23 ส.ค. 2021 เวลา 06:51 • นิยาย เรื่องสั้น
หนองต้องสาป
" สวัสดีคุณผู้ชมทุกท่านนะครับ วันนี้กลับมาพบกับพวกเราอีกเช่นเคยกับรายการ Horor Legent  รายการที่จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับตำนานเรื่องเล่าอันลึกลับสยองขวัญ ไม่ว่าจะเป็นสถาณที่ พิธีกรรม ความเชื่อที่คุณผู้ชมได้แนะนำกันเข้ามานะครับ และวันนี้เรามากันที่ไหนนะครับพี่บอล "
ชายหนุ่มหน้าสวยในลุคพระเอกซีรี่เกาหลี กล่าวเปิดแล้วหันไปส่งต่อให้กับผู้ดำเนินรายการร่วม
"ครับพี่กันต์ วันนี้พวกเราชาว Horor Legent ก็มาอยู่กันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดแถบภาคเหนือตอนบน เป็นสถาณที่ที่ท่านแฟนคลับแนะนำกันเข้ามา แต่เราขอไม่ระบุชื่อละกันนะครับ ถ้าอยากรู้จริงๆ คุณผู้ชมสามารถไปตามดูคอมเมนต์จากคลิปเก่าๆ ของพวกเราได้ และก็อย่าลืมก่อนชมคลิปนี้ช่วยกดไลก์ กดซับสไครบ์เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเรากันด้วย  "
บอลชายหนุ่มผิวสีแทนผมทรงสกินเฮดที่เป็นผู้ดำเนินรายการร่วมรับลูกอย่างรู้ใจ
"แล้วตอนนี้นะครับพวกเราก็อยู่กับผู้ใหญ่บ้านที่นี่ ผู้ใหญ่หน่อ สวัสดีครับผู้ใหญ่ " ผู้ดำเนินรายการทั้งสองยกมือไหว้
คนทั้งสามนั่งบนแคร่ไม้เก่า ใต้ร่มไม้มะขามห่างจากตัวบ้านออกมาเล็กน้อย ผู้ใหญ่บ้านในชุดผ้าทอมือแบบปกาเกอะญอยกมือรับไหว้ แต่แกแสดงท่าทางไม่ค่อยสบายใจพยายามหันหน้าหนีกล้องอยู่เรื่อย จนทั้งบอลและกันต์ต้องช่วยบอกว่าตอนตัดต่อจะเซ็นเซอร์ให้ ผู้ใหญ่บ้านถึงค่อยมีท่าทีผ่อนคลายลง โดยมีหนุ่มเคราดกผมยาวเกล้ามวยเป็นช่างกล้องถ่ายทำ เซ็ตมุมกล้องเสร็จก็หันไปควานหาบุหรี่จุดสูบที่ไกลออกไป
" ลุงผู้ใหญ่ช่วยเล่าประวัติความเป็นมาและตำนานเรื่องราวความลึกลับเกี่ยวกับสถาณที่ที่เราจะไปให้ให้หน่อยครับ "
กันต์ยิงคำถามอย่างชำนาญเพราะเคยทำคลิปวีดีโอคอนเทนต์ลักษณะนี้มานับสิบ ๆ ครั้งแล้ว
ผู้ใหญ่บ้านหัวคิ้วขมวดมุ่นหันหน้าไปทางป่าทึบที่มองเห็นอยู่ไกลๆ แกหลับตาเหมือนกำลังเรียบเรียงเรื่องราว ใบหน้าคล้ำกร้านแดดปรากฏรอยเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด
" ชื่อหมู่บ้านนี้ตั้งตามชื่อหนองน้ำที่พวกคุณจะไป ชาวบ้านเรียกมันว่าหนองกา ชื่อของมันก็มาจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสี่สิบปีก่อน "
แกพูดอธิบายง่ายๆ ด้วยสำเนียงแบบชาวป่าชาวดอยที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง หยุดเว้นวรรคเล็กน้อยจิบเครื่องดื่มกลิ่นแรงจากกระบวยที่ทำจากกะลามะพร้าวนิดหนึ่งจึงกล่าวต่อ
"ชาวบ้านที่นี่แต่เดิมเป็นคนจากหมู่บ้านตีนผาเมื่อคนเยอะขึ้นที่ทำกินน้อยลงคนก็มาเริ่มหักร้างถางพงเอาที่นี้ตั้งหมู่บ้านใหม่ แล้วก็เริ่มถากถางที่ทำกินกันไปรอบๆ ผ่านไปสองสามปีจากคนเจ็ดแปดคนก็เพิ่มขึ้นมาเป็นสี่ห้าสิบ ส่วนใหญ่ก็ปลูกผักเลี้ยงวัวหาของป่าอยู่กันมาเรื่อยตามมีตามเกิดไม่เคยคิดจะตั้งมันหรอกชื่อหมู่บ้าน จนเกิดเหตุการณ์น่ากลัวครั้งนั้น บ้านเราจึงมีชื่อเรียก"
" เหตุการณ์น่ากลัวยังไงครับลุงผู้ใหญ่ "
บอลตากระจ่างวูบรีบยิงคำถามเข้าเรื่องทันที
แววตาผู้ใหญ่หน่อหม่นหมองลง เหม่อมองออกไปไกลอย่างเลื่อนลอย
" นานมาแล้วเมื่อตอนฉันยังเป็นเด็กอายุสักแปดเก้าปี พ่อฉันเป็นผู้ใหญ่บ้าน หลังตะวันตกดินมีชาวบ้านมาแจ้งว่าวัวหาย หายไปทั้งฝูงเลยสิบกว่าตัว สงสัยว่าจะถูกขโมย พ่อของฉันจึงเรียกเหล่าผู้ชายในหมู่บ้านพากันออกตามรอยตีนมัน "
" สมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้านะคุณต้องอาศัยจุดใต้กัน จุดกันหลายๆ คนยามกลางคืนก็พอสว่างบ้าง "
" ตอนนั้นชาวบ้านที่นี่หนะ พึ่งมาตั้งหมู่บ้านกันใหม่ยังไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร เห็นรอยตีนมันมุ่งไปทางป่าเขาก็ตามกันไป ตามจนเห็นรอยเท้ามันชัดขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าพื้นดินมันแฉะตามจนรอยตีนมันหายลงน้ำไป ชาวบ้านทั้งหมดก็พยายามตามเดินลุยน้ำก็ไปกัน ใต้มันมองไปได้ไม่ค่อยไกลเราเลยไม่รู้ว่าที่ที่เรากำลังเดินไปมันเป็นหนองน้ำ "
แกจิบเครื่องดื่มจากกระบวยอีกครั้งหน้าตาเหยเก ขยำใบมะขามอ่อนที่พึ่งรูดมาตามเข้าปากไป
"พ่อฉันหันมาบอกกับทุกคนว่าดึกแล้ว และคิดว่าวัวคงไม่ลงลุยน้ำลึกไปทางนี้จึงชวนทั้งหมดกลับไปตั้งต้นหาใหม่ทุกคนก็เห็นพ้อง พวกเราหันหลังกลับกันได้เพียงสองสามก้าวก็แว่วเสียงวัวร้อง ร้องแปลก ๆ เหมือนโดนทำร้าย ทุกคนกระชับมีดพร้าในมือมั่น พ่อฉันถือปืนด้วยเป็นปืนแบบโบราณที่ต้องยัดดินปืนเองหนะ รู้จักกันใช่มั้ยคุณ"
ว่าแล้วก็ชี้ไปยังฝาบ้านแกไกล ๆ ที่แขวนไว้ด้วยปืนไทยประดิษฐ์แบบโบราณที่ชาวป่าชาวดอยมีไว้ใช้เพื่อล่าสุดและป้องกันตัว เด็กหนุ่มทั้งสองมองตาม อย่างสนอกสนใจ
" พ่อผลักเบาๆ ให้ฉันเดินย้อนไปหาปู่ทางด้านหลังสุด แล้วค่อยเดินลึกกลับเข้าไปกับคนทั้งหลาย คราวนี้เราย่องไปอย่างช้าๆ และเงียบ เสียงวัวยังร้องอยู่เป็นระยะ ไอ้คนที่วัวหายก็ร้อนใจคอยเร่งทุกคนแต่พ่อฉันจุ๊ปากบอกให้เงียบ "
"เสียงวัวเริ่มดังมากขึ้นจากหนึ่งตัว เป็นสองตัวสามตัว ดังขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดจึงเริ่มวิ่งตะลุยไป ตอนนั้นน้ำลึกถึงถึงเอวฉันแล้ว เสียงของนกหนูแมลงกบเขียดแมลงกลางคืนกลายเป็นเงียบไป เสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น"
กันต์ที่นั่งถูมืออย่างกระหายใคร่รู้ ถามโผล่งขึ้นตั้งแต่หางเสียงผู้ใหญ่หน่อยังไม่จางว่า เสียงอะไร
" เสียงอีกา "
ผู้ใหญ่พูดสั้น ๆ คำเดียวก็กระดกน้ำในกระบวยอีกรอบ เสียงดังอึกคำใหญ่กว่าครั้งก่อน
" พวกคุณรู้แล้วว่าที่นี่เรียกว่าหนองกาอาจจะไม่แปลกใจ แต่ตอนนั้นพวกเราทั้งหมดไม่รู้ ไม่มีใครรู้ว่าที่นี่เป็นหนองไม่มีใครรู้ว่าที่นี่มีฝูงกา เสียงพวกมันดังระงมขึ้นเรื่อยๆ ฉันกลัวมากกอดปู่แน่นบอกปู่ไม่ให้ตามไป ปู่ฉันจึงหยุดยืนอยู่ที่เดิม คนทั้งหมดก็เดินไกลไปเรื่อยๆ "
"ฉันไม่กล้ามอง กอดปู่ไว้แน่นได้ยินเสียงพึมพำเบาๆ จากปากของแก เพียงชั่วอึดใจก็ได้ยินเสียงปืนดังลั่นป่าฉันเหลียวหน้ามองโดยสัญชาตญาณเห็นกลุ่มแสงไฟจากใต้เตลิดกลับมา เสียงวัวร้องโหยหวนดังกว่าเดิม เสียงคนลุยน้ำ เสียงเอ็ดตะโรสับสนวุ่นวายไปหมด แต่ก็ยังไม่ดังเท่าเสียงหนึ่ง"
"เสียงอีกา" คราวนี้เป็นบอลโพล่งขึ้นบ้าง
"ใช่ " ลุงผู้ใหญ่ตอบพร้อมกระดกกระบวยจนหมด กลิ่นฉุนแรงของเหล้าป่าฟุ้งกระจายทั่ว หน้าแกเริ่มแดง
" ดังมากดังเสียจนฉันคิดว่าไม่มีเสียงใดดังได้กว่านี้อีก " แกพูดทื่อ ๆ แต่แววตาดูหวั่นไหว
" เป็นเสียงอีกาที่ร้อง ก๊า พร้อมกันเป็นพันเป็นหมื่นตัว ดังจนฉันตาลายจากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป"
"เรื่องราวหลังจากนั้นเป็นยังไงครับ "
กันต์สงบสติอารมณ์ได้ก่อนถามขึ้นบ้าง
ผู้ใหญ่หน่อถอนหายใจกล่าวต่อว่า
"คนไม่มีใครเป็นอะไรทั้งนั้น มีเพียงแผลถลอกปอกเปิกจากการบุกตะลุยหนอง "
"ในวงข้าวตอนเช้าปู่ถามพ่อ พ่อค่อยบอกออกมาแต่แกก็เล่าด้วยความไม่แน่ใจ เพราะมืดมากหลังอาหารเช้าจึงจะชวนทุกคนกลับไปดูให้แน่ใจอีกครั้ง "
" พ่อของลุงผู้ใหญ่เห็นอะไรครับ" คราวนี้กลับเป็นเสียงของตากล้องที่สงบปากสงบคำมาโดยตลอดถามขึ้นบ้าง ทุกคนจึงหันกลับมามอง ลุงผู้ใหญ่กลอกตาไปมองแวบหนึ่งก็กล่าวต่อ
"พ่อฉันบอกกับปู่ว่าภาพที่เห็นอย่างเลือนลางคือวัวถูกอีกาจิกกินเนื้อทั้งเป็นร้องโหยหวนอย่างทรมาน แต่พ่อฉันกลับพูดย้ำอย่างน่าสนใจว่าเขาไม่รู้สึกว่ามันคืออีกา มันแปลกออกไป และประโยคสุดท้ายที่ออกจากปากพ่อก่อนลุกจากขันโตกคือ มันใหญ่เกินกว่าจะเป็นอีกา"
"เช้าวันถัดไปพ่อระดมชาวบ้านตามรอยไปทางหนองน้ำ ไปกันสี่ห้าสิบคนทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กทั้งผู้หญิง ด้วยความเร่งรีบก็ไม่ได้ทำแพไม้ ทุกคนเดินลุยน้ำกันไป ส่วนผู้หญิงกับเด็กยืนออกันอยู่ริมหนองฉันเป็นเด็กคนเดียวที่ตามปู่ลงหนองไป "
" หนองน้ำนี้กว้างใหญ่มากฉันก็บอกไม่ถูกว่ามันกว้างใหญ่สักเท่าใด ระดับน้ำลึกสุดถึงเอวพวกผู้ชายตัวใหญ่ มีป่าอ้อกอแขมขึ้นประปรายบดบังสายตาไม่อาจจะมองเห็นได้ไกล ตอไม้ใหญ่ผุพังหักโค่นอยู่เป็นระยะ พอเดินไปถึงกลางหนองค่อยมองเห็นอีกฝั่งได้รำไร อีกปลายหนึ่งมองเห็นเป็นเนินดินเล็กๆ กลางเนินมีศาลไม้ผุเก่าตั้งอยู่ใต้ศาลมองเห็นเป็นแผ่นดินสีดำ ทุกคนหยุดไม่มีใครกล้าเดินไปต่อ "
" ใครไปสร้างไว้ตรงนั้นละครับ ก็ผู้ใหญ่บอกว่าหมู่บ้านนี้พึ่งตั้งมาได้ไม่นาน "
บอลถามด้วยสีหน้าฉงน
"ตอนนั้นฉันคิดว่าทุกคนก็คงมีคำถามนี้ในใจเหมือนกัน แต่ใครจะตอบได้"
"พ่อทำไม้ทำมือเป็นสัญญาณให้เงียบและหยุด ตัวแกค่อยๆ เดินนำหน้าไปกับพวกสองสามคน พวกที่อยู่ข้างหลังก็กระชับมีดพร้า จอบขวาน  กลัวก็กลัวอยากรู้ก็อยากรู้แม้จะเริ่มเดินถอยแต่สายตาฉันยังจับจ้องศาลไม้ที่ตรงนั้นอยู่ "
"พวกเราถอยกันไวขึ้นเรื่อยๆ จากค่อยๆ สืบเท้าก็เริ่มเดินเร็วจนใกล้จะพ้นริมหนองก็เริ่มวิ่ง ฉันมองเห็นไกลๆ ว่าพ่อทำมือบอกให้ทุกคนเบาๆ แต่คนหลายสิบคนนะครับพอวิ่งตะลุยทั้งเสียงทั้งคลื่นน้ำก็กระจายไปรอบ กระทบกับขอนไม้ผุบ้างกอหญ้าบ้างจนที่สุดคลื่นน้ำก็เลยจากจุดที่พวกพ่อแกยืน น้ำกระเพื่อมไปปะทะเข้ากับชายฝั่งที่ศาลไม้นั้น"
"ทันทีนั้นเองแผ่นผืนสีดำใต้ศาลก็แตกฮือขึ้น เผยให้เห็นซากโครงกระดูกที่พวกมันตอมอยู่ มันเยอะมากเสียงบินของมันดังกระหึ่มไปทั่ว พวกมันลอยขึ้นก่อตัวเป็นก้อนแล้วพุ่งเข้าใส่กลุ่มพ่อของฉันอย่างรวดเร็ว เสียงร้องเสียงเอ็ดตะโรดังลั่นสับสนไปหมด ปู่คว้าข้อมือฉันออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แต่ฉันยังคงเหลียวกลับไปมอง"
ผู้ใหญ่หน่อหยุดเว้นวรรค ก้มลงมองกระบวยที่ว่างเปล่า ไม่มีใครถามแทรกขึ้นมาอีกเกิดความเงียบขึ้นมาอย่างประหลาด
"ฝูงกาที่แตกฮือนั่นไล่จิกตีผู้คนในหนองอย่างบ้าคลั่ง พวกเราที่ออกวิ่งก่อนถึงฝั่งแล้ว บางคนหากิ่งไม้ก้อนหินขว้างปากลับไปหมายไล่ฝูงกา แต่กลับตกใส่พวกเดียวกันที่ยังวิ่งมาไม่ถึงจนหัวร้างข้างแตก อีกสี่ห้าสิบก้าวจะถึงฝั่งแล้วแต่มีคนหนึ่งผลัดตกหลุมในหนอง ทรุดฮวบหายไป ทุกคนตกใจกันมากเสียงผู้หญิงเริ่มกรีดร้อง พ่อฉันวิ่งรั้งท้ายเห็นคนพลัดหายไปก็วิ่งเข้าหามือซ้ายกระชากแขนมันขึ้นมาจากหล่มหนองอย่างทุกลักทุเล"
"ถึงตอนนี้เหลือเพียงกลุ่มของพ่อฉันสามคนที่ยังเหลืออยู่ในหนอง เห็นว่าใกล้ฝั่งมากแล้วคนทั้งสามก็ออกวิ่งอย่างสุดแรงเสียงน้ำกระเซ็นซ่านเสียงกรีดร้องยังดังระงม  หญิงคนหนึ่งที่ยืนริมฝั่งชี้มือขึ้นฟ้ากรีดร้องสุดเสียงแล้วล้มพับไปทุกคนหันไปมองตามมือเธอ เสียงร้องที่หวีดแหลมแต่ดังสะท้านไปทั่วเหมือนจะฉีกกระชากตัวฉันจนขาดเป็นชิ้นๆ ฉันจำเสียงนี้ได้ดีเพราะมันพึ่งผ่านมาแค่คืนเดียวตอนนี้เห็นตัวมันแล้ว ตัวมันใหญ่เท่าวัว หัวเท่าหม้อข้าว ตามันดำสนิทแต่จงอยปากที่อ้าออกแดงฉ่ำไปด้วยเลือด"

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา