14 ส.ค. 2021 เวลา 10:08 • นิยาย เรื่องสั้น
วันชื่นคืนสุขแห่งวาเลนไทน์ (จีน)
( ชี ซี เจี๋ย ) ( 七夕節 ) 2/2
เรื่องราวเทศกาลความรักของชาวจีน หรือ ชีซีเจี๋ย ( 七夕節 )
แท้จริงก็มีตำนาน เรื่องเล่า ที่กล่าวขาน บอกต่อๆ กันมามากมาย
หากแต่จะมีบ้าง ก็บางเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย ที่อาจจะต่างกันไม่มาก
ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องราวของ ชายโคบาล กับ หญิงทอผ้า ทั้งสิ้น
ดังความในอีกหนึ่งตำนานเรื่องราว ที่กล่าวถึงที่มาของเทศกาลนี้ ว่า
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อนานมาแล้ว
ยังมีเทพธิดาทอผ้าผู้เลอโฉมอยู่นางหนึ่ง
เป็นธิดาองค์สุดท้องในบรรดาพี่น้องหญิงล้วนทั้งหมด 7 องค์
ของเจ้าสวรรค์ อวี้ หวง ต้า ตี้ ( 玉皇大帝 )
โดยกิจวัตรประจำวันของนาง ก็คือ การทอผ้า
เพื่อถวายเป็นพระอาภรณ์ประดับให้แก่เหล่าทวยเทพบนสรวงสวรรค์
บางตำนานก็มีกล่าวอ้างว่า
เดิมทีนั้น เทพธิดาทั้งเจ็ด ล้วนเคยเป็นมนุษย์มาก่อนทั้งสิ้น
เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์อยู่โลกโลกีย์
แต่ละนางล้วนมีวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ที่ลำบากยากเข็ญ
บ้างกำพร้าบุพการี บ้างอดอยากยากจน ฯลฯ
กล่าวได้ว่า ต่างประสบเคราะห์ร้าย มีชะตากรรมเป็นของตัวเอง ทั้งนั้น
หากแต่สิ่งหนึ่งที่หญิงทั้งเจ็ดนี้ มีเหมือนกัน ก็คือ ความวิริยะบำเพ็ญเพียร
 
กระทั่งเมื่อทุกคนต่างสิ้นเคราะห์หมดกรรม
ตามเนื้อนาบุญที่ทำ เวรกรรมที่ก่อ
ท้ายสุด สุดท้าย ของเบื้องปลายลมหายใจ
ต่างก็ได้รับความเมตตาจากเจ้าสวรรค์ อวี้ หวง ต้า ตี้
( หรือที่คนไทยรู้จักกันดี ในนาม องค์เง็กเซียนฮ่องเต้ )
ประทานโอกาสให้เป็นนางฟ้าชาวสวรรค์
อีกทั้งทรงพระกรุณา รับเป็นพระธิดาของพระองค์ทั้งเจ็ดคน
ซึ่งนางฟ้าหรือธิดาองค์สุดท้าย
ผู้ซึ่งเป็นประเด็นต้นเหตุแห่งตำนานที่ว่านี้ มีชื่อว่า จื่อหนวี่ ( 織女 )
จื่อหนวี่ รับพระภาระหน้าที่ ดั่งที่เขียนไว้ในข้างต้น
กล่าวคือ ทอผ้าเพื่อถวายเป็นอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์ให้แก่เหล่าทวยเทพ
แต่แล้ว ต่อมา นางก็ได้พบกับโคบาลหนุ่ม
ผู้ซึ่งรับผิดชอบเลี้ยงดูฝูงวัวของเจ้าสวรรค์ฯ โดยบังเอิญ
และทั้งสองก็บังเกิดจิตพิสมัยตรงกัน
ผูกพันแน่นแฟ้น เป็นความจริงใจที่มีให้ต่อกัน
บางตำนาน ก็มีกล่าวแตกต่างกันบ้าง ว่า
วันหนึ่ง
นางฟ้าทั้งเจ็ด ได้นึกสนุก ชวนกันลงมาสรงน้ำผ่อนคลาย
ที่ลำธารหนึ่งในดินแดนโลกมนุษย์
ณ ขณะเวลาที่ประจวบเหมาะ
พลันมีชายหนุ่มเลี้ยงวัว ชื่อ หนิว หลาง ( 牛郎 ) ผ่านมาพบเข้า
เกิดหลงรักในเทพธิดาองค์เล็ก จื่อหนวี่
จึงออกอุบาย ลักขโมยอาภรณ์ของเหล่านางฟ้านางสวรรค์ไปซ่อน
ครั้นเมื่อนางอัปสรทั้งเจ็ด ขึ้นจากธารน้ำ ไม่พบอาภรณ์ตน
เห็นแต่ชายหนุ่มโคบาล อยู่ ณ บริเวณธาร
หลังจากที่ได้หารือกันครู่ใหญ่
ต่อมาจึงเห็นพ้องต้องกันที่จะให้น้องสาวคนเล็ก จื่อหนวี่
เป็นผู้ไปเจรจาขอคืนอาภรณ์
แต่ หนิว หลาง กลับยื่นเงื่อนไขต่อรอง ว่า
ตนยินดีจะคืนอาภรณ์ให้
แต่ จื่อหนวี่ ต้องยอมแต่งงานอยู่กินกับตนบนโลกมนุษย์
ด้วยใจที่ฝ่ายหญิงเอง ก็รู้สึกต้องมนต์สะกด
หลงรักใน หนิว หลาง อยู่แล้ว จึงยอมตกลงปลงใจตามข้อเรียกร้อง
อยู่กินฉันท์สามี-ภรรยา กับ หนิว หลาง เยี่ยงมนุษย์ปุถุชนทั่วไป
ในขณะที่พี่ๆ ทั้งหก ก็กลับขึ้นไปบนสวรรค์
โดยมิกล้าบอกเล่าความจริงให้เจ้าสวรรค์ฯ ฟัง
กระทั่งเมื่อความแดง
ความรัก ความผูกพันของทั้งสอง
ล่วงรู้ถึงเจ้าสวรรค์ อวี้ หวง ต้า ตี้ ในเวลาต่อมา
ทั้ง หนิว หลาง และ จื่อ หนวี่
จึงถูกเรียกตัวเข้าพบ เพื่อไต่ถามข้อเท็จจริง
แลเมื่อความเป็นที่ประจักษ์ชัด ว่าทั้งคู่รักกันจริง
เจ้าสวรรค์ อวี้ หวง ต้า ตี้ ก็มิใดเอื้อนเอ่ยพระวาจาใด
กลับจัดแจงพิธีมงคลสมรสให้ อย่างเอิกเกริก สมพระเกียรติ
โดยขอเพียงแค่ว่า เมื่อได้สมรสครองคู่กันแล้ว
ก็อย่าลืมหน้าที่การงานเดิมของตน เป็นพอ
แต่หลังจากเสร็จสิ้นงานมงคลสมรสดังกล่าว
เจ้าสวรรค์ฯ กลับฉุกพระทัย คิดขึ้นได้ว่า
" ถ้าขืนให้สองสามีภรรยาอยู่ด้วยกันเช่นนี้ทุกวัน
อาจจะพรอดรักกันจนเพลิน ไม่เป็นอันทำการทำงานแน่ "
จึงมีพระบัญชารับสั่ง ให้นกสี่เชวี่ย ( 喜鵲 )
ร่อนนภานำพระโองการ ไปบอกแก่คู่รักทั้งสอง
ว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป
เจ้าสวรรค์ฯ ทรงรับสั่งให้ ทั้งคู่พบกันได้
เพียงสัปดาห์ละหนึ่งครั้งเท่านั้น
ขอบคุณเครดิตภาพจากเว็ป hunliji.com
นกสี่เชวี่ย เมื่อได้รับบัญชาจากเจ้าสวรรค์ฯ แล้ว
จึงรีบนำความพระโองการ บินมาบอกกับสองสามีภรรยา ในทันที
หากแต่จะเป็นเพราะฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอาไปกระเดียด
หรือเป็นเพราะ นรกชังสวรรค์แกล้ง ก็มิอาจรู้ได้
นกสี่เชวี่ย กลับบอกความแก่ทั้งสอง ว่า
" เจ้าสวรรค์ อวี้ หวง ต้า ตี้
ทรงพระเมตตา ประทานพระราชานุญาต
ให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันได้ ตราบทุกทิวาราตรีกาล "
ซึ่งก็เป็นที่ปีติยินดีของคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามัน เป็นยิ่งนัก
ทั้งคู่จึงคลอเคลียเคียงข้างกัน ทั้งวัน .. ทั้งคืน
ฝ่ายหญิงนั้น ลืมทอผ้า
ฝ่ายชายเล่า ก็ลืมเลี้ยงวัว
ครั้นเมื่อเจ้าสวรรค์ฯ ทรงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นในกาลต่อมา
จึงกริ้วโกรธพิโรธโกรธา
ทรงประกาศิตรับสั่ง ให้เทพธิดาทอผ้า
กลับไปทอผ้าดังเช่นที่เคยปฏิบัติ
ส่วนโคบาลหนุ่ม ก็ให้เลี้ยงวัวตามเดิม
ทั้งคู่ ห้ามพบเจอกันอีก
แต่จะทรงเมตตา ให้โอกาสพบกันได้
เพียงแค่ ปีละหนึ่งครั้ง เท่านั้น
คือ ในวันที่ 7 เดือน 7 ( ตามจันทรคติจีน )
โดยให้ นกสี่เชวี่ย
( ซึ่งก็รู้ตัวดี ว่าเป็นผู้ทำให้สองสามีภรรยา ต้องพลัดพราก แยกจากกัน )
ทำหน้าที่เป็นสื่อรักให้แก่ชายหญิงทั้งสอง
โดยจะบินต่อๆ กัน เชื่อมประสานเป็นสะพานให้แก่ทั้งคู่
ได้เดินข้ามมาพบกันในวันดังกล่าว
ทั้งหนุ่มโคบาล ผู้มีนามว่า หนิวหลาง ( 牛郎 )
ซึ่งแปลว่า ชายเลี้ยงวัว
และเทพธิดาทอผ้า ( 織女 )
แม้จะทูลคัดค้าน ขอความเห็นใจอย่างใด ก็มิเกิดผล
ได้แต่จำใจยอมรับในพระราชโองการรับสั่ง
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม
แม้จะเป็นเพียงแค่หนึ่งวันในรอบปีที่จะได้เจอ
หากแต่ทั้งคู่ ก็ปีติยินดีกับการรอคอยเสมอ
สำคัญเหนืออื่นใด ความรักที่ทั้งคู่มีให้ต่อกัน
ยิ่งทวีคูณของมั่นคงมากขึ้น และยั่งยืน
จนมิอาจหาคำเปรียบเปรยใดๆ พรรณาได้เทียมทัน
อย่างไรก็ตาม ก็เคยมีคนตั้งกระทู้ถามกันอยู่บ้างว่า
" ความรักความผูกพัน ของ หนิวหลาง-จื่อหนวี่ ที่พบกันเพียงปีละหน
ยั่งยืนมั่นคง เหลือล้นกว่า สามีภรรยาบนโลกมนุษย์ที่อยู่เคียงข้างทุกคืนวันไหม
( 牛郎織女一年一度的相會,真的勝過千百萬人間夫妻的終日廝守嗎? )
(( แต่จะว่าไป ตำนานนี้
ดู นกสี่เชวี่ย แอบร้ายนิดๆ
เยี่ยงตัวโกงในซีรีย์จีน เลยทีเดียว !!
หรือเขาเป็นคีย์แมนคนสำคัญ
ที่ทำให้เกิดเป็นตำนานรัก หนิวหลาง-จื่อหนวี่ กันแน่นะ ? ))

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา