คำเตือน:บทความนี้เขียนจากประการณ์การได้รับการรักษาโรคซึมเศร้าผ่านตัวเราเองทั้งสิ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และปรึกษากับจิตแพทย์ประจำตัวอยู่เสมอ เพราะอาการแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ
การรักษาโรคซึมเศร้ามีหลายรูปแบบ แต่อย่างแรกเลยคือต้องรู้ตัวเอง มีสติ และยอมรับ
อาการป่วยจากโรคนี้ไม่ได้น่าอาย อย่าสมเพชตัวเอง อย่ารู้สึกว่าตัวเองหมดค่า
มันอาจจะยากหน่อยที่จะต้องพยายามฉุดตัวเองขึ้นมาเพื่อไปหาหมอ แต่ขอให้ทำ เพราะชีวิตของคุณมีค่า อย่างน้อยก็กับตัวคุณเอง
การรักษาก็จะมีตั้งแต่ การบำบัด การกินยา การออกกำลังกาย ทั้งสามอย่างนี้คือสิ่งที่เราทุกคนต้องได้รับเป็นหลัก แต่สำหรับผู้ป่วยที่อาการค่อนข้างหนัก ก็อาจจะมีการรักษาเพิ่มเติม
โดยวันนี้จะมาว่าด้วยเรื่องรูปแบบการรักษาด้วยการช็อตไฟฟ้า หรือ ECT (Electroconvulsive Therapy)
ช้าก่อน!! อย่าเพิ่งคิดภาพไปไกลว่าเหมือนในหนัง หรือสมัยก่อนที่ต้องนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า แล้วใส่ที่ครอบหัวช็อตไฟฟ้า แล้วชักแรงๆเน้อ
เรามาดูไปทีละขั้นกันนะ
ECT (Electroconvulsive Therapy) คือการใช้กระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้สารสื่อนำประสาทภายในสมองที่หลั่งผิดปกติได้กลับมาทำงานโดยสม่ำเสมอ เมื่อสารสื่อนำประสาทหลั่งอย่างต่อเนื่องดีแล้วกระบวนการทำงานทางจิต รวมถึงสภาวะทางอารมณ์ ความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมต่างๆ ก็จะกลับสู่ภาวะปกติ
ข้อดีของการรักษาด้วยไฟฟ้า จะช่วยให้อาการทางจิตของผู้ป่วยทุเลาอย่างรวดเร็ว สามารถคงสภาพไม่ให้อาการกำเริบซ้ำ การรักษาด้วยไฟฟ้าจึงเหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการทางจิตรุนแรงมีความจำเป็นต้องรับการรักษาเร่งด่วนเพื่อควบคุมอาการของผู้ป่วยให้สงบลง เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง
ทีนี้ขอเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวกันบ้าง
เราเข้ารับการรักษาด้วยยาเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม เจอผลข้างเคียงมากมาย เวียนหัว คลื่นไส้ ท้องเสีย อาเจียน เบื่ออาหารบ้าง กินเยอะบ้าง โอ้โห้แทบทุกรูปแบบ และแล้ววันหนึ่งก็ถึงจุดที่เลวร้ายที่สุด นั่นคือวันที่เราฆ่าตัวตายครั้งแรกด้วยการกินยานอนหลับประมาณห้าสิบกว่าเม็ด เป็นโชคดีของเราที่รอดมาได้ และได้รับการรักษาทันด้วยการล้างท้อง
คุณหมอประจำตัวจึงประเมินและให้เข้ารับการรักษาด้วยวิธี ECT โดยก่อนวันที่รักษาจะต้องงดอาหารและน้ำตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป และตอนเช้าก็ไปที่โรงพยาบาลโดยรักษาทั้งหมด 6 ครั้ง วันเว้นวัน ต้องตรวจร่างกายก่อนทำการรักษาด้วยวิธีการนี้ เจาะเลือด เอกซเลย์ปอด และตรวจคลื่นหัวใจ
แหน่ะ!! คิดว่ามันจะต้องเจ็บใช่มั้ย? ไม่เลย ถ้าจะเจ็บก็คงเจ็บสำหรับคนที่กลัวเข็มอย่างเรา ฮ่าๆๆ เพราะคุณพยาบาลจะต้องทำการเปิดเส้น และให้ยาสลบ พอขึ้นเตรียมถึงคิว ก็หลับไปไม่รู้เรื่องแล้วว่าเขาทำอะไรบ้าง
พอตื่นมา โอโห้ บอกตรงๆเลยว่าจะเจอกับการปวดหัวอย่างทรมานแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ทำได้คือการกินยาและนอนพัก แต่พอครั้งถัดไป อาการปวดหัวก็จะเบาลง อย่างมากก็มึนๆกลับบ้านได้ปกติเลย ส่วนผลข้างเคียงอีกอย่างนึงคือ อาจจะมีบางคนที่ความทรงจำหายไปบ้างบางช่วง แต่มันจะค่อยๆ กลับมาเองค่ะ
เพราะฉะนั้น!! ใครที่คุณหมอแนะนำให้ทำ ECT หรือญาติที่กำลังห่วงว่าผู้ป่วยจะเป็นอันตรายมั้ยจากการรักษาแบบนี้ สบายใจได้เลยค่ะ เพราะได้ผลจริง รักษาได้จริง ดีขึ้นจริง
ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกคน และญาติ เพื่อน คนรักที่ต้องดูแลนะคะ
รอบหน้า จะมาเล่าเรื่องการรักษาแบบสะกดจิต ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ได้ผลกับตัวเราเหมือนกัน
ถ้าชอบบทความ และผลงานถ่ายภาพ อย่าลืม! กด Like กด Shear ให้กับ Time 2 Take นะคะ
แล้วมาแชร์ประสบการณ์ หรือให้กำลังใจคนที่กำลังต่อสู้กับโรคนี้กันที่ใต้โพสเลย!!
🙂
#โรคซึมเศร้า #โรคเครียด #รักษาโรคซึมเศร้า #ผู้ป่วยโรคซึมเศร้า #ซึมเศร้า #depression #mojordepression #ECT
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
