3 ส.ค. 2021 เวลา 14:21
“กาม กิน เกียรติ … “
“… ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ไม่มีความสุขใดเสมอด้วยความสงบ
ความสุขชนิดนี้สามารถหาได้ในตัวเรานี้เอง
ตราบใดที่มนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาความสุขจากที่อื่น
เขาจะไม่พบความสุขที่แท้จริงเลย
มนุษย์ได้สรรค์สร้างสิ่งต่าง ๆ ขึ้นไว้
เพื่อให้ตัวเองวิ่งตาม แต่ก็ตามไม่เคยทัน
การแสวงหาความสุขโดยปล่อยใจ
ให้ไหลเลื่อนไปตามอารมณ์ที่ปรารถนานั้น
เป็นการลงทุนที่มีผลไม่คุ้มเหนื่อย
เหมือนบุคคลลงทุนวิดน้ำในบึงใหญ่
เพื่อต้องการปลาเล็กๆ เพียงตัวเดียว
มนุษย์ส่วนใหญ่มัววุ่นวายอยู่กับเรื่องกาม
เรื่องกิน และเรื่องเกียรติ
จนลืมนึกถึงสิ่งหนึ่ง
ซึ่งสามารถให้ความสุขแก่ตนได้ทุกเวลา
สิ่งนั้นคือ ดวงจิตที่ผ่องแผ้ว
เรื่องกามเป็นเรื่องที่ต้องดิ้นรน
เรื่องกินเป็นเรื่องที่ต้องแสวงหา
และเรื่องเกียรติเป็นเรื่องที่ต้องแบกไว้
เมื่อมีเกียรติมากขึ้น
ภาระที่ต้องแบกเกียรติเป็นเรื่องใหญ่ยิ่ง
ของมนุษย์ผู้หลงตนว่าเจริญแล้ว
ในหมู่ชนที่เพ่งมองแต่ความเจริญทางด้านวัตถุนั้น
จิตใจของเขาเร่าร้อนอยู่ตลอดเวลา
ไม่เคยประสพความสงบเย็นเลย
เขายินดีที่จะมอบตัวให้จม
อยู่ในคาวของโลกอย่างหลับหูหลับตา
เขาพากันบ่นว่าหนักและเหน็ดเหนื่อย
พร้อม ๆ กันนั้น เขาได้แบกก้อนหิน
วิ่งไปบนถนนแห่งชีวิต อย่างไม่รู้จักวาง …”
.
บางตอนจากพุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน
เรียบเรียงจากพระไตรปิฎก
โดย อาจารย์วศิน อินทสระ
 
อ้างอิง :

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา