28 ส.ค. 2021 เวลา 09:13 • ปรัชญา
สมาธิกับความสำเร็จ Do Meditation to Succeed
Meditation to Succeed
ถ้ามีคำถามว่าทำไมต้องนั่งสมาธิ
นั่งหลับตาแล้วอยู่นิ่งๆ มันจะได้อะไร
เสียเวลาทำมาหากิน
1
.
หากคุณมีความคิดแบบนี้มันก็ไม่ผิดซะทีเดียว
เพราะคุณยังไม่เคยลองและยังไม่รู้แก่นแท้ของ
การนั่งสมาธิว่ามันมีการทำงานของกระบวนการ
.
ภายในตัวเราที่พอร่างกายนิ่งแล้วจึงเห็นสิ่ง
ที่ไร้รูปที่มีอยู่จริงภายในตัวเรามันเคลื่อนไหว
อยู่ตลอดเวลา
.
อะไรที่ว่ามันเคลื่อนไหว ก็คือจิตไงละ
ทั้งความคิด ความรู้สึก และระบบการทำงาน
ของส่วนต่างๆ ในร่างกายมันทำงานอยู่ตลอดเวลา
โดยที่หากเราไม่เคยนิ่งสงบแบบมีสติรู้ตัว
เราจะไม่เคยสังเกตเห็นมันเลย เราก็จะนึกว่า
ตัวเราเป็นแค่ร่างกาย เป็นก้อนเนื้อก้อนหนึ่ง
.
ที่เคลื่อนไหวได้ สามารถทำกิจกรรมต่างๆ
ในชีวิตประจำวันได้แค่นั้น มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย
.
เลยใช้งานมันจนเพลิน บีบคั้น กดดันมันจนเคยชิน
ไม่เคยเคลียขยะทั้งทางด้านความคิด อารมณ์และ
ขยะทางจิตใจออกไปเลย หรือดีหน่อย
.
ก็แค่อ่านเพิ่มเติม ฟังเพิ่มเติม เพื่อความฉลาดของเรา
เติมความรู้เพื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ ลงไปในสมองและให้มัน
ประมวลผลและทำงานให้เราเพื่อเราจะได้
.
ผลงานหรือสิ่งต่างๆ ที่เป็นไอเดียใหม่ๆ จะได้
นำผลงาน สินค้าหรือบริการต่างๆ ที่คิดและ
ประดิษฐ์มันขึ้นมาได้
.
เอาไปเสนอขายและได้เงินมา พอมีเงินมากๆ
ก็ดีใจ ปลาบปลื้มใจ ภูมิใจในตนเองว่านี่แหละ
ที่เขาให้คำจำกัดความว่า "ความสำเร็จ"
มีใครเคยคิดแบบนี้กันบ้างไหมค่ะ?
ซึ่งจากที่ผู้เขียนเคยได้สัมผัสผู้คนมา คนส่วนใหญ่
ก็จะมีความคิดประมาณนี้ว่า "ความสำเร็จ"
.
คือ การได้เงินมาครอบครองเยอะๆ ได้ถือว่า
เป็นคนรวย เป็นเศรษฐีสามารถซื้อทุกอย่างได้
นี่แหละคือความสำเร็จของมนุษย์หนึ่งคน ที่ทุกคน
ควรจะต้องเดินทางและใช้รูปแบบชีวิตไปในทิศทางเดียวกัน
.
เพื่อให้พบกับความสำเร็จ พูดให้เข้าใจง่ายหน่อย
คือ ทำอะไรก็ได้ที่ให้ได้เงินมา เอาเงินเป็นตัวตั้ง
เอาจำนวนเงินเป็นตัวกำหนดชะตาชีวิต
.
จำกัดรูปแบบชีวิตตัวเองทั้งหมดให้เดินตามคำสั่ง
หรือเดินตามกระแสสังคมมวลรวม
.
แม้จะพรากจากครอบครัว แม้จะต้องนอนดึก
แม้จะต้องเดินทางตลอดเวลา
แม้จะต้องทำงานแบบไม่มีวันหยุด
แม้จะต้องเสียเพื่อน แม้จะต้องไม่เป็นตัวเอง
หรืออีกมากมาย
.
สามารถทนทำได้เพราะต้องการเงิน ต้องการ
"ความสำเร็จ" ที่มาพร้อมกับตัวเงินหรือจำนวนเงิน
ในบัญชีที่เพิ่มพูนขึ้นมากเท่าไหร่ยิ่งดี
ไม่สนใจว่าร่างกายของเรากำลังจะป่วย
ไม่สนใจว่ายังไม่ได้ทานอาหารเพราะงานยังไม่เสร็จ
ไม่สนใจให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน
ไม่สนใจให้ความสำคัญกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว
.
ขอให้เราได้เงิน สะสมเงินให้ได้มากๆ เสียก่อน
แล้วค่อยหวลกลับมาแก้ไขซ่อมแซมความสัมพันธ์
หรือร่างกายที่เราบั่นทอนใช้งานมันอย่างหนัก
โดยคิดว่าเงินคือทุกอย่างในชีวิต
.
ไม่ผิด! ที่คิดว่าเงินสำคัญ เพราะเงินมันจะสำคัญ
กับทุกอย่างที่ต้องใช้เงินแต่อย่าลืมว่าในโลกใบนี้
มีสิ่งที่ไม่ต้องใช้เงินแต่สำคัญกว่าเงิน มันคือตัวตนของเรา
ผู้เขียนเคยเป็นเช่นนั้นมาก่อนและตอนนี้
ตอบได้เต็มปากเลยว่าผลของการมุ่งมั่นตั้งใจ
ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความสำเร็จในหน้าที่การงาน
เพื่อให้ได้เงินในบัญชีเยอะๆ
.
คือความสัมพันธ์ในชีวิตแย่มากๆไม่มีเพื่อนฝูง
ไม่ได้ใช้เวลากับพ่อแม่และที่แย่กว่านั้นคือพ่อก็ได้
เสียชีวิตไปแล้วในระหว่างที่ผู้เขียนตั้งหน้าตั้งตา
.
ลุยงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายชีวิตของตนเอง
ในวันที่มีเงินมากแล้วประสบความสำเร็จแล้ว
ก็ไม่มีพ่ออยู่เห็นความสำเร็จนั้นเลย
และเมื่อเวลาผ่านไป ชื่อเสียงเงินทองที่ได้
สะสมมาก็ถูกลืมและจำนวนเงินในบัญชีก็เริ่ม
หร่อยหรอลงทุกวัน
.
ร่างกายที่เคยสวยงามก็เสื่อมสภาพตามวัยและ
กาลเวลา ที่สำคัญหน้าที่การงานที่ว่ามันสำคัญ
มันคือชีวิตทั้งชีวิต มันคือทุกสิ่งทุกอย่าง
.
ที่เคยทุ่มเททำแบบหามรุ่งหามค่ำ ตอนนี้
อาชีพการงานนั้นก็ไม่จีรังหยั่งยืน มันก็เปลี่ยน
ไปตามสภาพเศรษฐกิจ วิกฤตที่มันเกิดขึ้น
.
มันไม่ได้รุ่งเรืองเฟื่องฟูดังเช่นที่ผ่านมา
สายงานที่ทำก็เริ่มทำเงินลำบากทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
เป็นอาชีพที่กอบโกยเงินทองได้เท่าไหร่ก็สามารถ
กอบโกยเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัวได้เลย
เมื่อมนุษย์คนหนึ่งได้สติและกลับบ้าน กลับเข้ามา
สู่โลกภายในของตนเองแค่เพียงนั่งนิ่งๆ และหลับตา
.
มีสติรู้ลมหายในเข้าและออก จดจ่ออยู่ในอารมณ์
อันเดียวจนมีความสงบภายในและเห็นการเคลื่อนไหว
ของจิต ความคิดและการทำงานของร่างกาย จับอารมณ์
และความรู้สึกในปัจจุบันขณะได้
.
การตระหนักรู้กลายเป็นการตื่นรู้ว่าที่ผ่านมา
เราได้ใช้ชีวิตแบบโลกๆ คือใช้ชีวิตตามกระแส
สังคม ใช้ชีวิตตามๆ วัฒนธรรมที่หล่อหลอมเรา
.
ให้อยู่ในวงจรที่คนส่วนใหญ่ก็ใช้รูปแบบชีวิตเดียวกัน
ไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนใจความรู้สึกภายในของตนเอง
.
ว่ามันเรียกร้องให้หยุด เพราะมันทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด
ทั้งบีบคั้น กดดันทั้งร่างกาย สมอง ความคิด จิตใจและ
ความรู้สึก
.
มันเตือนหลายครั้งหลายคราทั้งในรูปของอาการป่วย
ทั้งสูญเสียมิตรภาพ สูญเสียคนสำคัญในชีวิต สูญเสีย
ความเป็นตัวเอง สูญเสียเวลาคุณภาพกับคนในครอบครัว
สูญเสียเวลาในการรักตัวเองและสูญเสียอิสรภาพทางเวลา
.
แต่ไม่เคยเลย ไม่เคยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวที่จะตื่นขึ้น
เพื่อสติสัมปัชชัญญะว่ากลับบ้านได้แล้ว กลับมารักตัวเอง
ได้แล้ว กลับมาเริ่มสร้างหรือทำอะไรเพื่อตนเองได้แล้ว
กลับมาเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้แล้ว
จน ณ ปัจจุบันเป็นเวลากว่า 1 ปี ที่ได้มีสติ ได้อยู่กับตัวเอง
ได้ทบทวนตัวเอง ได้กลับบ้าน กลับเข้าไปข้างในตัวตน
ที่แท้จริงของตัวเอง
.
และได้ตระหนักรู้ว่าเวลาที่ได้สูญเสียไปกับความไม่รู้
มันแทบจะสูญเปล่ากับเป้าหมายโลกๆ ที่ขอให้คำจำกัด
ความมันว่า "เป้าหมายจอมปลอม" ที่ทำให้เราวิ่งตาม
ไขว่ขว้ามัน วิ่งออกนอกบ้านใช้ชีวิตอยู่ข้างนอก
.
จนลืมตัวตนที่แท้จริง ลืมตนเอง ลืมบ้านและ
หาทางกลับบ้านไม่เจอเพราะหลงมัวเมาอยู่กับ
สิ่งเร้า สิ่งล่อ ให้มีความตื่นเต้น ท้าทาย หลงเสพ
อารมณ์ที่เป็นผู้ชนะในเกมส์ พอกพูนอัตตา ฉันเก่ง
ฉันดีกว่าคนอื่น ฉันมีคนยอมรับนับถือ
ตอนนี้ไม่เห็นจะเหลืออะไรสักอย่าง
เวลาผ่านไปทุกสิ่งทุกอย่างที่ตั้งใจทำ
หน้าที่รับผิดชอบทุกอย่าง 100%
.
ในอาชีพการงานและการหาเงิน
มันสูญเปล่า มันไม่มีอยู่จริง มันหายไป
ตามกาลเวลา
.
อาชีพที่คิดว่ามั่นคง คิดว่าทำเงินได้มาก
ณ ปัจจุบันก็ไม่เป็นเช่นนั้นอีกต่อไปแล้ว
.
ชื่อเสียงความรู้ความสามารถที่สั่งสมมา
ด้วยหยาดเหงื่อแรงงาน แรงสมอง ณ ปัจจุบัน
มันก็อันตธานหายไป ไม่มีใครจดจำได้
มันเลือนลางไปเองตามธรรมชาติ
.
เงินทองที่สะสมไว้มาก ณ ตอนนี้ก็ใช้จ่าย
ในรายการจ่ายสำคัญๆ ของการใช้ชีวิตทั้งๆ
ที่มีการบริหารจัดการเป็นอย่างดี ปัจจุบันจำนวน
เงินก็หร่อยหร่อลง เพราะไม่มีรายได้เข้ามา
เนื่องจากอาชีพที่เคยทำเงินก็ไม่สามารถทำเงิน
ได้เหมือนที่เคยแล้ว
.
ชีวิตของพ่อก็ไม่มีวันย้อนเวลากลับไปดูแลหรือ
ให้เวลากับท่านได้อีก
.
ความสัมพันธ์กับเพื่อนฝูงที่เคยสนิทชิดเชื้อ
ณ ปัจจุบันก็ได้ห่างหายไปด้วยเวลาและเราก็
ขาดการติดต่อและไม่ได้มีกิจกรรมเชื่อมความ
สัมพันธ์กันเลยในระยะเวลาหลายปี
แล้วมันคืออะไร ที่ว่ามั่นคงตอนนี้มันไม่มีความ
มันไม่มีความมั่งคงอีกต่อไป
.
มันคืออะไรที่ให้สะสมประสบการณ์ในสายอาชีพ
ตอนนี้อาชีพเดิมที่สะสมประสบการณ์มาก็ไม่สามารถ
หาเงินได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
.
มันคืออะไรที่ว่าทุกอย่างซื้อได้ด้วยเงิน
ชีวิตของพ่อ ความสัมพันธ์กับครอบครัว
เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน มันซื้อกลับคืนมาไม่ได้
.
มันคืออะไรที่ให้ทุ่มเทแรงกายแรงสมอง
เพื่ออาชีพ หน้าที่การงานจะได้เลื่อนขั้น
เลื่อนตำแหน่งและเป็นที่รู้จักนับหน้าถือตา
ว่าเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ เลื่อมใสศรัทธา ตอนนี้
มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยทุกคนต่างเอาตัวรอด
.
และมันมีอีกมากมายที่ถามกับตัวเองว่า
"มันคืออะไรกับการใช้ชีวิตในแบบนี้"
.
และจริงๆ แล้วเราควรทำอย่างไรต่อไป
อะไรคือความจริงแท้ เรื่องราวเหล่านี้
จะช่วยให้เป็นวิจารณญาณกับรุ่นหลังอย่างไร
.
ควรต้องวางแผนใช้ชีวิตแบบไหนถึงจะไม่เจอ
ความว่างเปล่าเช่นนี้ ไม่เสียเวลาเช่นนี้
:
ติดตาม EP.2 นะคะ
- เอ ปวีร์ลดา ธนะพัฒน์มงคล -
ติดตามศาสตร์ความสำเร็จแบบจงใจ ได้ที่
Facebook: @paweeladapage (พิมพ์ @ นำหน้า)
Youtube: Paweelada Channel
Blockdit: Paweelada Blog
IG: a.paweelada
Line: @paweelada (พิมพ์ @ นำหน้า)
#ศาสตร์ความสำเร็จแบบจงใจ
#จิตวิทยาและปรัชญา
#insideoutselfdevelopment

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา