“พิธา” ฟอร์มทีมครม.- แคนดิเดตนายกฯ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
แม่ทัพใหญ่ก้าวไกล “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ วางอนาคตพรรค หลังปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ 4 ทางที่ต้องเดิน หลังโหวตผ่านเสียงรัฐบาลชนะ
แม้สภาโหวตผ่านฉลุย แต่อย่างน้อยย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง !?
สถานการณ์เบาสุด คือ ปรับครม.
สถานการณ์หนักสุด คือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ลาออกหรือยุบสภา
“ก้าวไกล” เป็นพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันการเมือง พร้อมสู้ศึก
เลือกตั้งทุกกติกา แม้นต้องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เป็นทางออก
ของประเทศ
โดยต้องการมีบัตร 2 ใบ ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ซึ่งเป็น
วิธีเลือกตั้งแบบระบบเยอรมัน ที่ประเทศเกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ และ
แอฟริกาใต้ใช้กันอยู่
จุดเด่นอยู่ที่ไม่มีคะแนนเสียงทิ้งน้ำ หมายความว่า ทุกคะแนนเสียงสามารถคำนวณเป็น ส.ส.ได้ทั้งหมด ก็จะทำให้ได้ ส.ส.เขตแก้ปัญหาในเขตเลือกตั้ง ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะกลุ่ม
“ควรใช้ระบบเยอรมัน เพื่อพาการเมืองไทยไปสู่อนาคต มันถึงเวลาออก
แบบกติกา ตอบโจทย์ของประเทศ ไม่ใช่ตอบโจทย์ของพรรคการเมือง
หรือของตัวเอง ทุกพรรคไปแข่งกันที่นโยบาย และวิสัยทัศน์”
หากพรรคไหนไม่ทำตามนโยบาย และวิสัยทัศน์
ประชาชนก็ไม่เลือกอีก เปลี่ยนไปเลือกพรรคใหม่
นี่เป็นเสน่ห์ความก้าวหน้าของประชาธิปไตย !!
ดับเบิ้ลวิกฤตประเทศ.. เหตุพรรคก้าวไกลยืนหนึ่งเสนอยุบสภา !?
“พิธา” มองทะลุกระแสรัฐบาลตกต่ำ ทั้งจัดการโควิดล้มเหลว แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ แล้วยังไปเพิ่มเติมวิกฤตทางการเมือง
3 ปัญหาใหญ่กลายเป็น “ดับเบิ้ลวิกฤตของประเทศ” เหตุเหล่านี้แหละ
ที่พรรคก้าวไกลมั่นใจว่า แนวทางการเมืองใหม่
ทั้งมีบทบาทโดดเด่นในสภา โดยเฉพาะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล
ทุกมิติ และการมีนโยบายไม่ให้ ส.ส.ของพรรคสอดไส้เอางบ ส.ส. ลงพื้นที่
ขณะที่นอกสภา ก็มีบทบาทเห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวมวลชน และยัง
ไม่รับงบประมาณสนับสนุนจากทุนใหญ่ เพื่อไม่ต้องเป็นหนี้บุญคุณ หลังไปเป็นรัฐบาล ในการกำหนดนโยบายเอื้อนายทุน แต่ประชาชนหมดโอกาส
สำหรับสมาชิกพรรคฯ ได้คัดตัวผู้สมัครอย่างละเอียดรอบคอบ ตรวจสอบประวัติไป - กลับ ลงไปสอบถามข้อมูลในพื้นที่ของผู้ที่จะสมัครเป็น ส.ส.ของพรรคก้าวไกล
เป็นดับเบิ้ลเช็คบทบาททางการเมืองในพื้นที่ และวัดดัชนีทางการเมืองเมื่อเข้ามาเป็น ส.ส. แล้วจะไม่กลายเป็น “งูเห่า” ย้ายไปพรรคอื่นหรือถูกซื้อตัว
“ทฤษฎีปั้นหม้อ” เป็นสิ่งที่ “พิธา” กำลังชี้ให้เห็นว่า แต่ละพรรค การเมือง ล้วนมีปัญหาเป็นของตัวเอง เป็นเรื่องหลากหลายทางความคิดในตัวเอง
อย่างก้าวไกลก็มาจากกลุ่มต่าง ๆ ภาคธุรกิจ เอสเอ็มอี แรงงานที่โดนกดขี่
มี ส.ส.อายุน้อยสุด 29 ปี อย่างนายรังสิมันต์ โรม และกรรมการบริหารพรรคที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมือง
ทำให้ระหว่างการประชุมของพรรคก้าวไกลตลอดมา จะมีการถกทุกเรื่องจนตกผลึก เปรียบเหมือนการค่อย ๆ ปั้นหม้อให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานั้น ย่อมเสียดสีกันเป็นเรื่องธรรมดา เป็นธรรมชาติการทำงานทางการเมือง
อีกแนวทางการเมืองใหม่ที่ดูฉีกจากพรรคการเมืองเก่า คือ เงินที่ใช้ทำกิจกรรมทางการเมือง เน้นรับบริจาคจากประชาชน
ที่สำคัญเตรียมฟอร์มทีม ครม. !? พร้อมเป็นรัฐบาลแนวการเมืองใหม่ เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่ประเทศ อาทิ
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ - แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
น.ส. ศิริกัญญา ตันสกุล - รมว.คลัง
นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ - รมว.กลาโหม
นายวิโรจน์ ลักขณาดิศร - รมว.ศึกษาธิการ
ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ - รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
รวมถึงหาเลือดใหม่เข้ามาเติมทดแทนกลุ่มงูเห่า..ปันใจซบอกพรรคอื่น !? เป็นคนรุ่นใหม่จากหลายหลายสาขาอาชีพ เช่น อดีตผู้กำกับภาพยนตร์ ที่ต้องการขับเคลื่อนวัฒนธรรมไทยกับเศรษฐกิจไปด้วยกัน
บุคลากรที่เคยอยู่ในเพนตากอน สหรัฐฯ เชี่ยวชาญการบริหารจัดการ
ให้กระทรวงกลาโหมอยู่ภายใต้พลเรือน
กลุ่มดารา Call Out ที่พร้อมเข้ามาร่วมอุดมการณ์กับพรรคก้าวไกล
แม่ทัพใหญ่ก้าวไกล “ทิม-พิธา” ประกาศชัดพร้อมสู้ศึกสังเวียนการเมือง กำลังใจเกินร้อย รับพลังวิเศษจากลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน เป็นพาวเวอร์แบงค์คอยชาร์จพลังให้แม่ทัพใหญ่ตลอดเวลา
ยุบสภาวันนี้ เราก็พร้อม !!
เลือกตั้งปี 66 เราก็พร้อม !!
ขอบคุณที่เข้ามาติดตามอ่านทุกเรื่องราว และเข้ามาทักทายกันนะคะ
สามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังตามลิงค์ด้านล่างค่ะ
“นักธุรกิจหนุ่มพันล้านสู่แม่ทัพพ่อลูกอ่อน -ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
#WhoChillDay #พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ #พรรคก้าวไกล
#อภิปรายไม่ไว้วางใจ #แคนดิเดตนายกฯ #ฟอร์ม ครม.
- 17
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
