Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
อมร ทองสุก
•
ติดตาม
26 ก.ค. 2021 เวลา 20:28 • ปรัชญา
เต๋าเต็กเก็ง บทที่ ๖๗
第六十七章
天下皆謂我道大,大而不肖。夫唯不肖,故能大。
若肖,久矣其細也夫!
我有三寶,持而保之:
一曰慈;二曰儉;三曰不敢為天下先。
慈,故能勇;儉,故能廣;不敢為天下先,故能成器長。
今舍其慈且勇;舍其儉且廣;舍其後且先,則必死矣。
夫慈,以戰則勝,以守則固。
天將救之,以慈衛之。
บทที่ ๖๗
ใต้หล้าล้วนบอกว่าเต๋าแห่งข้ายิ่งใหญ่ ใหญ่โดยไม่แม้นสิ่งใด
ด้วยเพราะไม่แม้นสิ่งใด จึงมีความยิ่งใหญ่
หากแม้นเหมือน ก็จะเป็นความเล็กไปนานแล้ว
ข้ามีไตรรัตน์ ธำรงและรักษาไว้ หนึ่งคือเมตตา สองคือมัธยัสถ์ สามคือมิกล้าอยู่เบื้องหน้าโลกหล้า
เมตตา จึงหาญกล้า
มัธยัสถ์ จึงกว้างใหญ่
มิกล้าอยู่หน้าโลกหล้า จึงเป็นจ้าวแห่งสรรพสิ่ง
หากวันนี้
ละความเมตตาแลเอาแต่ความกล้า ละความมัธยัสถ์แลเอาแต่ความกว้างใหญ่ ละการอยู่หลังแลเอาแต่นำหน้า ก็จักต้องมรณาเป็นแน่แท้
อันเมตตานั้น แม้นให้รบก็จะกำชัย แม้นให้รักษาก็จะมั่นคง
ยามฟ้าจะทรงช่วย ก็จะใช้ความเมตตาเข้าปกป้อง
ใต้หล้าล้วนบอกว่าเต๋าแห่งข้ายิ่งใหญ่
ใหญ่โดยไม่แม้นสิ่งใด
ผู้คนทั้งหลายในใต้หล้า หลังได้รับฟังเต๋าจากข้าแล้ว ต่างกล่าวว่า เต๋าที่ข้าได้กล่าวถึงนั้น ช่างมีความยิ่งใหญ่เสียยิ่งนัก อันความยิ่งใหญ่แห่งเต๋านั้น ใหญ่ จนไม่มีสิ่งใดสามารถใหญ่เท่า เล็ก จนไม่มีสิ่งใดจะเล็กยิ่งกว่า ความยิ่งใหญ่แห่งเต๋า จึงเป็นความยิ่งใหญ่จนไม่มีสิ่งใดในโลกนี้สามารถแม้นเหมือน
ด้วยเพราะไม่แม้นสิ่งใด จึงมีความยิ่งใหญ่
หากแม้นเหมือน ก็จะเป็นความเล็กไปนานแล้ว
เต๋าเป็นเอกในใต้หล้า จึงไม่มีสิ่งใดในโลกาสามารถเทียมเท่า เมื่อไม่มีสิ่งใดเทียมเท่า เต๋าจึงยิ่งใหญ่ เพราะหากมีสิ่งใดที่สามารถเทียมเท่าความยิ่งใหญ่แห่งเต๋า เต๋าก็คงมิอาจนับว่ายิ่งใหญ่ได้แล้ว
ข้ามีไตรรัตน์ ธำรงและรักษาไว้
หนึ่งคือเมตตา สองคือมัธยัสถ์
สามคือมิกล้าอยู่เบื้องหน้าโลกหล้า
ข้าพเจ้ามีแก้ววิเศษอยู่สามประการ ธำรงรักษาไว้มาเนิ่นนาน แก้วทั้งสามเลิศล้ำงามตระการ มีค่าไพสิฐสุดกล่าวขาน ช่วยเสริมสร้างความคิดอ่าน ได้พิจารณ์ธารเต๋าที่สุดประมาณ จนฤทัยไพศาลนิรันดร์กาล
ปฐมรัตน์มีนามความเมตตา ทุติยะรัตนาคือรู้ประหยัดมัธยัสถ์ ครั้นตติมณีคือความอ่อนน้อมมิอาจหาญอยู่เบื้องหน้า แลนี่คือรัตนะนฤนาทบันลือไกล เพียงประกฤตจักพิชิตทุกสิ่งพลัน
เมตตา จึงหาญกล้า
ความเมตตาคือการเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว คือการอุทิศเสียสละแม้กระทั่งชีวิตที่แสนหวง คือการคำนึงถึงผู้อื่นทุกลมหายใจเข้าออก คือการยอมเปลี่ยนแปลงตนเองเพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงชน คือการมอบความรักให้ดุจสายน้ำไหลที่ไม่มีวันขาดสาย ความเมตตาจึงเป็นการให้โดยไม่ถูกจำกัดจากกาลเวลา คือการเสียสละโดยไม่คำนึงผลตอบแทน คือการทุ่มเทโดยไม่อนาทรต่อชีวิต ดังนั้น ครั้นผู้ใดที่รู้จักอุทิศให้ด้วยความรักความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ คนผู้นี้ย่อมเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญโดยจริงแท้
ความเมตตาสามารถทำให้ผู้อ่อนแอกลายเป็นคนหาญกล้า ความเมตตาสามารถดลจิตอิสตรีให้กลายเป็นวีรสตรีที่ไม่พ่ายแก่บุรุษ ความกล้าหาญดังนี้ จึงเป็นความกล้าหาญที่ยิ่งใหญ่กว่าความกล้าหาญที่มุทะลุ มีความลึกซึ้งยิ่งกว่าความกล้าหาญของพลทหารที่ไม่กลัวคมดาบ ความกล้าหาญที่เกิดจากความเมตตาดังนี้ จึงเป็นความกล้าที่มีสติ เป็นความกล้าที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา และเป็นความกล้าที่สามารถครองใจผู้คนในใต้หล้า
มัธยัสถ์ จึงกว้างใหญ่
หัวใจแห่งความมัธยัสถ์ หาใช่จำกัดอยู่เพียงแค่การประหยัดกินประหยัดใช้ไม่ หากแต่คือการไร้กิเลสความอยากใคร่ต่อวัตถุสิ่งของ ไร้ตัณหาต่ออารมณ์ความหลงใหลนั้นต่างหาก
หัวใจแห่งความมัธยัสถ์จึงเป็นการมีชีวิตที่พอเพียง มีจริยวัตรที่เรียบง่ายรู้สมถะ มีอารมณ์อ่อนโยนที่รู้ถ่อมตน และที่สำคัญคือมีจิตใจเอื้อเฟื้อที่รู้เผื่อแผ่ ดังนั้น เมื่อผู้ปฏิบัติเต๋าเข้าถึงหัวใจแห่งความมัธยัสถ์ เขาไม่เพียงแต่จะมีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายเท่านั้น หากยังจะเป็นผู้ที่ไม่เห็นแก่ตัว และมีหัวใจที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่อีกด้วย
ความมัธยัสถ์คือการไม่ปล่อยใจให้ไหลไปตามกระแสแห่งกิเลส ความมัธยัสถ์จึงเป็นวิถีของการเก็บพลังแห่งจิตใจไม่ให้รั่วไหลออกไปที่ภายนอก หากไม่เก็บพลังแห่งจิตใจไว้ พลังนี้ก็จะรั่วออกทางตา หู จมูก ปาก กาย และความคิด หากยิ่งปล่อยให้พลังแห่งจิตใจรั่วไหลยิ่งมากเท่าใด เราก็จะถดถอยห่างออกจากเต๋ายิ่งมากเท่านั้น แต่หากเรายิ่งรู้จักเก็บพลังแห่งจิตใจมิให้รั่วไหลแล้ว แน่นอนว่ายิ่งจะทำให้จิตใจมีความกว้างใหญ่ไพศาลขึ้นอย่างสุดประมาณ
มิกล้าอยู่หน้าโลกหล้า จึงเป็นจ้าวแห่งสรรพสิ่ง
อุปนิสัยแห่งปุถุชนมักชอบนำหน้าผู้คน เพราะจะทำให้มีหน้ามีตา และบังเกิดความรู้สึกที่ภาคภูมิ อุปนิสัยแห่งปุถุชนมักชอบทำตัวเป็นผู้สอน ด้วยเพราะจะทำให้มีความรู้สึกที่เหนือกว่า และจะได้มาซึ่งคำเยินยอ อุปนิสัยแห่งปุถุชนมักชอบประกาศคุณความดีแห่งตน เพราะการมีความรู้สึกว่าตนได้เป็นที่รับรู้ และมีเกียรติฐานะที่อยู่เหนือผู้คน นี่คือจิตใจแห่งปุถุชนที่ชอบนำอยู่หน้าผู้คน หากแต่จิตใจแห่งมหาบุรุษผู้ทรงเต๋าจะหาได้เป็นเช่นนั้นไม่
มหาบุรุษที่มีเต๋าจะไม่หลงใหลไปกับเกียรติยศที่เป็นมายา จะไม่ทำตัวอวดเก่งเบ่งความสามารถ จะไม่ลุ่มหลงไปกับคำเยินยอที่เสนาะหู ดังนั้น ผู้ที่รู้ยอมให้คนอื่นได้นำหน้า ต้องนับว่าเป็นผู้ที่มีจิตเมตตาอันกว้างใหญ่ ผู้ที่รู้ยอมรับการสอนสั่งด้วยความไม่อวดรู้ ต้องนับว่าเป็นปราชญ์บัณฑิตที่น่านับถือ ผู้ที่ไม่ยอมขายจิตวิญญาณให้กับชื่อเสียง ต้องนับว่าเป็นผู้ที่มีเกียรติศักดิ์เกริกก้องฟ้า แลด้วยเพราะมหาบุรุษท่านนี้ไม่มีใจที่เป็นทาสของมายา ท่านจึงเป็นนายเหนือสรรพสิ่ง แลคู่ควรที่จะเป็นจ้าวแห่งสรรพสิ่งได้โดยแท้
หากวันนี้
ละความเมตตาแลเอาแต่ความกล้า
ละความมัธยัสถ์แลเอาแต่ความกว้างใหญ่
ละการอยู่หลังแลเอาแต่นำหน้า
ก็จักต้องมรณาเป็นแน่แท้
มีความเมตตา จึงมีจิตใจที่กล้าหาญอย่างจริงแท้ มีความมัธยัสถ์ จึงมีจิตใจที่กว้างใหญ่อย่างไพศาล รู้เสียสละอยู่หลังผู้คน จึงจะนับว่าเป็นผู้นำที่ผู้คนยกย่อง แต่หากสักแต่เอาความกล้าหาญโดยขาดความเมตตา ความกล้าหาญก็จะเป็นความเหี้ยมหาญ หากสักแต่เอาความกว้างใหญ่โดยไม่รู้จักฝึกความประหยัดที่ใจไม่ยอมอยู่ใต้กิเลส ความกว้างใหญ่ก็คือความกว้างกลวง หากสักแต่นำหน้าโดยไม่รู้อยู่หลัง สุดท้ายย่อมเดินจนหน้าคะมำ และเป็นที่ครหาชิงชัง แลผู้ใดที่ครองไตรรัตนะอย่างบิดเบี้ยวไป สุดท้ายย่อมจะม้วยมรณาในไม่ช้า
อันเมตตานั้น
แม้นให้รบก็จะกำชัย แม้นให้รักษาก็จะมั่นคง
กำลังชนะได้เพียงกาย หาได้ชนะซึ่งจิตใจไม่ ขอเพียงชนะที่จิตใจ ร่างกายย่อมจะศิโรราบโดยดุษฎี แลวิถีแห่งการชนะใจ ก็คือวิถีแห่งความเมตตา มีแต่เพียงความเมตตา จึงจะทำให้ผู้คนยอมรับทั้งกายใจ พร้อมทั้งจะน้อมนำซึ่งคำสอนไปปฏิบัติด้วยใจจริง
อันการรบ ผลัดแพ้ผลัดชนะ ผู้ชนะย่อมฮึกเหิมได้ใจ ส่วนผู้แพ้ ย่อมโอนอ่อนผ่อนตามเพียงเฉพาะหน้า ครั้นถึงวันเปิดฟ้าใหม่ ยามนั้นก็คงพยายามหาทางรุกชิตอีกครั้งเป็นแน่แท้
ดังนั้น การรบพุ่งด้วยกำลัง จึงหาใช่ชัยชนะที่ถาวรไม่ หากแต่คือการชนะด้วยความเมตตานั่นต่างหาก ที่แม้นกาลเวลาจะผ่านพ้นไปเนิ่นนานสักเท่าใด เขาก็จะยังคงมีใจที่ภักดีไม่เปลี่ยนแปร ดังนั้น ผู้ที่ชนะด้วยความเมตตา ยามรุกก็จะชนะ แม้นในยามตั้งรับ ก็ยังจะสามารถรักษาได้อย่างมั่นคง
ยามฟ้าจะทรงช่วย ก็จะใช้ความเมตตาเข้าปกป้อง
พลังแห่งความเมตตาคือพลังที่ทรงอานุภาพที่สุด ด้วยความเมตตาคือพลังที่หล่อเลี้ยงชีวิต ชุบชูจิตญาณที่หยาบกร้านให้ชุ่มชื้น ความเมตตาเปลี่ยนความแข็งกระด้างให้เป็นความอ่อนโยน เปลี่ยนความแตกแยกให้เป็นความปรองดอง เปลี่ยนความทารุณให้เป็นความกรุณา เปลี่ยนความโหดร้ายให้เป็นความรักที่อ่อนโยน
พลังแห่งความเมตตาจึงยิ่งใหญ่ไพศาล เป็นเกราะกันภัยที่แข็งแกร่งเหนือเกราะศาตราใดๆ ในโลกหล้า ผู้มีความเมตตา แม้นผีสางก็ยังคุ้มกันให้พ้นภัย ดังนั้น ยามเข้าสู่ดินแดนอันตราย ความเมตตาจะเป็นเครื่องกันภัยที่จะช่วยให้พ้นจากภัยพาลทั้งปวง
และยามที่ฟ้าจะทรงปกป้องใครสักคน ฟ้าก็จะใช้ความเมตตาเข้าปกป้อง ยามฟ้าจะทรงช่วยใครสักคน ฟ้าก็จะทรงใช้ความเมตตาเข้าหนุนนำ
2 บันทึก
1
3
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
คัมภีร์เต๋าเต็กเก็ง
2
1
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย