EP 3. สมาธิกับความสำเร็จ Do Meditation to Succeed
EP 3. - Do Meditation to Succeed
จากนั้นให้หาไลฟ์สไตล์ที่เป็นตัวเองที่คิดว่า
หากเราได้ใช้รูปแบบชีวิตแบบนี้แล้วจะทำให้
เรามีความสุขในทุกๆ วัน
.
อยากจะตื่นขึ้นมาในทุกๆ เช้าด้วยความกระปรี่กระเปร่า
และตื่นตัวที่จะได้ผจญภัยไปกับรูปแบบใหม่ที่เราอยาก
จะเป็น มันจะมีแต่เรื่องเซอร์ไพร้ส์ให้เราตลอด
.
เป็นความรู้สึกเดียวกันกับการได้รับของขวัญ
.
สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำแบบนี้ได้ก็คือการเจอกับตัวเองให้เร็ว
และวางแผนระยะยาวที่เรียกว่า Life Project แล้วเริ่ม
ลงมือทำทันทีสำหรับการสร้างผลงานจากตัวตน
ที่แท้จริงของเรา
.
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ชอบ Short-term
อะไรก็ได้ให้ได้ผลเร็วๆ ในระยะเวลาอันสั้น
มันมีข้อดีแต่ไม่ใช่ Life Project ซึ่งทำไปสักพัก
เราก็จะเบื่อและก็จะหาอะไรใหม่ๆ ทำ
.
เพราะหากเรามองแค่ระยะสั้นๆ เราจะมีชีวิต
ที่ต้องเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น
.
การเปลี่ยนงาน
การเปลี่ยนสถานที่
การเปลี่ยนเป้าหมาย
การเปลี่ยนโฟกัส
การเปลี่ยนแนวทางทิศทางเดิน
การเปลี่ยนความสัมพันธ์
และเปลี่ยนอีกหลายเปลี่ยน
.
หรือที่เรียกว่า "ไม่มีจุดยืนเป็นของตนเอง"
วิ่งตามกระแสสังคม จนเหนื่อย จนหลงทาง
จนหาตัวเองไม่เจอ
.
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ดีหากการเปลี่ยนแปลง
นั้นมันทำให้เราพัฒนาขึ้น ปรับปรุงขึ้น และมีวิถี
ชีวิตที่ดีขึ้นและทำให้เราอยู่ได้แบบยั่งยืน
.
แต่การเปลี่ยนที่ว่านี่หมายถึงการเปลี่ยนไป
เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าตัวเองจะยึดหลักอะไรในชีวิต
ไม่รู้ว่าตัวเองจะยึดอาชีพอะไร
.
ไม่รู้ว่าทิศทางที่แท้จริงของชีวิตเราจะต้อง
ไปทางไหนและยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเราชอบ
เราถนัดอะไรกันแน่
.
เรียนมาใช้เวลาไป 20 กว่าปี จบมายังไม่รู้ว่า
จะออกมาทำอะไร คิดอะไรไม่ออกก็ไปสมัครงาน
เป็นลูกจ้าง และส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ทำงานตามวุฒิ
การศึกษาวิชาเอกที่พร่ำร่ำเรียนมานานแสนนาน
.
ยิ่งไปกว่านั้นคือหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ
ต้องมาเรียนรู้ใหม่หมดแล้วความรู้หรือวุฒิที่
ได้มามันเป็นเพียงกระดาษที่เหมือนตั๋วหนัง
.
เพื่อยื่นให้เจ้าของบริษัทเป็นบัตรผ่านประตู
เท่านั้นเอง มันดูช่างน่าขันแต่มันก็ขำไม่ออก
เพราะผู้เขียนก็เป็นเช่นนั้นเช่นกัน
.
ยังไม่สายเกินไปที่จะตั้งสติและวางแผน
ชีวิตกันใหม่ เรายังมีลมหายใจและมีสติ
.
ทำสมาธิให้ได้ ทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน
แบ่งเวลาไว้เพื่อสิ่งสำคัญที่สุดนี้สัก 30 นาที
หรือ 1 ชั่วโมงต่อวัน หากใครเพิ่งเริ่มก็สัก
5-15 นาทีก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่ม
.
เพราะสมาธิเป็นพื้นฐานในกระบวนการสร้าง
รูปแบบชีวิตตามที่เราต้องการ หากขาดสมาธิ
ขาดความสงบภายในแล้ว สติก็จะไม่เกิด
.
การตระหนักรู้หรือการมีสติอยู่กับปัจจุบันขณะ
ก็จะไม่สามารถทำได้ เมื่อเรามีสมาธิและมีสติ
ตระหนักรู้แล้วสิ่งต่างๆ ที่เราจะสร้างขึ้นใน
โลกของเรามันจะทำได้ง่ายและได้ผลเร็ว
.
มันจะเป็นกระบวนการการสร้างรูปแบบชีวิตใหม่
แต่ยังคงได้ผลอย่างที่เราต้องการ คือ ยังได้รับ
ประสบการณ์ชีวิตที่เรียกว่า"ความสำเร็จ"
.
ยังได้รับเงินทองวัตถุสิ่งของต่างๆ อย่างใจปรารถนา
และแถมยังได้ทำอาชีพที่เกิดจากตัวตนที่แท้จริง
ของเราอีกด้วย
.
สำหรับคนที่มีอาชีพอยู่แล้วก็สามารถทำ
กระบวนการที่จะอธิบายให้ฟังนี้ได้เช่นกัน
.
แต่เราจะเปลี่ยนรูปแบบในกระบวนการคิดและ
การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่จากข้างใน
.
มันคือการ Transform จากภายในสู่ภายนอก
ซึ่งคนภายนอกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังสร้าง
กระบวนการ Transform กับตัวเองอยู่
ในที่นี้ขออธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงตัวเอง
ในลักษณะการค้นพบตัวตนที่แท้จริงภายในและ
สร้างงาน สร้างอาชีพตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
.
หากใครได้นั่งสมาธิและฝึกจิตของตนเองอยู่
เป็นประจำ จิตก็จะจำรูปแบบตามที่เราฝึก
จิตก็เป็นเหมือนกับกล้ามเนื้อหากฝึกบ่อยๆ
.
สุขภาพจิตก็จะแข็งแรง กล้ามเนื้อส่วนนั้นก็จะ
ขยายเติบโต
.
ถ้าหากเราฝึกมันบ่อยๆ ทำซ้ำๆ เช่น ฝึกให้จิต
คุ้นชินกับพลังงานที่เป็นบวก ฝึกให้อยู่ในสภาวะ
อารมณ์ ความรู้สึกที่เป็นด้านบวกอยู่เสมอๆ
.
ฝึกให้คงสภาวะแห่งความสุขจนคุ้นชินและเมื่อใด
มีสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกอึดอัด เครียด กังวลและเป็น
ความรู้สึกทุกข์
.
จิตมันจะทนไม่ได้ จิตมันจะดิ้นรนหาทางออกจาก
ความรุ้สึกที่ไม่ดี ที่มันอึดอัด จนทำให้มันหลุดออก
จากความรู้สึกทุกข์นั้นจนได้
.
และหากเราฝึกนำพาจิตให้เห็นทางออกไปสู่ความ
รู้สึกมีความสุขอยู่บ่อยๆ จิตจะจำร่องอารมณ์นั้นได้
มันจะดีดตัวและกลับเข้าสู่ร่องอารมณ์แห่งความสุข
ได้เองโดยที่เราไม่ต้องพยายามเลย
.
และอีกวิธีคือพยายามหาข้อมูลที่เป็นไปในทิศทาง
บวกให้มันเสพบ่อยๆ มันจะได้คุ้นชินและจำได้
.
หากมีอะไรลบๆ เข้ามามันจะปฏิเสธ มันจะกำจัดออก
โดยที่เราไม่ต้องพยายามไม่คิดลบ แต่แค่เอาน้ำดี
เข้าไปเยอะๆ ให้มากพอ ให้มากกว่าน้ำเสียที่มัน
ตกค้างอยู่ภายในน้ำดีมันจะถ่ายเทน้ำเสียทิ้งไปเอง
.
และเมื่อจิตแข็งแรงและจำสภาวะต่างๆ ได้แม่นยำขึ้น
และเรามีการฝึกภาวนาเพื่อเข้าสู่โลกภายในของตนเอง
บ่อยๆ จิตมันจะจำได้และมันจะสื่อสารกับตัวตนของเรา
.
และจะแสดงอาการทางกาย ด้วยความรู้สึก หรือ
อาจจะส่งมาเป็นไอเดียทางความคิด ว่าสิ่ง
ที่เรากำลังจะตัดสินใจหรือสถานการณ์ตรงหน้า
เราควรจะต้องตัดสินใจอย่างไร เลือกทิศทางไหน
.
มันจะช่วยเราเลือกทางที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
กับตัวตนที่แท้จริงภายในของเรา
.
ตัวอย่างเช่น หากเรากำลังเลือกจะทำอาชีพใหม่
อะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้จะเลือกอาชีพอะไรที่มันทำ
แล้วเราสามารถอยู่กับมันได้อย่างมีความสุขและ
ตลอดไปและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้เรา
ได้ด้วย
.
คนที่ฝึกจิตมาดีแล้วจะพบคำตอบในตัวเองได้
อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องปรึกษาใครและไม่ต้อง
ไปพึ่งหมอดูหรือไพ่ทาโร่เลย
.
หากเราไม่ฝึกสมาธิและไม่ปฏิบัติภาวนา
เราจะไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าตัวตนภายใน
ของเรานั้นพยายามสื่อสารอะไรกับเรา
.
เราจะทำการตัดสินใจเลือกอาชีพแบบมีอะไร
ให้ทำก็ทำไปก่อนหรืออะไรที่ได้เงินเยอะ ณ ตอนนี้
ก็เลือกก่อนเลย
.
โดยไม่สนใจผลที่ตามมา เงื่อนไขชีวิตต่างๆ
ที่เต็มไปด้วยความเครียด ความบีบคั้นทางอารมณ์
ความทุกข์ใจ ปัญหาต่างๆ นาๆ ไม่มีเวลาให้ใคร
แม้แต่ตัวเอง
.
จะใช้ชีวิตไปในแบบที่มีความกังวลอยู่ตลอดเวลา
งงๆ สับสนและมีความไม่มั่นใจในการเลือก
อาชีพสำหรับตนเอง
.
ทำไปสักพักก็จะเกิดอาการเบื่อหน่าย อยากจะหา
อาชีพใหม่ทำเพราะคิดว่าอาชีพใหม่จะช่วยให้
อะไรๆ ดีขึ้น ไม่น่าเบื่อและไม่ต้องเจอปัญหาแบบนี้
.
แต่เชื่อไหมว่าคุณก็แค่เปลี่ยนภาชนะในการใส่น้ำเสีย
ในตัวคุณ แค่เปลี่ยนสถานที่ แต่ปัญหากับอาการเบื่อ
ก็จะเกิดขึ้นอีกเป็นเงาตามตัว
.
รูปแบบมันก็จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ในแบบเดิมๆ ไปเรื่อยๆ
ไม่มีที่สิ้นสุด
.
เพราะเราไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราจริงๆ
.
และเราไม่สามารถสื่อสารกับตัวตนของเราได้
เพราะไม่รู้ ทำไม่เป็นและไม่มีใครบอก มันจึงเกิด
การเปลี่ยนงาน เปลี่ยนอาชีพกันอยู่ร่ำไป
.
และหากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นอีกจะก็ท้อ
มีอุปสรรคในการทำงานก็อยากจะหลีกหนี
ไม่อยากทำ เซ็ง ไม่มีอารมณ์ ไม่สู้ หมดไฟ
.
จนในที่สุดเวลาก็ล่วงเลยไป วัยของการทำงาน
ก็เริ่มนับถอยหลัง ความชราเริ่มมาเคาะประตูบ้าน
ทีนี้อยากจะเปลี่ยนงานอีก ตัวเลือกก็น้อยลง
.
จนในที่สุดก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงานเพราะ
ด้วยอายุที่มีจำกัด ถึงเวลากลับบ้านพร้อมกับ
ความว่างเปล่า
.
หรือดีหน่อยก็จะมีวัตถุสิ่งของที่ได้สะสมมา
ในตอนที่หาเงินได้และเงินนิดๆ หน่อยๆ ที่ต้อง
กระเบียดกระเสียนใช้หลังจากที่ไม่มีรายได้อีกต่อไป
.
ถึงเวลาในการนับถอยหลัง ชีวิตเริ่มไม่เหลือไฟ
หมดความกระตือรือร้น หมดพลังในการมีชีวิต
อวัยวะทุกส่วนในร่างกายโดยเฉพาะสมองหาก
เราไม่ใช้มันไม่ฝึกมันมันก็จะตายเสื่อมสภาพ
และเมื่อสมองมันรับรู้ว่ามันกำลังจะตายมันจะ
ส่งอาการป่วยสารพัดมาเพื่อช่วยสนับสนุน
เจ้านายของมัน
.
จนกลายเป็นคนแก่ที่ไร้ประโยชน์ กลายเป็นภาระ
จุดจบแตกต่างกันมากกับคนที่รู้จักตัวเอง
รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของตนเองต้องการอะไร
จะมีคำตอบชัดเจนในการเลือกงานเลือกอาชีพ
หรือรูปแบบการใช้ชีวิตของตน
.
จากความชอบ จากตัวตนที่แท้จริงที่มีมาแต่
กำเนิด จึงได้ลงมือทำทันทีในวันที่รับรู้และ
ทำมาอย่างต่อเนื่อง จนพัฒนากลายเป็นคน
ที่เชี่ยวชาญในสิี่งที่รัก ในสิ่งที่ถนัด ในทางของตน
.
ใช้ชีวิตเหมือนไผ่จีนที่แตกรากอยู่ใต้ดินโดย
ไม่โผล่ต้นขึ้นมาบนดินเลยโดยใช้ระยะเวลา
ประมาณ 5 ปี แต่พอรากแข็งแรงและยึดลำต้น
ได้ดีแล้วต้นไผ่จะโผล่ขึ้นมาบนดิน
.
มันจะเติบโตอย่างรวดเร็ว ลำต้นสูงสง่า
มีความสวยงาม มีคุณค่าในตัวมันเองและ
มีความแข็งแรงสามารถต้านทาน
แรงลมพายุได้โดยไม่โค่นล้มลงง่ายๆ
.
หากเราต้องการชีวิตที่มีค่า จงสร้างคุณค่าให้ตัวเอง
จากการต่อยอดสิ่งที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของตนเอง
ให้เกิดเป็นอาชีพกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสิ่งนั้น
.
จงอดทนในตอนที่เริ่มเพราะความสำเร็จมันต้อง
อาศัยการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์และหากเราจงใจ
ที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์ความเป็นตัวตนที่แท้จริง
ของเราให้เจริญงอกงาม เราต้องรอได้ นี่คือหนึ่ง
ในคุณสมบัติของคนสำเร็จ
.
เราต้องคิดการณ์ไกล มีแผนระยะยาวสำหรับ
หนึ่งชีวิตของเราที่เหลือลมหายใจอยู่ จงตั้งใจ
จงใจสร้างมันขึ้นมาด้วยความรัก ด้วยความเพียร
.
ด้วยการโฟกัสอยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งเดียวที่เป็น
ตัวเรานี้ให้สุกงอมตามธรรมชาติของตัวเรา
ไม่ต้องเร่งรีบหรือรีบเร่งตนเอง
.
เพียงแต่โฟกัส ลงมือทำ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ไม่ยอมหยุด จนกว่ามันจะถึงเวลาในการโผล่
พ้นดินขึ้นมาเพื่อมอบสิ่งล้ำค่าที่จะช่วยผู้อื่น
ในการแก้ปัญหาให้เขาเหล่านั้น
.
และเมื่อนั้นชีวิตที่ผาสุก ความสุขล้นที่ได้ช่วย
เหลือจะเกิดขึ้นเอง ชีวิตที่มั่งคั่งร่ำรวยเงินทอง
ชีวิตที่ประสบความสำเร็จในทุกด้านจะมา
เคาะประตูบ้านของคุณเอง
.
และด้วยผลงานต่างๆ ที่คุณพร่ำเพียรพยายาม
ฝึกฝนตนเองมาโดยตลอดก็จะออกดอกออกผล
สู่สายตาผู้คนและได้ใช้ความรู้ความสามารถ
ที่แท้จริงของคุณได้ช่วยเหลือผู้อื่นจนเกิดการ
เปลี่ยนแปลงในชีวิตเขาเหล่านั้น
.
กลายเป็นการสร้างความเลื่อมใสศรัทธาจากผู้คน
โดยที่ไม่ต้องป่าวประกาศ ความน่าเชื่อถือในตัวคุณ
ก็จะนำพาผู้คนหลั่งไหลมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
ของคุณเอง
.
และยิ่งนานวันยิ่งคุณมีอายุมากขึ้นชื่อเสียง
และความน่าเชื่อก็ยิ่งกระจายออกไปเป็นวงกว้าง
มากขึ้น เมื่อนั้นคงไม่ต้องพูดถึงความมั่งคั่งร่ำรวย
หรือความสำเร็จกันแล้ว
.
เพราะคุณจะกลายเป็นตำนานจวบจนคุณจากโลกนี้ไป
ผลงานหรือชิ้นงานที่คุณฝากไว้นั้นมันยังคงอยู่และ
มันยังทำงานด้วยตัวมันเองสืบต่อไป ดังเช่น
.
สตีฟ จ๊อบส์ ที่สร้าง Apple และเจ้าของทฤษฎีต่างๆหรือ
ผู้เขียนหนังสือหลายเล่มที่แม้ว่าจะจากโลกนี้ไปแล้ว
ก็ยังมีคนกล่าวถึงและซาบซึ้งในผลงานที่มอบทิ้ง
ไว้ให้และที่สำคัญมันยังทำเงินได้อย่างต่อเนื่อง
จงรู้ไว้ว่าทุกคนมีพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง
และมีสิทธิใช้พลังนี้เท่าเทียมกันทุกคน
อย่างไม่มีเงื่อนไขหรือข้อแม้ใดๆ
.
เพียงแต่คุณจะใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง
.
ทุกคนตั้งแต่ตัดสินใจมาเกิดเป็นมนุษย์
บนโลกที่มีรูปกายนี้ทุกคนมาพร้อมกับพลัง
ในตัวเอง
.
แต่เราหลงลืมตัวเองไป ด้วยการใส่ข้อมูลใหม่
จากการเลี้ยงดูและการศึกษา ทำให้เรา
กลับบ้านไม่ถูก หาตัวเองไม่เจอ
.
จนมีผู้ค้นพบสิ่งนี้จากการย้อนกลับเข้าสู่ภายใน
ตัวตนที่แท้จริงของตนเองเพื่อให้เข้าใจตนเอง
เรียนรู้ตนเองและสามารถสร้างตนเองขึ้นมาใหม่ได้
.
เอาละ...รู้อย่างนี้แล้วก็เริ่มฝึกสมาธิกันและ
เรียนรู้ตนเองผ่านลมหายใจ ผ่านความรู้สึก
ทางกายที่แสดงออกมาให้เราได้รับรู้
.
เมื่อเรานิ่งและสงบ สติจะเกิดขึ้นเองเราจะ
รับรู้ได้ด้วยตนเองว่าตัวตนข้างในพยายาม
สื่อสารอะไรกับเรา
.
ฟังเสียงข้างในใจตัวเองแล้วเริ่มขยับหรือ
ลงมือทำอะไรบางอย่างที่มันบ่งบอกว่าคุณ
ต้องการมันและได้เดินเข้าใกล้มันในทุกๆ วัน
.
ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดวิกฤตกับตัวเองหรือ
เกิดเหตุการณ์ที่มันหนักหนาสาหัสแล้วถึงเริ่ม
จนหาทางออกไม่เจอแล้วเพิ่งคิดลงมือทำ
.
ให้เราเริ่มเลย เริ่มจากวันที่เรารู้ ไม่ต้องรอให้พร้อม
ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรอยู่หรือหากตกงานอยู่
ยิ่งเป็นโอกาสที่ดีมากๆ เลย
.
คุณจะได้มีเวลาเต็มที่ในการหาข้อมูลสนับสนุน
และใช้ความคิดในการหาไอเดียสำหรับ
Life Project ของคุณได้เต็มที่ ให้เริ่มได้เลย
.
สำหรับคนที่ยังมีงานทำหรืองานประจำที่จำเป็น
ต้องพึ่งรายได้ในส่วนนั้นเพื่อเลี้ยงชีพ
ก็จงทำควบคู่กันไป
.
จนกว่า Life Project ของคุณจะเข้าที่เข้าทาง
และสามารถสร้างรายได้จนยึดเป็นอาชีพหลัก
แล้วจึงกระโดดมาทำเต็มตัว
.
ไม่ว่าความฝันหรือตัวตนที่แท้จริงของคุณ
จะเป็นใครและต้องการเป็นอะไร คุณคนเดียว
เท่านั้นที่เป็นคนตอบคำถามนี้
.
เพราะแต่ละคนมีความชอบ ความหลงใหลไม่เหมือนกัน
จงหามันให้เจอและสร้างมันขึ้นมาให้เป็นรูปธรรม
ดึงความฝันจากตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เป็นรูป
เป็นร่างนั่นคือผลงานชิ้นเอกของคุณ
.
สร้างมันขึ้นมาเพราะมันคือคุณค่าที่ซ่อนอยู่
ในตัวคุณ ที่จริงแล้วชีวิตของมนุษย์หนึ่งคน
หากไม่ได้พูดถึงภาระที่ต้องเลี้ยงดูรูปกายแล้ว
.
มนุษย์จะอยู่ต่อไปได้การหล่อเลี้ยงจิตใจตนเอง
ด้วยความหวังและด้วยความรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
.
ให้รู้สึกว่าชีวิตที่เหลืออยู่นี้ตนเองได้ทำประโยชน์
ได้สร้างคุณค่าได้ช่วยเหลือใครสักคนหนึ่งหรือได้
ช่วยเหลือผู้คนเพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเอง
.
ความลับก็คือ...คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น
คุณเกิดมาเพื่อทำสิ่งนี้ให้มันสำเร็จเท่านั้นเอง
.
จงเชื่อสัญชาตญาณและสัญญาณเหล่านั้น
และเริ่มลงมือทำทันทีโดยไม่ต้องรอเพอร์เฟค
Miracle of Success รอทุกคนอยู่
.
ขอบคุณสำหรับการติดตามและ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนเจอตัวตน
ที่แท้จริงของตัวเองเร็วๆ นะคะ
:
- เอ ปวีร์ลดา ธนะพัฒน์มงคล -
ติดตามศาสตร์ความสำเร็จแบบจงใจ ได้ที่
Facebook: @paweeladapage (พิมพ์ @ นำหน้า)
Youtube: Paweelada Channel
Blockdit: Paweelada Blog
IG: a.paweelada
Line: @paweelada (พิมพ์ @ นำหน้า)
#ศาสตร์ความสำเร็จแบบจงใจ
#insideoutselfdevelopment
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
