คุณนั่งวันละกี่ชั่วโมงครับ? คุณอาจกำลังทำร้ายตัวเองรึป่าว?
ในยุคนี้ การนั่งกินเวลากว่าครึ่งวัน เรานั่งมากกว่าวันละ10-12 ชั่วโมง หรืออาจะนานกว่านี้ด้วยซ้ำในบางคน ลองมาฟัง "การนั่งที่อาจทำร้ายตัวเองดูไหมครับ"
ลองมาเช็คพฤติกรรมการนั่งของเรากันดูหน่อยดีไหมครับ
การนั่งบนเก้าอี้ หลายคนนั่งแบบนี้ แต่อาจจะนั่งผิดท่าจนอาจเกิดความเสียหายกับกล้ามเนื้อบางจุดที่ต้องทำงานเป็นเวลานานและกระดูกสันหลังที่ต้องรับภาระจากน้ำหนักตัว
การนั่งบนเก้าอี้ที่ถูก จะต้องนั่งโดยให้เขาและข้อเท้า ทำมุมฉากหรืออาจยกปลายเท้าขึ้นได้นิดหน่อย เพื่อให้น้ำหนักตัวกระจายไปทั่วๆไปกดอยู่ที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง
ลำตัวยืดขึ้น ไม่แอ่นไปด้านหน้าหรือค้อมไปด้านหลัง เพราะจะสร้างภาระให้หมอนรองกระดูก เกิดการกดทับเส้นประสาท ปวดหลังและชาลงขาได้
นี้คือภาพกระดูกสั้นหลังที่ปกติของเรานะครับ สังเกตว่าจะมีความโค้งไม่ได้ตรงเหมือนที่บางคนเข้าใจผิด
ไม่พยายามยกไหล่สูงในการทำงาน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อทำงานหนัก เกิดการปวดบ่าและไหล่ได้ และพยายามสังเกตว่าตัวเองห่อไหล่มาด้านหน้ารึป่าว เพราะนั้นคือสาเหตุที่ทำให้คอยื่นตามมาได้
กล้ามเนื้อทั้งร่างกายของเราทำงานสัมพันธ์กัน การปวดที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งอาจหมายถึงปัญหาที่ส่วนอื่นๆของร่างกายด้วย
ลักษณะที่มักพบคือ การนั่งโต๊ะที่ต่ำหรือสูงเกินไป ซึ่งทำให้เราต้องก้มลงในกรณีที่โต๊ะอยู่ต่ำ หรือ ต้องยกไหล่ขึ้นในกรณีที่โต๊ะสูงเกินไป ทั้งสองแบบนี้นำไปสู่การปวดบริเวณ คอ บ่า ไหล่ เพราะกล้ามเนื้อมัดเดิมถูกใช้งานนานๆ และเริ่มเกิดการล้า
ความสูงของโต๊ะควรสูงแค่เราสามารถวางแขนในลักษณะข้อศอกตั้งฉากได้ เพื่อกระจายน้ำหนัก ป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อมัดใดมัดหนึ่งถูกใช้มากเกินไป
อีกข้อซึ่งมักเกิดตามมาคือ เมื่อเราเริ่มรู้สึกเมื่อยเราก็จะเริ่มหาท่าที่นั่งสบายขึ้น อาจนั่งพิงพนักในลักษณะหลังค้อม การก้มตัวลงมากขึ้น บางคนถึงขั้นปล่อยตัวไหลไปเลย ซึ่งให้ความรู้สึกสบายก็จริง แต่ คุณกำลังสร้างภาระชิ้นใหม่ให้กับกระดูกสั้นหลัง โดยหมอนรองกระดูกสั้นหลังทำหน้าที่รับแรงกระแทกและแรงกดทับจากน้ำหนักของตัวเรา การนั่งหลังค่อมคือการสร้างแรงกดทับที่หมอนรองกระดูกสันหลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันมักสบายจนลืมเวลาไปเลย รู้ตัวอีกที อาการเมื่อยอาจะเปลี่ยนเป็นอาการปวดที่บริเวณหลังและเอวแทนแล้ว
ท่าเล่นโทรศัพท์หรือการก้มอ่านหนังสือของเราก็คือวายร้ายกับเราอีกเช่นกัน เพราะเรามักก้มคอต่อนเนื่องเป็นเวลานาน หรืออาจนั่งหลังค้อมเพื่อให้เล่นได้นานขึ้นโดยไม่เมื่อยคออีกด้วย จริงอยู่ว่าที่เราไม่เมื่อยเพราะกล้ามเนื้อเราได้พัก แต่การพักนั้นก็สร้างภาระให้กระดูกสันหลังอย่างมาก
การนั่งไม่พิงพนักเก้าอี้ก็ทำให้ปวดเอวได้เหมือนกัน เพราะ น้ำหนักถูกกดที่ด้านหน้ามากเกินไปกล้ามเนื้อสะโพกถูกกดลง ทำให้ปวดที่เอวตามมานั้นเอง การพิงพนักเก้าอี้ควรหาอะไรมาดันหลังส่วนเอวนิดหน่อย เพื่อให้กระดูกสันหลังอยู่ในท่าที่ควรจะอยู่
และสิ่งที่อาจะควบคุมได้ยากที่สุกก็คือขาและเท้าของเรานี้แหละครับ หากนั่งไขว้ขานานๆจะเกิดการยกตัวของสะโพก กระดูกสันหลังจึงคด แล้วก็ปวดหลังในที่สุด การเอาเท้าเหยียบล้อเก้าอี้ การเอาเท้าห้อยไปข้างหลัง
การนั่งขาลอย ซึ่งการนั่งขาลอยและการนั่งจนขาติดเก้าอี้ จะทำให้เกิดการกดทับของเส้นเลือดใหญ่ที่ขาหนีบ การไหลเวียนเลือดจึงถูกขัด อาจเกิดลิ่มเลือดและความดันเลือดที่มากขึ้นตามมาได้
(การยื่นคอมองจอคอม) + (การนั่งที่ผิดท่า)=การหายใจได้ลำบากขึ้น
เพราะ การบวนการหายใจของเราถูกจำกัดเนื้อที่ในการทำงาน ซี่โครงไม่สามารถยกตัวได้เต็มที่ และ กระบังลมเองก็ทำงานได้น้อยลง ส่งผลให้ปริมาตรอากาศที่ได้ต่อการหายใจเข้า 1 ครั้ง
ลดลง หายหายใจถี่ขึ้น กล้ามเนื้อต้องทำงานหนักกว่าเดิม มีโอกาศที่หัวใจเองก็ทำงานหนักไปด้วย
หากสนใจหัวข้อไหนเป็นพิเศษสามารถกดอิโมจิไว้ได้นะครับ ผมจะมาอธิบายเพิ่มเติมให้ลึกลงไปอีก วันนี้ขอให้ทุกคนลองปรับเปลี่ยนการนั่งดูนะครับ เพราะ สุขภาพหาซื้อไม่ได้จริงๆ ของที่เสื่อมสภาพแล้ว มันยากต่อการจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ
แค่พยายามลุกขึ้นบ่อยๆก็พอครับ อย่างน้อยก็อย่านั่งเกิน2ชั่วโมงต่อครั้ง ถ้าคุณยังไม่ทำร่างกายจะสงสัญญาณให้คุณทำเช่น ปวด เมื่อย ชา นี้คือสัญญาณเตือน แต่คุณคงไม่อยากให้มันเตือนเราบ่อยๆหรอกใช่ไหมครับ
แหล่งที่มา:หนังสือ นั่งนาน=ตายเร็ว โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สันทณี เครือขอน
สำนักพิมพ์ Amarin
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
