และหันไปรวมกับเผ่าที่เข้มแข็ง และจะกลายเป็นภัยต่อโชซอนเสียเอง ซึ่งในตอนนั้นมีเผ่าพาจอวีที่เข้มแข็งมากอยู่ทางตอนเหนือ รวมถึงเผ่าหนี่ว์เจินขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ที่ภายหลังจะสามารถตั้งเป็นราชวงศ์ชิงได้
2
ดังนั้นในสมัยพระเจ้าเซจง กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งโชซอน (ค.ศ. 1418-1450) อนุญาตให้หนี่ว์เจินหรือเจอร์เชนอาศัยอยู่ในขอบเขตอาณาจักรโชซอน มีขอบเขตที่ชัดเจน มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัย ไม่ต้องเสียภาษี ไม่เข้มงวดว่าต้องทำตามกฎหมายของโชซอน แต่ต้องส่งคนมาเป็นทหารของโชซอน
พระเจ้าเซจงแห่งโชซอน (Credit : https://koreainspires.com/index.php/history/80-sejong-the-great)
ส่วนชาวบ้านโชซอนทั่วไป มองว่าพวกชนเผ่าเป็นพวกมีความอดทนสูง มีสถานะต่ำกว่าและไม่ใช่พวกเดียวกันกับตน ในตอนแรกการแต่งงานระหว่างคนโชซอนกับคนจากเผ่าหนี่ว์เจิน เป็นเรื่องที่รับไม่ได้
แต่เมื่อผ่านไปหลายรุ่น ชนเผ่าหนี่ว์เจินที่อยู่ในเขตโชซอนได้รับการศึกษา มีอาชีพทหาร หรือ ทำงานในเมือง การแต่งงานระหว่างคนสองกลุ่มก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้มากขึ้น
กระทั่งต้นศตวรรษที่ 17 นูรฮาซี (Nurhaci) หรือ พระเจ้าหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (Nuerhachi) หรือ พระเจ้าชิงไท่จู่ เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ชิง (Qing) ซึ่งเป็นชาวหนี่ว์เจินและสามารถรวมเผ่าหนี่ว์เจินส่วนใหญ่มาได้จนสามารถตั้งเป็นอาณาจักรชิงได้
1
นูรฮาซี (Nurhaci) หรือ พระเจ้าหนูเอ่อร์ฮาชื่อ (Nuerhachi) หรือ พระเจ้าชิงไท่จู่ (Credit : https://en.wikipedia.org/wiki/Nurhaci)
ชาวหนี่ว์เจินบางเผ่าที่ไม่ได้อยากอยู่ภายใต้ราชวงศ์ชิง ได้หนีลงมาทางตอนใต้ของคาบสมุทรเกาหลีซึ่งอาณาจักรโชซอนก็อนุญาต นักประวัติศาสตร์เกาหลีเจอบันทึกของทางการ เกี่ยวกับคนหนี่ว์เจินประมาณ 50 คนที่อพยพมาช่วงต้นศตวรรษที่ 17 โดยพบว่าพวกเขาได้มีการเปลี่ยนชื่อและนามสกุลด้วย โดยใช้นามสกุลเช่น พัค คิม และอี ส่วนชื่อที่ใช้ เช่น ยุนฮัค หรือ อ๊กชุน ทำอาชีพเป็นคนขายผัก ขายเนื้อ ในชุมชน
2
ทว่าสถานะทางสังคมก็ยังคงต่ำกว่าคนเกาหลีโชซอน
ตามการรับรู้ของคนเกาหลีทั่วไปที่ได้เรียนประวัติศาสตร์เกาหลีผ่านแบบเรียน ชาติพันธุ์หนี่ว์เจินได้ถูกระบุว่าเป็นชนเผ่ากึ่งเร่ร่อน ที่ได้อาศัยอยู่บริเวณตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี แบ่งเป็นสองกลุ่มหลักๆ คล้ายกับที่เราได้อธิบายไปแล้วในตอนต้น
กระทั่ง ค.ศ. 1627 และ 1636 โชซอนถูกแมนจูรุกรานถึง 2 ครั้ง ภายใต้นูรฮาซี ประวัติศาสตร์เกาหลีระบุว่าเป็นการรุกรานจากแมนจูที่พยายามจะขยายอำนาจและยึดครองคาบสมุทรเกาหลี ดังนั้นกษัตริย์โชซอนแต่ละพระองค์ก็จะมีหน้าที่จัดการกับการรุกราน และทำสงคราม
1
จีนภายใต้ราชวงศ์หมิง โชซอนจะเน้นการเจริญสัมพันธไมตรีมากกว่า และราชวงศ์หมิงมีส่วนช่วยเหลือโชซอน ตอนที่โดนญี่ปุ่นรุกรานในสงครามอิมจิน ช่วง 1592-1598 ด้วย
1
แต่พอเปลี่ยนผ่านราชวงศ์เป็นแมนจู หรือ ราชวงศ์ชิง เกาหลีมองว่าเป็นศัตรู เป็นภัย เนื่องจากแมนจูมาจากชนเผ่าอนารยชนหนี่ว์เจิน ซึ่งถือว่าเป็นคนอื่น และสถานะทางสังคมต่ำกว่า
1
และที่สำคัญอาจจะรวบรวมเผ่าหนี่ว์เจินอื่นๆ เป็นภัยต่อโชซอนได้
ประวัติศาสตร์เกาหลียอมรับการมีอยู่ของชนเผ่าหนี่ว์เจินบนคาบสมุทรเกาหลี แต่ไม่ได้ถือว่าเป็นคนเกาหลีสะทีเดียว เกาหลีได้อิทธิพล ตัวอักษร วัฒนธรรม และลัทธิขงจื๊อ มาจากจีน ซึ่งมาจากราชสำนักที่เป็นจีนฮั่น
1
แต่สำหรับจีนที่เป็นแมนจู ที่มีเชื้อสายจากอนารยชนนั้นไม่ถือว่าเป็นหนึ่งเดียวกัน
จากเรื่อง Kingdom : Ashin of the North น่าสนใจในแง่การนำเสนอการรับรู้และการยอมรับชาติพันธุ์ที่หลากหลายบนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากดูเรื่องนี้แล้วทำให้เราอยากรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เกาหลี ที่เป็นประวัติศาสตร์กระแสรอง ในแง่อื่นๆมากขึ้น
2
สำหรับตอนหน้าจะเป็นเรื่องอะไร รอติดตามกันนะคะ
1
References:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา