เลบานอนใกล้เผชิญภาวะขาดแคลนน้ำทั่วประเทศท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ การขาดแคลนน้ำมันและสินค้าจำเป็นต่างๆ
สำนักข่าวอัลญะซีเราะฮ์เปิดเผยรายงานฉบับหนึ่งของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เตือนถึงอัตราการส่งน้ำประปาไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วเลบานอนจะค่อยๆ ลดลงภายในระยะเวลาสี่ถึงหกสัปดาห์สืบเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้า
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เฮ็นเรียตตา ฟอเร หนึ่งในคณะกรรมการบริหารของยูนิเซฟกล่าวว่า “ผู้คนกว่า 4 ล้านชีวิตทั่วเลบานอนซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและครอบครัวที่เปราะบาง ต้องเผชิญวิกฤตขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรงหรือไม่ก็ถูกตัดออกจากการเข้าถึงน้ำสะอาดโดยสิ้นเชิงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ เว้นแต่จะมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน”
เลบานอนประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ จากปัญหาการเมืองที่เจอทางตันมานานนับปี การขาดแคลนเงินทุน น้ำมันเชื้อเพลิงและพัสดุภัณฑ์ส่งผลกระทบต่อการส่งน้ำทำให้ต้องบังคับใช้มาตรการจำกัดการเข้าถึงน้ำสะอาด
นอกจากนี้เลบานอนยังถือเป็นประเทศที่มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียอยู่อาศัยถึง 1.7 ล้านคน ถือว่ามากที่สุดในโลกเมื่อเทียบอัตราส่วนต่อจำนวนประชากร โดยประชากรทุกๆ 4 คนในประเทศจะเป็นชาวเลบานอน 3 คนและผู้ลี้ภัยซีเรีย 1 คน ซึ่งในจังหวัดบะอัลบิก-ฮิรมิลและจังหวัดบิกออ์มีผู้ลี้ภัยชาวซีเรียคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรในทั้งสองพื้นที่ และยังเป็นพื้นที่เปราะบางที่สุดในประเทศที่อาจเผชิญกับการขาดแคลนน้ำ
ในเดือนกรกฎาคมการประปาเลบานอนเหนือประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและเริ่มปันส่วนการจ่ายน้ำจากสถานีสูบน้ำและบ่อน้ำในภูมิภาคต่างๆ ของเลบานอน ขณะที่การประปาในจังหวัดบิกออ์ได้ประกาศสถานการณ์น้ำขัดข้องเนื่องจากไฟฟ้าดับที่สถานีสูบน้ำ
รายงานของยูนิเซฟระบุว่าประชากรเลบานอนอย่างน้อยร้อยละ 70 กำลังเผชิญกับการขาดแคลนน้ำขั้นรุนแรง ขณะที่อีกหลายคนกำลังเสี่ยงที่จะไม่เหลือน้ำสะอาดใช้อีกเลยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
เลบานอนกำลังต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ทำให้ประชากรมากกว่าครึ่งอยู่ในภาวะยากจน วิกฤตทางการเงินนำไปสู่การขาดแคลนอย่างหนักในสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานรวมถึงอาหาร เสื้อผ้า ยาและน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาเฉลี่ยของอาหารในปัจจุบันสูงเป็น 10 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2562
ด้านสกุลเงินปอนด์เลบานอนหรือลีราก็ร่วงหนักเช่นเดียวกันโดยค่าเงินลดลงแล้วร้อยละ 90 ภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี
เมื่อปี 2562 เงิน 1,000 ปอนด์เลบานอนสามารถซื้อน้ำดื่มได้ 4 ลิตร แต่ในปัจจุบันซื้อได้เพียง 0.5 ลิตร เท่ากับราคาน้ำดื่มสูงขึ้น 8 เท่าในระยะเวลาอันสั้น
เมื่อไม่มีกระแสไฟฟ้าไปเลี้ยงเครื่องสูบน้ำและไม่มีงบประมาณในการซ่อมบำรุง ระบบประปาสาธารณะก็อาจล่มสลายได้ ยูนิเซฟประมาณการว่าค่าน้ำจะเพิ่มขึ้นราว 200 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือนเมื่อต้องจัดหาน้ำจากแหล่งผลิตอื่นหรือบริษัทเอกชนหลังการล่มสลายของระบบประปาของรัฐ
ยูนิเซฟชี้ว่าต้องใช้งบประมาณราว 40 ล้านดอลลาร์ต่อปีเป็นอย่างน้อยเพื่อจัดหาเชื้อเพลิง คลอรีน อะไหล่และการบำรุงรักษาที่จำเป็นเพื่อให้ระบบประปาของรัฐยังสามารถเดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง
เลบานอนเผชิญกับการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงติดต่อกันหลายเดือนแล้ว ทำให้สถานีบริการน้ำมันหลายแห่งต้องปิดตัว ขณะที่รถจำนวนมากต้องต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรอเติมน้ำมันในสถานีที่ยังเปิดให้บริการ ด้านธนาคารกลางได้ประกาศเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมว่าไม่สามารถอุดหนุนราคาน้ำมันนำเข้าได้อีกต่อไปแล้วและจำเป็นต้องปล่อยราคาให้เป็นไปตามกลไกตลาด
ทว่ารัฐบาลรักษาการณ์คัดค้านการตัดสินใจของธนาคารกลาง ไม่อนุญาตให้ขึ้นราคาขายน้ำมัน ความขัดแย้งนี้ทำให้บรรดาผู้นำเข้าน้ำมันหยุดชะงักและทำให้เสบียงน้ำมันในประเทศเหลือน้อยลงเรื่อยๆ
ภายหลังการประชุมด่วนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ทางการเลบานอนตัดสินใจขึ้นราคาน้ำมัน 66 เปอร์เซ็นต์ ในความพยายามเพื่อลดการขาดแคลนน้ำมัน
การตัดสินใจดังกล่าวทำให้เลบานอนมีราคาน้ำมันแพงที่สุดในโลก อ้างจาก
เว็บไซต์ GlobalPetrolPrices.com โดยน้ำมันเบนซิน 1 ลิตรมีราคาโดยเฉลี่ย 4.45 ดอลลาร์ (145.74 บาท) ส่วนน้ำมันดีเซล 1 ลิตร ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3.27 ดอลลาร์ (107.10 บาท)
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
