ปีศาจศึกษา ...ซาตาน ลูซิเฟอร์ ไซฎอน ญิณ และวิญญาณ
ตอน ......การสิงสู่ และการขับไล่ปีศาจ
เป็นที่รู้กันดีว่าอาการ ‘ทรงเจ้าเข้าผี’ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของความผิดปกติทางจิตวิทยา ที่เกิดจากการรับรู้ที่ผิดพลาดของสมอง หรือการอุปาทานหมู่ อาการที่ปรากฏได้ชัดคือมีการเปลี่ยนแปลงทางบุคลิกภาพอย่างรุนแรง จากเด็กไปเป็นคนแก่ จากผู้หญิงไปเป็นผู้ชาย จากคนไปเป็นสัตว์ เป็นต้น
อาการผีสิง มักเกิดจากการที่บุคคลผู้ถูก ‘สิง’ ได้รับสภาวะกดดันบางอย่าง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ถูกกระตุ้นให้เกิดความเครียด ตื่นเต้น ปลุกเร้าใจ จนเกิดอาการที่เรียกว่า ‘สำแดง’ พลังอำนาจของสิ่งลึกลับออกมา ด้วยการพูดภาษาแปลกๆ เป็นลม หรือเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนถูกชักใยโดยผู้อื่น
ในคริสตศาสนาเชื่อว่า ซาตานสามารถครองร่างมนุษย์คนหนึ่งได้ เมื่อจิตใจของคนๆนั้นอ่อนแอลง หมกมุ่นกับความคิดทางลบหนึ่งมากๆ ความคิดนั้นค่อยๆทรงอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งครอบครองร่างกายและจิตใจของคนผู้ั้นได้เสร็จสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า ‘ครองวิญญาณ’ และมันจะชี้นำหรือชักใยให้บุคคลนั้น เกิดความคิดประหลาดๆ จนมีความเชื่อว่า ผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และมีความคิดอยากฆ่าตัวตายบ่อยๆนั้น ก็เกิดจากการสิงสู่และชักนำของปีศาจเช่นกัน
นอกจากนี้ปีศาจยังชักจูงให้มนุษย์ติดยาเสพย์ติด ติดเซ็กส์ หมกมุ่นกับสื่อลามก เกิดความรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า เกียจคร้านและขาดความรับผิดชอบในชีวิตอย่างรุนแรงจนต้องตกงาน หรือถูกไล่ออก จากคนที่เคยมีความสามารถกลับกลายเป็นคนที่ละทิ้งทุกอย่างในชีวิต ไปเพื่อสิ่งที่ดูไร้สาระในสายตาคนอื่น หรือในประเทศไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า “โดนของ” หรือ “โดนคุณไสย”
อาการก่อนถูกปีศาจครอบงำ มักเริ่มต้นจากความคิดเล็กๆก่อนแล้วเริ่มบานปลายไปสู่ความคิดใหญ่
เริ่มแรก...บุคคลผู้นั้นจะรู้สึกเสื่อมศรัทธาในศาสนา
จากนั้น...เริ่มมีความคิดต่อว่าและลบหลู่ศาสนาด้วยถ้อยคำที่รุนแรงในหัว
ต่อมา...เริ่มปฏิเสธศาสนา เมื่อใดที่มนุษย์รู้สึกว่าไม่ต้องการศาสนาอีกต่อไป ขาดความเคารพและศรัทธา ในทางคริสต์เชื่อว่า...เป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณที่ว่า มนุษย์ผู้นั้นเริ่มยอมจำนนต่อซาตาน
มนุษย์เริ่มแสดงอาการเหยียดหยามและดูหมิ่นศาสนาออกมาทางร่างกายและพฤติกรรมกายนอก เริ่มด่าท่อโดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย เริ่มถ่มน้ำลาย และทำลายข้าวของที่เกี่ยวข้องกับศรัทธา การตัดเศียรพระพุทธรูป การจุดไฟเผาไม้กางเขน การทำลายเครื่องหมายสำคัญของศาสนา
สิ่งเลวร้ายที่สุด ที่อาจจะเกิดขึ้นคือ มนุษย์ผู้ที่เชื่อว่าถูกปีศาจครอบงำจะเริ่มมีความคิดที่จะ... 1. ทำร้ายตนเอง หรือ... 2. ทำร้ายผู้อื่น พวกเขาเกิดความรู้สึกปรารถนาที่จะทำให้ร่างกายของผู้อื่นเจ็บปวด กระหายอยากเห็นเลือด ในรายที่ไม่มีความกล้าพอที่จะทำร้ายผู้อื่น ก็จะเริ่มทำร้ายตัวเองแทน
สำหรับอิสลาม ผี หรือ ญิณ คือ ผู้ที่เคยเป็นมนุษย์มาก่อน ดำรงอยู่ในมิติเดียวกับเราแต่มองไม่เห็นพวกเขาจะครองร่างมนุษย์ก็ต่อเมื่อรู้สึกห่วงหาอาทร ตกหลุมรัก หรือต้องการแก้แค้นผู้ที่มีชีวิตอยู่ที่เคยทำร้ายเขาหรือญาติของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องวิญญาณที่ชั่วร้ายเสมอไป ชาวอิสลามจึงเชื่อว่าการครองร่างมนุษย์โดยส่วนใหญ่แล้วมาจากพวกปีศาจ หรือไชฎอน โดยการกระซิบข้างๆหู หรือกระซิบออกมาจากภายในหัวใจ ยั่วยุให้คิดหรือทำในสิ่งชั่วร้ายก็ถือเป็นการครองร่างอย่างหนึ่ง
ในทางพุทธ การครอบงำของปีศาจหรือมาร จะมาอยู่ในรูปแบบของการยั่วยุให้หลงผิด ล่อลวงให้เกิดอารมณ์ต่อ...บางสิ่งบางอย่าง รัก โลภ โกรธ เกลียด และเข้าใจผิดว่ามายาภาพบางประการนั้นคือความจริง (หลง)
การขับไล่ผีปีศาจในอิสลามและคริสต์ คือการรำลึกถึงพระคุณของพระผู้เป็นเจ้า กลับมาศรัทธาแรงกล้าในสิ่งดีงามอีกครั้ง การอ่านพระคัมภีร์และเอ่ยนามของสิ่งดีงามสูงสุุดเพื่อขับไล่หรือปลดปล่อยตนให้เป็นอิสระจากมาร
ในทางพุทธ การมีสติ และเกิดปัญญาญาณ ตื่นรู้ มองเห็นกลอุบายของมาร แยกแยะได้ว่าใดๆคือความจริง ใดๆคือมายาภาพ ก็จะสามารถเอาชนะกิเลสในตัวเองอันเกิดจากการดลใจของมารได้ในที่สุด
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
