26 ส.ค. 2021 เวลา 13:29 • การ์ตูน
คุย Evangelion 3.0 + 1.0 Part 3.0
Evangelion 3.0 + 1.0 ความรับผิดชอบคือข้อคิดที่เชื่อมทุก Movie ก่อนเข้าด้วยกัน
บทความนี้จะพูดถึงมุมมองเกี่ยวกับ Evangelion 3.0 + 1.0 จะมีการสปอยเนื้อหาภายในเรื่องนะครับ
มี part อื่นๆวาร์ปอยู่ใน comment นะครับ
สำหรับ Evangelion ก็จะมีการตีความหรือมุมมองที่สามารถมองได้หลายๆมุม แต่คงมี 2 มุมที่ผมสนใจ
1. Shinji ควรขับ Eva หรือไม่
2. คุณควร Move on จาก Evangelion ได้แล้ว
วันนี้ก็จะมาพูดถึงอันแรกก่อน โดยจะไล่ไอเดียแต่ละภาคจนถึงภาคล่าสุด
✨Neon Genesis Evangelion : ความสัมพันธ์นั้นเจ็บปวด แต่ถ้าไม่มีคนอื่น ก็ไม่มีเรา✨
- เริ่มต้นจากมุมมองเกี่ยวกับ Neon Genesis Evangelion TV series และ End of Evangelion เสียก่อน และนี่คือการตีความของผม
- ไอเดียหลักๆของ Neon Genesis Evangelion คือเรื่อง Hedgehog's Dilemma นั่นคือแม่นอยากจะอยู่ใกล้ๆกันกอดกันเพื่อให้หายหนาว แต่ยิ่งใกล้กันหนามก็ทิ่มแทงซึ่งกันและกัน
- Shinji และอีกหลายๆตัวละครก็ประสบปัญหานี้ ยิ่งผูกพันธ์กับคนอื่น ยิ่งมีหน้าที่ภาระต้องทำ ก็ยิ่งเจ็บปวด ยิ่งคุยกับพ่อยิ่งเหินห่าง ยิ่งไม่สามารถเข้าถึง Asuka ได้ ได้แต่ fantasy ชอบเธอด้วยการมองและสำเร็จความไคร่ด้วยตัวเอง
- และไม่ใช่ Shinji คนเดียวที่คิดแบบนั้น SEELE ก็คิดเช่นกันถึงสร้าง "แผนพัฒนามนุษยชาติขึ้นมา พิธีกรรมที่จะหลอมรวมจิตวิญญาณของมนุษย์เป็นหนึ่งเดียว เป็นจิตใจเดียว ไม่มีความแตกต่างของมนุษย์ ไม่มีกำแพงกั้น เหมือนดั้งซุปแห่งกำเนิดชีวิต LCL ทุกคนก็เป็นแค่ผื่นทะเลเดียวกัน
- เรื่องยังเสริมว่าสิ่งที่ต้องทำลายคือ AT Flied ซึ่งไม่ได้มีแต่ในหุ่น Eva แต่มีในทุกสิ่งมีชีวิต เพื่อแบ่งแต่ละคนเป็นตัวของตัวเอง เป็น individual ไม่ใช่กองของเซลล์ที่กั้นด้วยอากาศบางๆ
- ตอนจบของ End of Evangelion จึงเป็นเรื่องราวของ Shinji ที่ตอนแรกเป็นศูนย์กลางของมนุษยชาติ แต่สุดท้ายเขาคนพบว่าสิ่งที่ต้องการมากว่าไม่ใช่การหลีกหนีความเจ็บปวด แต่ต้องการได้รับการยอมรับจากผู้คนรอบตัว ต้องการมีความหมายในตนเอง นั่นเป็นเหตุที่เขาขึ้นไปขับ Eva นับครั้งไม่ถ้วนเพื่อหวังว่าคนอื่นจะยอมรับการมีตัวตนของเขา
- นั่นทำให้แผนการพัฒนามุนษยชาติล้มเหลว ไม่ได้รวมกันเป็น LCL 2 คนแรกที่แยกออกจาก LCL ได้คือ Shinji และ Asuka
- ฉากบีบคอ มันล้อกับฉากในฝันของ shinji ที่เขาตัดสินใจบีบคอ Asuka ที่ไม่มีทางเขาใจเขา แต่ครั้งนี้ตอนแรก asuka ไม่ตอบสนองใดๆ จนสุดท้าย Asuka ยกมือขึ้นมาจับหน้าของชินจิ และด่า "ไอ้บ้า" ออกมา
- ฉากนั้นสำหรับผมมันเศร้าแต่ก็งดงาม สุดท้ายแล้ว shinji ก็ยังไม่รู้จะเข้าใจคนอื่นอย่างไร แต่หากเรายังมีชีวิตเป็นตัวของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นการทำร้ายกัน เขาก็ยังรับรู้การมีอยู่ของเรา ต่างจากในแผนมนุษยชาติแม้ชินจิพยายามสัมผัส rei แค่ไหน ก็ทำไมได้ มีแต่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
- ดังนั้น Theme ของ Neon Genesis Evangelion สำหรับผมคือการที่เราเดินหน้าที่จะสร้าง connection กับผู้อื่น และยอมรับว่าความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับ และโอบรับมันไว้ว่านั่นแหล่ะสิ่งที่ยืนยันว่าตัวตนของเรานั้นมีอยู่จริง ต่างจากคนอื่น
✨Evangelion 2.0 : ฉันจะคว้าสิ่งที่ฉันต้องการ]✨
- เรื่อง Hedgehog's Dilemma เหมือนถูกลดบทบาทลงไปอย่างมากใน Rebuild movie
- สิ่งที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์สำหรับ Evangelion 2.0 กันเยอะคือทำไมจู่ๆเรื่องถึงให้ Shinji เป็นแนว Hero พระเอก shounen อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จู่ๆก็ฮืดมีพลังสามารถช่วย rei ออกมาจาก angel ได้
- ส่วนตัวผมก็รู้สึกว่าหลุดจากสิ่งที่ Evangelion เป็นพอสมควร แต่เอาเป็นว่าในตอนนี้เหมือนเรื่องกอดครับความปรารถนา ความอยากจะช่วยเหลือ Rei ไปเลยชินจิ ทำความปรารถนาของนายให้เป็นจริง
✨Evangelion 3.0 : ได้โปรดอย่าขับ Eva อีกเลย✨
- ไม่รู้เพราะทีมงานไปอ่านความเห็นแฟนๆหรือตั้งใจไว้อยู่แล้วถึงออกมาแบบนั้น
- กลายเป็นว่าความ Hero ของชินจิเองทำให้เกิด Near Third impact ทำให้ผู้คนตายมากมาย
- ชินจิตอนแรกก็สิ้นหวังแต่ Kaowru ก็มาทำให้ชินจิอยากแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำและย้อนกลับสิ่งที่ตัวเองทำไป
- แต่กลายเป็นว่าแม้ Kaowru สังเกตความผิดปกติของการไปกู้หอกนั้น Shinji ก็ไม่ฟังแล้วดึงหอกออกมาอยู่ดีเพราะหมกหมุ่นมากว่าตนเองต้องแก้ความผิดนั้นให้ได้จนเป็นเหตุของ Forth Impact
- หลายเจ้าตีความว่าเรื่องจะสื่อว่า อดีตแก้ไขไม่ได้ ชินจิควรอยู่เฉยๆตามที่ Misato บอก ไม่ให้อะไรแย่ไปกว่านี้
- ซึ่งถ้าผู้สร้างต้ังใจสื่อแบบนั้นผมก็แอบเศร้านะ ผมคิดว่าการแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำผิดเป็นเรื่องที่ดี สิ่งที่เราควรเรียนรู้จาก Shinjiไม่ใช่อย่าทำอะไรเลย แต่ทำด้วยสมอง ไม่ใช่โง่ใครห้ามอะไรก็ไม่ฟัง
✨Evangelion 3.0 + 1.0 : เมื่อถึงเวลาก็ต้องลุกขึ้นมา และรับผิดชอบสิ่งนั้น✨
- ในภาคนี้มีหลายประเด็นแต่ผมจะพูดสืบเนื่องจากภาคก่อนๆ
- ในภาคนี้ shinji ครึ่งชั่วโมงแรกไม่ยอมทำอะไรเลย ไม่พูด ไม่กิน ไม่ทำงาน ซึ่งสิ่งนี้ผมว่ามันก็ make sense เพราะแกทำอะไรก็มีแต่ความเสียหายมากขึ้น
- ซึ่ง moment ที่ Shinji กลัวจะทำทุกอย่างมันล้อกับ Hedgehog's dilemma ไม่ทำอะไรดีกว่า อยู่คนอื่นมีแต่จะทำร้ายเขา
- แต่สุดท้าย Shinji แม้ไม่ได้ทำอะไรเลย Rei ก็ยังกลับมาหาอยู่เรื่อยๆ ยังมีคนต้อนรับเขาไม่ว่าเขาจะทำร้ายคนอื่นมากแค่ไหน (ทั้งนี้ อาจจะแปลกๆที่ คนอื่นเข้าเกลียด shinji เพราะแกทำให้เกิด Near third impact และ Forth impact แต่คนที่ต้องรับคือคนในหมู่บ้านที่ไม่รู้ว่าชินจิทำอะไรลงไปกับ rei ที่ยังไงก็ถูกโปรแกรมให้รัก Shinji)
- ในตอนที่ทุกอย่างแย่ลง Gendo กำลังสำเร็จแผนพัฒนามนุษยชาติ และเข้าไปใน Anti Universe ตอนนั้นก็มีแค่คนเดียวที่น่าจะแก้ปัญหาได้นั่นคือ Shinji
- Shinji ตัดสินใจลุกขึ้นสู้ และขับ Eva อีกครั้ง และรับ DSS choker มาใส่ไว้เอง แม้จะถูกคัดค้านจากลูกเรือคนอื่นมากมาย
- ผมว่านี่ล่ะคือ message ใหม่ของเรื่องที่ผมอยากเห็น สุดท้ายแล้วต่อให้คุณทำผิดมาแค่ไหน ถ้าถึงเวลาที่คุณต้องลุกขึ้นมาแก้ปัญหามันก็ต้องทำ มันอาจจะทำให้คนอื่นเจ็บปวด มันอาจจะผิดพลาดได้ แต่มันก็ดีกว่าการอยู่เฉยๆ
- ฉากที่ Shinji คุยกับ Asuka ว่าทำไม Asuka ถึงอยากต่อยหน้า shinji ก็ให้คำตอบว่าเพราะ Shinji เลือกไม่ได้ว่าต้องการจะ save Asuka ไม่ว่าจะเกิดผลอย่างไรก็ตาม (เช่นตอนที่ช่วย Rei) หรือตัดสินใจทำตามคำสั่งแล้วฆ่า Asuka ไปพร้อม Angel ตัวที่ 9 เพราะ Shinji ไม่อยากรับผิดชอบต่อการตัดสินใจนั้นๆ
- ผมจึงมองว่าการที่ shinji เลือกขับ Eva ครั้งนี้มันต่างจากครั้งก่อนที่ขึ้นไปเพื่อแค่ต้องการทำอะไรที่อยากทำ เพื่อแก้บาปให้ตัวเอง หรือเพื่อเป็นที่ยอมรับ แต่มันคือการตัดสินใจแบบผู้ใหญ่ เลือกเส้นทางที่ดีที่สุด และถ้าผิดพลาดก็พร้อมจะรับผิดชอบต่อความผิดนั้นๆ
- มันเหมือนเป็นการ progression จากภาค Neon genesis evangelion ที่เราพร้อมที่จะยอมรับความเจ็บปวดเพื่อให้เราได้เชื่อมโยงกับคนอื่น นี่เป็นเรื่องราวของการยอมรับว่าความผิดพลาดเกิดขึ้นได้และเราต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ นั่นล่ะคือการตัดสินใจของคนเป็นผู้ใหญ่
✨โดยสรุป✨
- ผมคิดว่าภาคนี้ได้แก้มุมมองจากภาค 3.0 ว่าจริงๆ Shinji น่ะสามารถขับหุ่นได้ แต่ Shinji ต้องรับผิดชอบ ถ้าเขามีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ได้ฝาก DSS choker ไว้ที่ Kaoru เขาก็อาจจะชั่งใจและตัดสินใจถูกต้องมากขึ้น
- นั่นล่ะทำให้ผม Happy มากที่ภาคนี้เปลี่ยนมุมมองจากภาค 3.0 และรับพลังบวก ความกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า ด้วยสติและความรับผิดชอบ
- ถ้าจะเสียดายก็ว่าไม่มีสวยตอนที่ชินจิกลับใจมันเร็วมาก
- อีกอันที่ก่ำกึ่งๆค้านไอเดียนี้มากคือท้ายที่สุด ถ้าเรามองว่า Eva คือความรับผิดชอบ การลบ Evangelion ทั้งหมดออกไปเท่ากับเราปัดความรับผิดชอบทั้งหมดหรือไม่???
- ส่วนตัวผมมองเรื่องกำจัด Eva ทั้งหมดเป็นคนละเรื่องกัน คิดว่าเรามองการขับ Eva ครั้งนั้นเป็นเรื่องของความรับผิดชอบ และการกำจัด Eva ทั้งหมดเป็นการเลิกยึดโยงกับ Eva แล้วแต่คนจะตีความว่ามันคือ Fantasy คือพลังพระเจ้าหรืออะไรก็ตาม เพราะความรับผิดชอบนั้นไม่เท่ากับตัวเราเองเหมือนภาคก่อนๆที่ Shinji ขึ้นไปขับ Eva เพื่อจะได้รับคำชมจาก Gendo แต่เราควรทำสิ่งที่เราต้องทำให้เสร็จสิ้น และวางมันลงเมื่อถึงเวลา เพราะเราเป็นตัวของเราจากการที่เรามีคนรอบตัว ไม่ใช่ภาระหน้าที่ที่ถูกกำหนดไว้
.
หวังว่าจะเก็ตไอเดีย ลองมาแลกเปลี่ยนกันได้ กดติดตามแล้วไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา