29 ก.ค. 2021 เวลา 15:25 • หนังสือ
บันทึกเรื่องราว : ตอนที่ 3 แอนะล็อกและดิจิทัล
ขอบคุณผู้อ่านทุกๆท่านที่ติดตามอ่านจนตอนนี้ตอนที่ 3 แล้วครับ ขอบคุณทุกๆกำลังใจเล็กๆน้อยๆ ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็แชร์ส่งต่อสิ่งดีๆให้ทุกคนได้อ่านกันนะครับ
หลังจากตอนที่ 2 ผมได้เล่าถึงเครื่องมือของการบันทึกที่คุณอีไลจาห์ได้บอกพวกเราไว้ว่ามีอะไรบ้าง
เมื่อเล่ามาถึงตรงนี้ผู้อ่านน่าจะทราบกันดีแล้วว่า เครื่องมือแบบไหนที่จะเหมาะสมกับการบันทึกอะไรดีๆ หรืออะไรที่น่าจดจำไว้บ้างสำหรับคุณ
สำหรับผม การจดด้วยลายมือ การบันทึกเสียง การถ่ายภาพ การถ่ายวีดิโอ และการวาดครับ
การจัดประเภทของเครื่องมือการบันทึก
คุณอีไลจาห์ได้จัดกลุ่มเป็น 2 ประเภท คือแบบแอนะล็อก(Analogous)และดิจิทัล(Digital)
เครื่องมือทั้งสองประเภทก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแต่กต่างกันไป ตามยุคสมัย และความสะดวกต่อการใช้งาน มาดูกันว่าเป็นยังไง
1.เครื่องมือแบบแอนะล็อก
เป็นเครื่องมือที่สามารถหยิบจับและใช้งานได้ง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกด้วยคำพูด หรือการบันทึกด้วยลายมือ เราสามารถรวบรวมสมาธิและไอเดียดีๆที่จะเกิดขึ้นง่ายๆด้วยเครื่องมือประเภทนี้
แต่ว่าการจะจัดเก็บสิ่งเหล่านี้ก็ต้องอาศัยการจัดเก็บที่เป็นระเบียบ เพราะบางครั้งการพูดของเราก็ไม่ทันได้คิดหรือกรองก่อนจะพูด บางครั้งการพูดของเราก็ไม่ทันได้บันทึกไว้หากมีจังหวะการพูดที่น่าสนใจหรือน่าจดจำ
อีกเครื่องมือหนึ่งก็คือการเขียน แม้จะง่ายแต่ก็ต้องสร้างระเบียบให้กับการเขียนเช่นกัน หากการจัดการงานเขียนไม่มีระเบียบก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากต่อการค้นหา หรือการกลับมาอ่านอย่างมากเลยทีเดียว
2.เครื่องมือแบบดิจิทัล
เป็นเครื่องมือที่ต้องพึ่งพาสิ่งที่เรียกว่าเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการพิมพ์ การบันทึกเสียง โครงร่างเอกสาร ในเครื่องมือนี้ผมขอรวมถึงการถ่ายภาพและวีดิโอเข้าไปด้วยนะครับเพราะผมคิดว่ามันก็เป็นเครื่องมือการบันทึกอีกรูปแบบหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน
การบันทึกด้วยเครื่องมือประเภทนี้จะช่วยให้เรามีสิ่งที่เรียกว่าต้นฉบับไม่ว่าจะเป็นงานใดๆก็ตาม เราสามารถทำการลบ คัดลอก แก้ไขอีกทั้งยังสามารถส่งต่อให้ผู้คนได้รับรู้อีกด้วย
คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วควรจะใช้เครื่องมือแบบไหนดี ?
อันที่จริงก็ไม่มีคำตอบตายตัวว่าผมหรือคุณควรใข้เครื่องมือแบบไหน ประเภทไหนหรอกครับ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับความสะดวก และความเหมาะสมของแต่ละคนมากกว่า
บางคนถนัดใช้แอนะล็อก บางคนถนัดใช้ดิจิทัล หรือบางคนถนัดใช้ทั้งสองอย่าง
ผมมั่นใจได้เลยว่าในยุคนี้คนส่วนมาก ใช้ควบคู่กันไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งในการทำงาน การจัดตารางงาน การคำนวน การจดบันทึกไอเดียดีๆ ฯลฯ
บางช่วงเวลาเราก็อาจต้องบันทึกเสียงพูด หากจดหรือพิมพ์ไม่สะดวก
บางช่วงเวลาเราก็ต้องพึ่งแอพปฏิทินในการจัดตารางงาน บางครั้งเจอเรื่งราวดีๆ ก็บันทึกภาพหรือวีดิโอ
ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือประเภทไหน แบบไหน หากคุณใช่แต่ละเครื่องมือเป็น สะดวกที่จะใช้งานอย่างไร เข้าใจในการทำงานของแต่ละเครื่องมือเป็นอย่างดี
ผมคิดว่าการประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ดูจะเป็นอะไรที่มีประสิทธิภาพในการบันทึกมากที่สุดแล้วครับ
ในซีรี่ย์นี้ผมก็จะพูดถึง “การจดบันทึก” ที่เป็นเครื่องมือที่ง่ายและสะดวกมากที่สุดครับ
ไม่ว่าจะเป็นการจดบันทึกในกระดาษสุดทั่วไป หรือการจดบันทึกลายมือ ด้วยไอแพ็ดและปากกาเฉพาะ
ผมใช้วิธีนี้กับการบันทึกไอเดียดีๆ (ในขณะที่ไม่ได้อยู่ใกล้โทรศัพท์ ผมก็จะหาปากกาและเศษกระดาษมาบันทึก)
ซึ่งในตอนต่อๆไป ผมจะเล่าถึงการจัดเก็บเรื่องดีๆด้วยการจดบันทึกครับ ว่ามันดีอย่างไร
ในตอนที่ 3 นี้ ก็คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ ขอบคุณที่ตามอ่านจนถึงตรงนี้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา