Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Jitn
•
ติดตาม
24 ส.ค. 2021 เวลา 00:00 • นิยาย เรื่องสั้น
หนองต้องสาป (จบ)
อาการสะอึกสะอื้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แพสั่นไม่หยุดน้ำในหนองเกิดคลื่นกระเพื่อมตีวงออกไปอย่างต่อเนื่อง เสียงผู้ใหญ่เปลี่ยนไป รูปร่างผู้ใหญ่ก็เปลี่ยนไปสองเท้าที่เปลือยเปล่าตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำสนิทนิ้วเท้าแยกเป็นแฉกสามแฉก ใต้กางเกงม่อฮ่อมครึ่งแข้งกลายเป็นเกล็ดซ้อนทับสลับกัน ไม่ค้ำถ่อร่วงลงจากมือผู้ใหญ่หรือจะเรียกให้ถูกตอนนี้ต้องเรียกว่าปีกเพราะตอนนี้มันเต็มไปด้วยขนสีดำแผ่เต็มใต้วงแขน ลุงผู้ใหญ่เงยหน้าขึ้นมาเห็นลูกตาดำสนิท หน้าหดเล็กลงเหมือนเด็กอายุสี่ห้าขวบแต่กลับมีริ้วรอยเต็มใบหน้าคล้ายคนแก่วัยใกล้ร้อย
ลุงผู้ใหญ่ที่ตอนนี้ไม่ใช่ลุงผู้ใหญ่แล้วแต่เป็นสิ่งมีชีวิตอันแปลกประหลาดร่างกายเป็นนกขนดำหยาบไปทั้งตัวส่วนหัวกลับเป็นเด็กหน้าแก่ มันส่งเสียงหัวเราะร่ำไห้และกู่ร้องสลับกันอย่างประหลาด เด็กหนุ่มทั้งสามมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชั่วอึดใจนี้อย่างตะลึงงันพูดอะไรไม่ออก ขวัญวิญญาณแทบหลุดจากร่าง สัญชาติญาณบอกให้ทั้งหมดถอยมานั่งรวมกันด้านตรงข้ามกับอมนุษย์ตนนั้น
พอสมือซ้ายยังถือกล้องมั่นส่วนมือขวาล้วงกระเป๋าสะพายหยิบเอาแท่งทรงกระบอกสีดำยกขึ้นเหนือหัวกดสวิตช์แสงขาวสะอาดกำลังสูงส่องต้องร่างอมนุษย์ครึ่งอีกานั้นอย่างจัง หน้าตาของมันบูดเบี้ยวคล้ายไม่ชอบแสงอยู่บ้างสะบัดปีกกู่ร้องเสียงพิกลโผบินขึ้นบนฟ้าพุ่งไปยังอีกฝากของหนองน้ำ
แพไม้เมื่อถูกน้ำหนักกดฝ่ายเดียวก็พลิกคว่ำลงคนทั้งสามหล่นลงน้ำเสียงดังตูม เสียงอีกาเสียงหัวเราะร้องไห้ดังระงมขึ้นมาในทันที ทั้งสามทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือผิวน้ำอย่างรวดเร็วหันรีหันขวางพยายามมองหาทางริมฝั่งที่ลงมา โชคดีที่ไฟฉายของพอสแม้เปียกน้ำแต่ก็ยังใช้ได้พอแสงส่องไปกระทบป้ายบนเนินดินเล็กๆ ทุกคนก็รู้ได้ทันทีขยับออกวิ่งพร้อมกัน
ระดับน้ำแม้จะลึกแค่อกแต่ด้วยความที่ทุกคนไม่ได้เตรียมตัวที่จะตกน้ำสภาพจึงย่ำแย่ยิ่ง การลุยน้ำเป็นไปอย่างเชื่องช้าต่างกับหัวใจของพวกเขาที่เต้นเร็วจนแทบจะกระดอนออกมาจากอก ใบอ้อกอหญ้าบาดตามใบหน้าแขนขายามแหวกผ่าน เศษกิ่งไม่ใต้น้ำก็เหมือนมีใครจงใจทิ่มแทงใส่แข้งขาของพวกเขา คนยามหวาดกลัวตื่นตระหนกย่อมไม่สนใจบาดแผลเล็กน้อยอันใด เลือดไหลซึมจากแข้งขาใบหน้าของทุกคนคราบสีแดงเปรอะเปื้อนเนื้อตัว พอออกมาได้ระยะหนึ่งระดับน้ำลดลงเหนือแค่เอวคนทั้งสามจึงวิ่งได้ไวขึ้น แต่แล้วก็มีเสียงตูมดังสนั่นจากด้านหลังคล้ายมีอะไรหล่นลงน้ำ คนทั้งสามไม่ยอมหันไปมองออกวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเป้าหมายอยู่ที่ป้ายไม้บนกองดินเล็กๆ ริมฝั่ง
กลิ่นสาบสางปนกลิ่นโคลนตมและกลิ่นเหม็นเขียวพัดมากระทบจมูกชวนคลื่นเหียนแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา กันต์ที่รั้งท้ายรู้สึกถึงอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำก่อกวนจนเกิดกระแสน้ำประหลาดคอยรั้งดึงให้พวกเขาเคลื่อนที่ได้ช้าลง จึงตะโกนบอกให้เพื่อนระวังใต้น้ำ บอลที่วิ่งอยู่ทางขวาได้ยินไม่ชัดเจนจึงหันกลับมา พริบตานั้นเอง ผลุบ! กันต์จมหายไปในน้ำเหมือนคนเดินตกท่อระบายน้ำในเมืองกรุงลับหายไปจากสายตา บอลหยุดเอี้ยวตัววิ่งกลับมาควานหาเพื่ออย่างรวดเร็ว พอสก็หยุดหันกลับมาคิดจะช่วยเพื่อน
พอแสงไฟสาดวกกลับมาภาพที่เห็นคือสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ตัวเท่าท่อนซุงคาบกันต์ที่ร้องโหยหวนสะบัดตัวพุ่งขึ้นเหนือน้ำคนทั้งสองเงยหน้ามองตามเส้นสายสีเหลืองนวลวาบข้ามหัวคนทั้งสองไป ร่างของกันต์ลอยคว้างกลางอากาศเสียงร้องหวีดแหลมดังขึ้นอีกายักษ์ซึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหนพุ่งโฉบเอาร่างของกันต์บินหายไป บอลช็อกจนยืนปากอ้าตาค้างคิดกรีดร้องก็ร้องไม่ออก พอสกระชากชากแขนบอลออกวิ่งต่ออย่างรวดเร็ว
สภาพโดยรอบตอนนี้มือมัวลงมากทิศทางที่วิ่งไปเริ่มสะเปะสะปะ ไฟฉายส่องไปไม่ถึงป้ายไม้เก่าแล้วคนทั้งสองวิ่งไปตามสัญชาติญาณ ระดับน้ำลดลงเหลือแค่ครึ่งขาพอสยังฉุดดึงมือบอลวิ่งอย่างทุลักทุเล เสียงลมกระพือปีกดังขึ้นข้างหลังมาติดๆ กลิ่นสาบสางครอบคลุมไปทั่วบอลที่ตอนนี้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่ได้สนใจว่ามีอะไรตามมาข้างหลัง พอสเหลียวไปมองสัตว์ปีกขนาดใหญ่พุ่งโฉบลงมาเขาเห็นว่าคงวิ่งไม่ทันจึงผลักบอลไปอีกทางตัวเขาก็พุ่งล้มไปอีกทาง เสียงลมพุ่งโฉบผ่านไปอย่างเร่งร้อนก่อนที่เขาจะล้มโครมลงในน้ำ เขารีบยันตัวเองกลับขึ้นมาทันทีแล้วฉายไฟไปโดยรอบแต่ไม่เห็น บอลเขายืนนิ่งความเงียบเข้าปกคลุมหนองน้ำนี้อีกครั้งแสงไฟกราดไปรอบตัวแต่ไม่พบเห็นอะไร
แวบหนึ่งตรงมุมสายตานั้นเขาคิดว่าเขาเห็นมือชูโผล่ขึ้นพ้นน้ำ เขาปรับลำไฟฉายให้จี้ตรงไปกลับเป็นกิ่งไม้ที่ผุดขึ้น ยิ่งฉายไฟมองไปโดยรอบยิ่งเห็นกิ่งไม่ลักษณะนี้อยู่เต็มไปหมด มันคล้ายมือคนที่ยื่นมือขอความช่วยเหลือครั้งสุดท้าย น้ำตาเขาไหลอาบหน้าเพื่อนรักสองคนหายไปต่อหน้าต่อตา เขาร้องไห้อย่างเงียบงันไม่ยอมส่งเสียงใดๆ เพราะเขาคิดว่าการส่งเสียงไม่เกิดประโยชน์ซ้ำร้ายอาจจะชักนำอันตรายมาสู่เขา
มือขวาคลำไปที่คอพบกล้องถ่ายวีดีโอที่ใส่สายคล้องคอไว้จึงได้สติ หลักฐานทั้งหมดในวีดีโอนี้ต้องถูกเผยแพร่ พอคิดได้เขาก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปอย่างแผ่วเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตอนนี้ระดับน้ำเหลือแค่เข่าการเดินจึงง่ายขึ้นมากเขาหรี่แสงไฟฉายลงเล็กน้อยเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ อาการเจ็บปวดเริ่มประเดประดังเข้ามาเขาก้มลงมองชายโครงที่เสื้อฉีกหลุดรุ่ยส่องไฟดู เห็นชายโครงมีแผลฉกรรณ์เลือดซึมออกไม่หยุด พอสรวบชายเสื้อขึ้นค่อยๆ ประกบพอกระทบถูกบาดแผลก็ทำหน้าเหยเกส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
แผ่นป้ายไม้หลุมศพของส่างปีพอมองเห็นได้รำไร พอสเดินอย่างระมัดระวังกวาดไฟฉายไปรอบตัวไม่มีความเคลื่อนไหวใดมองเห็นเพียงม่านวิกาลอันไร้ที่สิ้นสุด เขาค่อยๆ พยุงร่างอันสะบักสะบอมขึ้นมาถึงริมฝั่งหนอง ค่อยๆ เดินลัดเลาะไปตามทางเมื่อขามาผ่านแนวป่าโปร่ง ลัดเลาะป่าทึบถูกไม้หนามเกี่ยวจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล น้ำตายังคงไหลอาบหน้าพอไฟฉายกระทบกับกระบะสี่ประตูโฟร์วีลสีขาวใจค่อยชื้นขึ้น เดินแบกสังขารมาจนถึงรถทรุดนั่งลงพิงล้อรถอย่างหมดแรง ใบหน้าซุกกับสองมือสะอึกสะอื้นไห้
เขาค่อยๆ รวบรวมสติเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หยิบกล้องขึ้นมาเปิดดูพยามยามใช้เสื้อบริเวณที่คิดว่าเปียกน้อยที่สุดเช็ดจอ ฉากแรกของการถ่ายทำปรากฎขึ้นเขาเพ่งตามองอย่างละเอียด สิ่งที่เห็นทำให้เขาต้องอุทานเบาๆ ภาพของผู้ใหญ่ที่ถูกถ่ายทำช่วงแรกตอนที่เขานั่งคุมกล้อง เผยให้เห็นดวงตาสีดำสนิทและใบหน้าที่ประหลาดผิดรูป เสียงที่ถูกบันทึกก็เป็นเสียงกีๆ กาๆ ฟังไม่ได้ศัพท์ เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ใหญ่มีท่าทีไม่สบายใจ ทำไมถึงส่งสัญญาณขอบรั่นดีกับเขาบ่อยๆ ก็เพราะไม่อยากให้เขามองผ่านกล้องวีดีโอนั่นเอง
พอสพยุงร่างลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง กุญแจรถดอกจริงอยู่ในกระเป๋ากางเกงของบอลอีกอันนึงอยู่ในกระเป๋าสะพายของเขาเอง เขาฉายไฟก้มมองล้วงมือลงไปในกระเป๋าเพื่อควานหา แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่ลูกกุญแจแต่เป็นเท้าคู่หนึ่ง
เท้าเรียวยาวสีม่วงคล้ำเหี่ยวแห้งผิดปกติ ยืนประชิดติดกับเท้าของเขาห่างเพียงคืบเดียว เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็วและนั่นทำให้หัวใจเขาตกวูบลง ภายใต้แสงสลัวของไฟฉายมีบางอย่างยืนอยู่ หูตาจมูกปากของมันเล็กจิ๋วเหมือนเด็กอายุสามสี่ขวบ แต่กลับวางไว้บนใบหน้าของคนแก่หนังเหี่ยวอายุคราวทวด ผมแห้งกรอบกระเซิงยาวพ้นบ่า ร่างกายสีม่วงคล้ำเปลือยเปล่าท้องนูนป่อง สองแขนสองขาลีบเล็ก แขนยาวถึงเข่า ช่วงขากลับสั้นเท่าคืบ
ต่างฝ่ายต่างจ้องกันอย่างตะลึงงัน มันแสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันแหลมเล็กคล้ายฟันปลาขึ้นอยู่เต็มปาก พอสบตากับมันพอสเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด ร่างพลอยแข็งทื่อไปความคิดอ่านไม่ปราดเปรียวเท่ายามปกติ มันเอี้ยวตัวยกแขนขึ้นนิ้วมือเรียวยาวกำรวบไม้ท่อนหนึ่งซึ่งใหญ่กว่าแขนของมันเป็นสามเท่า ฟาดใส่ศีรษะของพอสอย่างจัง หัวเขาถูกไม้ฟาดใส่กระเด้งไปติดประตูรถ ความรู้สึกกลับคืนมาความเจ็บปวดแล่นจู่โจมที่ท้ายทอยอย่างรุนแรง หน้าผากโขกกับกระจกรถเลือดไหลอาบหน้า ร่างเขาทรุดลงแต่ยังพยายามออกวิ่งอีกครั้ง
ก้าวขาได้เพียงสองเก้าก็ต้องก้มลงกุมข้อเท้าอย่างเจ็บปวด ไม้ท่อนเดิมกวาดฟาดมาอย่างแม่นยำ เขากระดิกเท้าไม่ได้คิดว่ากระดูกคงหักไปแล้ว เขาร้องครวญครางอย่างหวนโหย น้ำหูน้ำตาไหลอย่างไม่อาจข่มกลั้น ไฟฉายกลิ้งตกไปทางไหนไม่รู้แต่ยังพอมีแสงสาดส่องมาลางๆ อมนุษย์นั้นยกท่อนไม้ขึ้นอีกครั้งฟาดลงยังขมับของเขา สติสัมปชัญญะเลือนลางเต็มทีสายตาคล้ายจะดับวูบลงทุกเมื่อ ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือแสงไฟหลายจุด เสียงสุดท้ายที่เขาได้ยินคือเสียงกรีดร้อง...
จบ...
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
หนองต้องสาป
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย