คุย EVANGELION 3.0 + 1.0 Part 2.0 ,
สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ (ไม่สปอย)
โพสต์นี้จะพูดลงละเอียดขึ้นแต่พยายามไม่สปอย อาจพูดถึงภาคก่อนหน้าบ้าง ถ้าต้องการอ่านแบบคร่าวๆสำหรับคนไม่เคยดู แนะนำให้ไปอ่าน Part 1.0 ท้าย post
ปกติผมจะพูดถึงอนิเมะแต่ละเรื่องในเชิง "แนะนำ" ซึ่งถ้าต้องการแบบนั้นก็ขอบอกว่า "แนะนำให้ดูอย่างยิ่ง" ไม่อยากเรียกสิ่งที่ตัวเองเขียนว่ารีวิวเพราะไม่อยากให้คนคาดหวังความเป็นกลางความครอบคลุมของบทความ ก็ย้ำเป็นพิเศษว่าโพสต์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว
อาจจะเหมาะกับคนที่ดูจบแล้วมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันมากกว่าชี้แนะให้ดูหรือไม่ แต่ไว้คุยแบบสปอยจัดเต็มโอกาสหน้าละกัน
เนื้อเรื่องไม่ต้องพูดถึงละ สั้นๆคือเนื้อเรื่องดำเนินต่อจากภาค 3.0 ทันทีไม่ timeskip อะไรเยอะ
✨✨ สิ่งที่ชอบ ✨✨
1. [ 🌟ชอบ Message สุดท้ายของเรื่องมาก การนำเสนอหลายความหมายในภาพเดียว🌟]
- คงไม่อาจลงรายละเอียดโดยไม่สปอยได้ แต่คนที่ดูมาแล้วคงเข้าใจ ช่วงที่มัน indie ที่สุดในเรื่องอะ
- ตอนแรกผมจินตนาการว่าเรื่องจะกล้า จะ break 4th wall มากกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ถือว่าใช้ได้
- บทพูดที่เหมือนจะคุยกับตัวละครแต่จริงๆก็คุยกับคนดูไปพร้อมกัน ฉากนั้นมันทรงพลังมาก
- เอาจริงๆ ผมรู้สึกว่าเป็นตอนจบที่ซะใจดี ตบหน้าคนดูแรงๆไปเลย 555
- หลายอย่างๆในตอนนี้มีความหมายเยอะ ยิ่งนั่งคิดยิ่งชอบฉากเหล่านั้น จากตอนแรกชอบนิด กลายเป็นชอบมาขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราเข้าใจมันมากขึ้น
2. [🌟ช่วงแรกที่ออกแนวชิลๆนั้น feel good มาก🌟]
- ตอนแรกผมเจอฉากแบบนั้นผมเป็นห่วงมากกว่าเรื่องตั้งใจจะทำอะไรกันแน่
- แต่ดูไปดูมา ชอบมาก ชอบจนผมโอเคเลยถ้าทั้ง movie นี้จะแหกกฎแหวกแนวทำเป็นแบบนั้นทั้งตอน
- ตัวละครได้สะท้อนคิดหลายๆอย่าง คำถามง่ายๆที่ตัวละครถามทำให้เรากลับมาเห็นคุณค่าของชีวิตประจำวันมากขึ้น
- ถึงแม้หลายคนจะบ่นว่าใส่ moment แบบนี้แต่แทบไม่ไม่ได้อะไรเลย ผมเห็นต่างมาก ผมว่าเรื่องได้ส่ง message ที่สำคัญไปถึงตอนท้าย เปลี่ยนมุมมองของตัวละครที่จะมีผลในตอนสุดท้ายมาก
3. [🌟มันสรุปอะไรหลายๆอย่าง ให้ฉันเดินกลับออกมาได้อะไรจาก Movie 4 ภาคนี้🌟]
- เอาจริงๆผมไม่ค่อยชอบภาค rebuild มาเกือบทุกภาคเลย ถึงจะเปลี่ยนไปเยอะ ฉากสู้ดีขึ้น แต่ด้านเนื้อหาไม่ได้รู้สึกอะไร แถมจะ downgrade ด้วยซ้ำจาก TV series
- โดยเฉพาะภาค 3.0 ที่ผมขอย้อนความหน่อย ที่ตีความกันว่า shinji ควรจะขับ Eva หรือไม่ ที่บอกว่าเรื่องสอนว่าอดีตแก้ไขไม่ได้ อย่าไปพยายามแก้สิ่งที่ตัวเองทำผิด อย่าทำตัวเป็น Hero ที่สร้างปัญหา ผมส่วนตัวผมก็คิดว่าเป็นไปได้ที่จะสื่อแบบนั้น แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับข้อคิดเหล่านั้นๆมากๆ กลับกันเอาจริงๆมันเพราะ shinji ไม่ฟังคนอื่นแม้แต่ Kaoru ต่างหากที่เป็นปัญหา
- แต่ในภาค 3.0 + 1.0 ให้มุมมองเกี่ยวกับสิ่งที่ค้างไว้ใน 3.0 ตรงนี้น่าสนใจและประทับใจผมมาก คาดว่าจะเขียนถึงเรื่องนี้ในอนาคต (ถ้าเขียนแล้วจะมาเพิ่มวาร์ปใน comment)
- มันทำให้ผมรู้สึกว่าไม่เสียดายที่มี Rebuild ขึ้นมา มันไม่ใช่แค่มีคุณค่าในตัว 3.0+1.0 แต่มันสรุป Movie ทั้ง 4 ภาค และทำให้ผมให้คุณค่ากับเรื่องราวทั้งหมดขึ้น
4. [🌟ฉากหลังสวยงาม🌟]
- เรื่องงานภาพต้องขอชมดีไซน์ต่างๆของโลกมาก
- ฉากทุกฉากสามารถทำเป็น background ได้ง่ายๆ
- มันผสมความงดงามและความไม่แน่นอนไม่ไว้วางใจได้ดีมาก
⚠⚠ สิ่งที่ไม่ชอบ ⚠⚠
1. [🌡ฉากสู้ดูรกรุงรังและไม่สนุก🌡]
- ถึงหลายคนจะชื่นชอบฉากสู้ในภาคนี้ว่าสวยงามจัดเต็มที่สุด แต่ผมเห็นต่าง
- ฉากสู้เกือบทุกฉากที่สู้กับ Eva ที่ทำด้วย CG จำนวนมากไม่มีเจ๋งไม่เท่เลย การเอา EVA หน้าตาเหมือนกันจำนวนมากมาสู้แบบไม่มีเทคนิค ไม่มีความหมาย แค่กราดยิงไปทั่วมันน่าเบื่อมาก
- โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่นอกจากดีไซน์ EVA ไม่น่าสนใจ composition ก็ทำได้แย่ ตัวหุ่นแต่ละตัวไม่เข้ากับสิ่งแวดล้อมและดูเป็น CG ที่โดดออกมาจากฉากจริงๆ
- ไหนจะการสู้ของยานบินที่ก็ไม่ได้น่าสนใจเช่นกัน
- ฉากสู้เดียวที่ผมชอบคือช่วงท้ายเรื่องสุดๆที่ Eva สู้กันจริงๆ ถึงแม้ฉากสู้เหล่านั้นดูแข็ง และแปลกๆ แต่พอรู้เฉลยว่าทำไมออกมาแบบนั้นคือมันว้าวและกลับมาชื่นชมความใส่ใจในรายละเอียดของฉากนั้นๆจริงๆ
- หรือนอกจากนี้คือภาพในห้องคนขับต่างๆแหล่ะที่จัดเต็ม
2. [🌡ฉากที่ควรจะซาบซึ้งผมไม่ซาบซึ้งเลย🌡]
- ยินดีด้วยถ้าคุณร้องไห้กับการจบเรื่องราว 26 ปีนี้ น่าจะเป็นเรื่องราวของ Evangelion ที่เข้าถึงหัวใจคนมากที่สุด
- แต่สำหรับผมโดยเฉพาะการดูรอบแรกไม่ได้ซาบซึ้งหรือมีน้ำตาซึมใดๆ
- แต่การไม่ร้องไห้ก็ไม่ใช่จะไม่ดีเสมอไป แต่ climax ก็ควรจะให้อะไรที่พีค ให้เกิดความรู้สึก ความน่าสนใจใน concept อะไรก็ได้
- แต่การถ่ายทอด "การเผชิญหน้าที่คาดไม่ถึง" นั้น มันก็ฟินที่มันเกิดขึ้น แต่ผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นง่ายดายและเปลี่ยนแปลงง่ายดาย ไม่มีจุดเชื่อมโยงที่ทำให้ผมคิดตาม รู้สึกตามได้มากพอ
3. [🌡ตัวละครเยอะแล้วไม่พัฒนา🌡]
- ตัวละครเดียวที่ดูจะมีพัฒนาการที่สำคัญคือ Shinji แต่การนำเสนอการเปลี่ยนแปลงนั้นก็รวดเร็วจนไม่เก็ตว่าทำไมแกถึงเปลี่ยนแปลง
- ในขณะที่พัฒนาการที่น่าสนใจที่สุดคือ Rei Q ที่น่าเสียดายเราไม่ได้เห็นพัฒนาการตรงนั้นนาน
- ตัวละครอื่นๆที่เสริมเข้ามาเราไม่ได้มีเวลารู้จักมากพอ หรือตัวละครที่กลับมาก็เปลี่ยนไปมากจนเหมือนตัวละครใหม่
- ถึงผมจะถือหลักว่าตัวละครไม่จำเป็นต้องพัฒนาก็ได้ถ้าถ่ายทอดความน่าสนใจ หรือ backstory ที่ดีพอ แต่เรื่องนี้ตัวละครมีการตัดสินใจที่สำคัญและเปลี่ยนทิศทางเรื่อง การไม่เคลียร์เรื่องของการเปลี่ยนแปลงภายในตัวละคร ทำให้การเปลี่ยนแปลงภายนอกหรือการกระทำมันไม่น่าเชื่อถือหรือน่าใส่ใจ
4. [🌡ความงงที่ไม่จำเป็น🌡]
- ความงงเป็นเอกลักษณ์ของ Evangelion ก็จริง แต่... อาจจะดูโอหังไปนิดนึง ผมคิดว่าผมเข้าใจ Evangelion TV series และ End of evangelion ในแบบของตัวเองที่ผมพอใจ มีข้อคิดพลังบวกที่ได้จากซีรีย์ที่คนบอกดูแล้วซึมเศร้า คนทำก็ซึมเศร้านั้น
- โดย Plot พระเจ้า Plot ที่ยืมคำจากศาสนาต่างๆมาล้วนมึนงงจนเป็นที่เคยชินและยอมรับว่าช่างมันเถอะตั้งแต่ภาคก่อนๆก็จริง
- แต่ภาคนี้คืองงแบบ เอ่อ จะเอาอาวุธอะไร ทฤษฎีอะไรออกมาก็ช่างเถอะ ตามสบายเลยพี่ ซึ่งผมชอบที่เรื่องทำให้เราเข้าใจมากกว่านี้ แล้วจะสอดแทรกปรัชญา ศาสตร์ reference ต่างๆให้ไปหาต่อเองสนุกแบบ Madoka Magica มากกว่า
- สิ่งนึงที่งงจนอ่านแต่ละที่ยังเข้าใจไม่ตรงกันคือสรุปมันเกิด Impact อย่างไร สรุป Near 3rd Impact กับ 3rd Impact อันเดียวกันไหม และใครทำให้เกิดเหตุการณ์ไหน ใครตายในอันไหน ความงงตรงนี้มีผลอย่างมากที่เราจะตีความว่าตัวละครเรียนรู้อะไรและรู้สึกอย่างไร บางทีก็มองข้ามไม่ได้
5. [🌡เนื้อเรื่อง Plot ใหม่ๆที่ใส่เข้ามาเยอะเหมือนเพิ่งยัดเข้ามาโดยไม่วางแผน🌡]
- Evangelion Movie ที่มานั้นมีเป้าหมายที่จะทำให้ Evangelion จบต่างจากเดิม ไม่เหมือนเดิม แต่ผู้กำกับ Anno ก็บ่นตลอดว่ามันยากมากที่จะฉีกจากสิ่งที่ Evangelion เคยเป็น จนเป็นเหตุต้องให้มีตัวละครใหม่แบบฝืนๆตั้งแต่ภาค 2.0 เป็นเหตุทำให้ 3.0 ถูกแก้เนื้อเรื่องทั้งหมดแล้ว timeskip ไป 14 ปี ใน
- ภาคนี้ก็ไม่รู้มีความพยายามนั้นขนาดไหนแต่เห็นขั้นตอนการทำงานที่เห็นแล้วตกใจ ทุกคน brainstorm ไอเดียต่างๆ โดยไม่รู้ว่าอะไรจะทำให้ Anno พอใจแทนทีแกจะคุมทิศทางการทำงานเอง จนสุดท้ายต้องมาแก้ไขใหม่ในนาทีสุดท้ายกันอีก
- ทั้งหมดข้างต้นคงเป็นเหตุที่ Movie 3.0 + 1.0 เต็มไปด้วยองค์ประกอบใหม่ๆ ตัวละครใหม่ๆที่ไม่มีการปูมาอย่างเพียงพอในภาคก่อนๆ ตอนจบ backstory ต่างๆจู่ๆก็มาเหมือนเพิ่งคิดขึ้นเอาทีหลัง
- ถึงบางอย่างถ้าย้อนดูดีๆก็เห็นอยู่ว่า foreshadow มาไว้บ้าง แต่เรื่องนี้ทำให้ผมร้อง "ห๊ะ? มาจากไหน" ตลอดแทนที่ควรจะเป็น "อ้อออ อย่างนี้นี้เอง" ก็เป็นเรื่องที่ไม่ดีในการดูอยู่ดี
- ตั้งแต่ช่วงต้นที่คาดไม่ถึงว่าจะเจอสถานที่แบบนั้น เจอตัวละครเหล่านั้น คาดไม่ถึงว่า back story ตัวละครจะเปลี่ยนไปขนาดนั้นในช่วงท้าย และทุกอย่างถูกแก้ไขในไม่กี่นาทีสุดท้าย
- และที่ต้องยอมรับเลยว่า สิ่งที่ผมอวยว่าชอบมันก็ค่อนข้างฝืนๆ ถึงจะมีการปูเรื่อง "คำสาปของ Eva" มาไว้จนเป็นที่วิเคราะห์กันอย่างน่าสนใจ แต่องค์ประกอบอื่นๆภายในตัว movie นี้ก็เชื่อมโยงกับบทอย่างเบาบางและรวบรัดเหลือเกิน
6. [🌡เอาจริงๆการตีความก็อาจถูกตีความไปในทางที่น่าเกลียดมากๆ🌡]
- แน่นอนว่าการตีความเป็นเรื่องของคนดูแต่ละคน
- แต่การปล่อยให้เรื่องกำกวมเกิน ก็อาจหมายถึงมันไม่มีความหมายใดเลย
- ถึงผมจะบอกว่าตอนจบค่อนข้างเคลียร์ว่าอยากจะให้คนดู "รู้สึก" อย่างไร แต่บทเรียนที่ได้กลับไปอาจมองไปได้ในทางที่ positive สุดหรือเห็นแก่ตัวขี้เกียจสุดๆก็ได้
- อันนี้ผมอาจไม่นับเป็นข้อเสียที่ร้ายแรงมาก
7. [🌡คู่ ship🌡]
- หลายคนบ่นเรื่องคู่ชิปสร้างความไม่พอใจของ fanๆ อย่างมาก โมโห โวยวายปาหมอนกัน 555
- ผมคิดว่ามันมีเหตุผลที่ลงเอยแบบนั้น ทั้งในเชิงความ make sense, เชิง meta และเอาจริงๆเรื่องของการตลาดและทุนนิยมก็มีส่วนเช่นกัน
- ไม่ว่าเหตุผลอย่างไร ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่พอใจกับทิศทางเรื่องแบบนี้ มันมีคำอธิบายทำให้เข้าใจแหล่ะ แต่ไม่อาจรู้สึกยินดี
8. [🌡Fanservice อัดหน้ามาก🌡]
- ภาคนี้มุมกล้องประหลาดมาก แทนที่จะมีมุมเจ๋งๆ ถ่ายทอดความคิดตัวละคร แต่มุมถ่ายก้นถ่ายขาในช่วงที่ไม่ควรเยอะแปลกๆ
- แต่ส่วนตัวไม่ได้ขัดใจมาก ดูรอบแรกก็ไม่ทันรู้สึกว่ามันขัดตา หรือแม้แต่เป็นอาหารตาอะไร ก็ดูปกติดี แต่ดูซ้ำก็รู้สึกถึงความอัดหน้าอยู่
และนี่คือสิ่งที่ชอบ 4 อย่าง ไม่ชอบ 8 อย่างใน Evangelion 3.0 + 1.0
และโดยสรุป แม้จะมีข้อเสียมาก เหตุผลที่ผมยังแนะนำให้ดูเพราะข้อดีของเรื่องนี้มันคุ้มค่า โดยเฉพาะถ้าดู Movie 1.0 - 3.0 มาแล้ว นี่น่าจะเป็นบทสรุปที่ทำให้การดู 3 ภาคที่ผ่านมาไม่เสียเปล่าที่สุด ถึงแม้จะต้องทนกับข้อเสียมากมาย
ส่วนเรื่องคะแนนรีวิว ผมก็อธิบายหน่อยว่า ผมไม่ได้นับคะแนนหักคะแนน เป็นเรื่องของความประทับใจ ความรู้สึก คุณค่าที่ผมมองกลับไปยังเรื่องนี้หลังดูจบ ข้อเสียหลายๆอย่างพอเวลาผ่านไปมันก็ไม่ได้อะไรกับผมมากแต่ข้อดีบางอย่างกลับยิ่งโตยิ่งฝังลึกเข้าไป คงจะมีข้อเสียของที่ 1 , 4 และ 5 ที่เป็นปัญหาสำหรับผมจริงๆ
เป็นไงบ้าง ถ้าอ่านกันมาถึงตรงนี้ได้ก็ขอบคุณมากจริงๆ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน และรอติดตามบทวิเคราะห์เนื้อเรื่องกันต่อ
และฝากผลงานหลังดู Evangelion 3.0 + 1.0 อื่นๆที่จะมา update ใน comment ครับ
Part 1.0 : แนะนำ Evangelion สำหรับคนยังไม่ได้เริ่มดู https://www.blockdit.com/posts/611bdd115445370f9eaee838
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
