“หมอประเวศ” แนะนายกฯ พลิกกลไกรัฐ พลิกสถานการณ์โควิด
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ส่งสัญญาณถึง “บิ๊กตู่” พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ผ่านบทความเรื่อง “พลิกกลไกรัฐ พลิกสถานการณ์โควิด” แนะต้องเป็นผู้นำทิศทางและนโยบาย สร้างเป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วม ไม่ใช่รวบงานทุกอย่างจนเสียศูนย์
ในห้วงวิกฤตควบคุมโควิด – 19 ไม่อยู่ รัฐบาลนำโดย พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตั้งหลักใหม่และลงมือปฏิบัติ พลิกกลไกรัฐ พลิกสถานการณ์โควิด
ด้วยการกระจายอำนาจ แก้มัดตราสังประเทศไทย
จากความเป็นรัฐราชการที่ผูกติดกับกฎระเบียบจำนวนมหาศาล อืดอาดยืดยาด ไร้สมรรถนะ เผชิญกับสิ่งที่ยากและซับซ้อนไม่ได้
“นายกฯ กระจายอำนาจไปอย่างทั่วถึง โดยส่วนกลางทำหน้าที่นำทิศทาง และนโยบาย รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ”
กลไกรัฐปรับตัวอย่างฉับพลัน กระฉับกระเฉง ว่องไว รวดเร็ว ทันการณ์ และมีสัมฤทธิภาพสูง
ส่วนรัฐสภาต้องมีความเป็นหนึ่งเดียว แก้กฎระเบียบ กฎหมายเก่าที่เป็นอุปสรรค และสร้างกฎหมายใหม่ให้ได้ภายใน 1 วัน
โดยนายกฯ เป็นผู้นำทิศทางและนโยบาย เน้นสื่อสารอย่างมีเป้าหมายและสร้างวิสัยทัศน์ร่วมไปยังคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำงานทุกอย่างจนเสียศูนย์
ขณะเดียวกัน นายก ฯ ต้องมี 2 เครื่องมือใหม่ คือ ทีมขงเบ้ง และทีมสัมฤทธิศาสตร์ โดยทีมที่ปรึกษานายกฯ มีปัญญาเฉียบแหลมเหมือน “ขงเบ้ง” เป็นอิสระจากผลประโยชน์ทับซ้อน และสิ่งสำคัญนายกฯ กับทีมที่ปรึกษาต้องเป็นกัลยาณมิตรกัน เหมือน “เล่าปี่ – ขงเบ้ง”
ทุกกระทรวงฯ ก็ต้องมี "ทีมสัมฤทธิศาสตร์" ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ มาร่วมขับเคลื่อนนโยบายแบบครบวงจรให้เกิดความสำเร็จ เพราะการบริหารนโยบายจากครม. ตามช่องทางปรกติระบบราชการนั้น
“ไม่นำไปสู่ความสำเร็จ”
หมอประเวศ ชี้ 3 เป้าหมายและวิสัยทัศน์ร่วมหรือความมุ่งมั่นร่วมกันในการเผชิญหน้าโควิด ได้แก่
(1) รักษาผู้ป่วยทุกคนทั่วประเทศ
ผู้ป่วยอาการไม่หนัก รักษาตัวที่บ้าน “ยาฟาวิพิราเวียร์และยาอื่น ๆ ต้องถึงบ้านผู้ป่วยอย่างเพียงพอและรวดเร็ว”
ผู้ป่วยอาการปานกลาง ขยายฐานรักษาตัวที่วัด โรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชน กองทัพ บริษัท โดยอาสาสมัครเคยเป็น “ผู้ป่วยโควิด” มาร่วมทำงาน พร้อมได้รับเบี้ยเลี้ยง และการดูแลที่ดี
ผู้ป่วยอาการหนัก รักษาตัวในโรงพยาบาลมีแพทย์ พยาบาลดูแล
(2) วัคซีนโควิดถึงประชาชนมากที่สุด เร็วที่สุด
การกระจายวัคซีนไปยังองค์กรที่สามารถรับผิดชอบได้ อาทิ อบต. มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลรัฐและเอกชน สภากาชาด มูลนิธิที่เข้มแข็ง ภาคธุรกิจที่แข็งแรง
(3) ต้องสร้างอาชีพให้เต็มพื้นที่
กระจายครบทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด ทำให้ประชาชนมีกินมีใช้ มีเงินในมือ สร้างกำลังกาย กำลังใจ กำลังทางสังคม เพื่อเป็นภูมิกันทางสังคมและเศรษฐกิจต่อไป
โดยรัฐส่วนกลางต้องไม่!! ออกคำสั่งเชิงปฏิบัติ เพราะจะทำให้เกิดความล่าช้า และสั่งผิดสั่งถูก
แต่ให้เป็นหน้าที่ของ “ภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม” ได้คิดเอง ทำเองมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ ทิศทาง นโยบาย เป้าหมาย และวิสัยทัศน์ร่วมในการจัดการภาวะวิฤตโควิด
ซึ่งในยามคับขันการเอาชนะข้าศึก!! ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังเรื่อง "การพูดจา" ไม่สร้างความสับสนอย่างทุกวันนี้ พึงยึดหลักสัมมาวาจา ที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้จะดีที่สุด
(1) พูดอะไรต้องเป็นความจริง มีที่มา มีที่อ้างอิง
(2) พูดเป็นปิยวาจา ไม่พูดเพ้อเจ้อ ส่อเสียด ยุยงให้เขาแตกกัน
(3) พูดถูกกาลเทศะ
(4) พูดแล้วเกิดประโยชน์ ไม่เกิดประโยชน์ไม่พูด
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว และเข้ามาทักทายกันนะคะ
#WhoChillDay #ประเวศ วะสี #บิ๊กตู่
#พลิกกลไกรัฐ พลิกสถานการณ์โควิด
#โควิด-19
- 10
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
