Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Bumrungrad International
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
7 ส.ค. 2021 เวลา 02:37 • สุขภาพ
การผ่าตัด percutaneous TLIF หรือการผ่าตัดเชื่อมกระดูกผ่านผิวหนัง
2
คือการผ่าตัดที่แพทย์จะยึดตรึงกระดูกสันหลังเข้าด้วยกันผ่านทางแผลผ่าตัดขนาดเล็กบนผิวหนัง (key-hole surgery)
2
การผ่าตัดกระดูกสันหลังในอดีต แพทย์จำเป็นต้องเปิดแผลยาวที่กลางหลัง และต้องทำการเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกเป็นบริเวณกว้างเพื่อให้ทำการผ่าตัดได้สะดวก ซึ่งการเลาะกล้ามเนื้อนี้เองเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยมีความเจ็บจากการผ่าตัดมากและทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดได้ช้า
ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดปัจจุบันแพทย์จะเปิดแผลเล็กๆ เพียง 4-5แผล เพื่อทำการสอดอุปกรณ์เข้าไปยึดตรึงกระดูกสันหลัง และทำการผ่าตัดแทรกผ่านเส้นใยของกล้ามเนื้อ โดยไม่ต้องเลาะกล้ามเนื้อออกจากกระดูกอีกต่อไป
นอกจากการเชื่อมกระดูกผ่านผิวหนังแล้ว สถาบันกระดูกสันหลังบำรุงราษฎร์ยังใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นำวิถี (O-arm) เข้ามาช่วยระหว่างผ่าตัดอีกด้วย โดยหลักการทำงานของเครื่องมือตัวนี้มีส่วนคล้ายอุปกรณ์ GPSในรถยนต์ ศัลยแพทย์จะเห็นภาพ 3มิติตลอดเวลาที่ทำการผ่าตัด ซึ่งทำให้ความแม่นยำในการใส่เครื่องมือเพิ่มมากถึง 99% ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดแบบใหม่นี้ทำให้ลดความเจ็บปวดจากการผ่าตัดลงอย่างมากและผู้ป่วยสามารถกลับคืนสู่ชีวิตประจำวันปรกติได้เร็วขึ้นมาก
การผ่าตัดชนิดนี้แพทย์จะแนะนำให้ทำเมื่อกระดูกสันหลังมีความเสื่อมระดับรุนแรง หรือมีการเสียความมั่นคงของกระดูกสันหลังเกิดขึ้นแล้ว
หลังจากที่ผู้ป่วยหลับและได้รับการจัดท่าบนเตียงผ่าตัดแล้ว เครื่อง O-arm จะถูกใช้เพื่อสร้างภาพสามมิติของกระดูกสันหลัง จากนั้นแพทย์จะทำการยึดตรึงกระดูกผ่านทางช่องเปิดเล็กๆทางผิวหนัง และจะทำการคลายการกดทับของเส้นประสาทผ่านอุปกรณ์คล้ายท่อโดยการมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็จะสอดอุปกรณ์ซึ่งมีส่วนกระดูกของผู้ป่วยเองอยู่ด้านในเข้าไปเพื่อให้กระดูกเชื่อมติดกันในภายหลัง การผ่าตัดทั้งหมดใช้เวลาราวๆ 3-4 ชั่วโมง
ข้อดีของการผ่าตัด TLIF
ระยะเวลานอนรพ.สั้นกว่าเดิมมาก
ลดการเจ็บปวดหลังผ่าตัดลงอย่างมาก
ไม่จำเป็นต้องได้รับเลือดหลังผ่าตัด
ความแม่นยำในการใส่เครื่องมือสูงถึง 99%
เดินภายใน 24ชม.หลังผ่าตัด
อ่านเพิ่ม
https://www.bumrungrad.com/th/treatments/percutaneous-transfor-lumbar-interbody-fusion
ผู้ป่วยที่ควรใช้วิธีการรักษาแบบนี้คือผู้ป่วยที่มีอาการกระดูกสันหลังเคลื่อน เช่น มีอาการปวดหลังเมื่อมีการเคลื่อนไหว หรือปวดแบบตุบๆ แต่ไม่เหมาะกับผู้มีอาการกระดูกสันหลังเคลื่อนรุนแรงจนเกินไป ผู้ป่วยที่มีอาการกระดูกพรุนรุนแรงจะมีความเสี่ยงต่อการตรึงสกรูในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม จึงไม่ควรใช้วิธีการรักษาด้วยการยึดตรึงกระดูกสันหลัง
ก่อนการผ่าตัด ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจเช็คร่างกายด้วยการเอกซเรย์ การเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI scan) และการตรวจเช็คร่างกายทั่วไป ผู้ป่วยจะต้องบอกถึงประวัติการรักษา อาการแพ้ยา หรือการรักษาอื่นๆ ที่ได้รับอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ยากลุ่มที่มีฤทธิ์ต้านการจับตัวของเกล็ดเลือดหรือยาต้านการจับตัวของลิ่มเลือด (antiplatelets and anticoagulants) เช่น แอสไพรินและวาร์ฟาริน ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาดังกล่าวเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด หลังจากการผ่าตัดแล้ว ผู้ป่วยจะสามารถเดินได้ในวันรุ่งขึ้นและจะพักรักษาตัวไม่เกิน 1 สัปดาห์
1 บันทึก
6
6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โรคกระดูกสันหลัง
1
6
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย