10 ก.ย. 2021 เวลา 03:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 10 ก.ย. 2021
1
"ดาวโจนส์ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยหลัง ECB
ส่งสัญญาณว่าจะลดลงวงเงินซื้อพันธบัตรฉุกเฉิน
ลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในไตรมาส 4 ตามคาด"
5
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 0.33% ​(ที่ 4987 จุด), ดัชนี HSTECH +2.50% (ที่ 6695 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1797 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 24.13 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 42 (Greed > Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เร็วกว่าที่คาดไว้ หลังสหรัฐรายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 18 เดือน
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า จะลดลงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมายของตลาด
📌 ที่ประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
📌 อย่างไรก็ดี ECB ไม่ได้ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในการประชุมวานนี้ โดยโครงการดังกล่าวเทียบเท่ากับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
📌 ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในการประชุมเมื่อวานนี้
📌 "จากการประเมินสภาวะทางการเงินและแนวโน้มเงินเฟ้อ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของ ECB มีความเห็นว่า ECB สามารถรักษาสภาวะทางการเงินที่น่าพึงพอใจด้วยการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในโครงการ PEPP เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และ ECB พร้อมที่จะปรับเครื่องมือทุกอย่างตามความเหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ECB ในระยะกลาง" แถลงการณ์ของ ECB ระบุ โดยไม่ได้ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการดังกล่าวอย่างชัดเจน
📌ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 5% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.6%
📌 ทิม คุก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแอปเปิล อิงค์ เตรียมจัดอีเวนต์เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ในวันที่ 14 ก.ย.เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือช่วงเที่ยงคืนย่างเข้าสู่วันที่ 15 ก.ย.ตามเวลาไทย
📌 คาดว่าแอปเปิลจะตั้งชื่อ iPhone รุ่นใหม่ว่า iPhone 13 โดยจะมี 4 รุ่นคือ iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
📌 Apple Hub ซึ่งเป็นบล็อกที่รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับแอปเปิล เปิดเผยว่า ราคา iPhone 13 ทุกรุ่นที่จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้าจะมีราคาเท่ากับ iPhone 12 ทุกรุ่นที่ได้เปิดตัวไปในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
📌 บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยว่า ทางบริษัทกำลังพัฒนาวัคซีนแบบโดสเดียวซึ่งจะรวมวัคซีนบูสเตอร์ป้องกันไวรัสโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ไว้ในเข็มเดียวกัน โดยโมเดอร์นาคาดหวังว่า ทางบริษัทจะสามารถเพิ่มประเภทของวัคซีนในหมวดที่ใช้ในการป้องกันไวรัสทางเดินหายใจ (RSV) และโรคทางเดินหายใจประเภทอื่นๆ ด้วยการฉีดวัคซีนเพียงเข็มเดียวต่อปี
📌 "เราชื่อว่านี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ที่รอเราอยู่ข้างหน้า หากเราสามารถรวมวัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพไว้ในวัคซีนบูสเตอร์และฉีดเพียงเข็มเดียวต่อปี เราเชื่อว่าโมเดอร์นาจะเป็นบริษัทแรกที่ทำตลาดวัคซีนชนิดใหม่นี้" นายสเตฟาน บันเซล ซีอีโอของโมเดอร์นากล่าว ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นโมเดอร์นาปิดตลาดพุ่งขึ้น 7.81% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ รายงานระบุว่า โมเดอร์นากำลังทำการทดลองวัคซีน RSV ทางคลินิกกับอาสาสมัครวัยผู้ใหญ่
1
📌 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทโมเดอร์นา รวมทั้งไฟเซอร์และไบออนเทค จะทำรายได้หลายพันล้านดอลลาร์จากการจำหน่ายวัคซีนบูสเตอร์ หรือวัคซีนเข็ม 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ การรวมวัคซีนป้องกันไวรัสไข้หวัดใหญ่และโรคอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน จะช่วยเพิ่มผลกำไรของบริษัทเหล่านี้ด้วย
📌 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวในตลาดหุ้นฮ่องกง หลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลของจีนมีคำสั่งให้บริษัทเกมควบคุมเนื้อหาในเกม พร้อมกับเตรียมยกระดับความเข้มงวดในการตรวจสอบบริษัท
📌 นักลงทุนยังคงจับตาความเคลื่อนไหวหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีจีน หลังจากที่วานนี้มีรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนได้เรียกตัวแทนบริษัทเทนเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ และเน็ตอีส อิงค์ ผู้พัฒนาเกมออนไลน์เข้าพบเพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับการดูแลภาคธุรกิจนี้ โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์, สำนักงานสื่อและสิ่งพิมพ์แห่งชาติ และหน่วยงานอีก 2 แห่งได้จัดการประชุมกับตัวแทนบริษัทเกมเพื่อสื่อสารถึงแผนของรัฐบาลจีนในการเพิ่มความเข้มงวดในการกำกับดูแล รวมถึงตรวจสอบพฤติกรรมที่ผิดกฎหมาย หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ออกข้อบังคับใหม่สำหรับธุรกิจวิดีโอเกม รวมถึงกำหนดให้เด็กและวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นวิดีโอเกมออนไลน์ได้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น
📌 ทางด้านหนังสือพิมพ์เซาท์ ไช่นา มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานวานนี้ว่า รัฐบาลจีนจะระงับการอนุมัติเกมออนไลน์ใหม่ในประเทศ ซึ่งส่งผลให้หุ้นเกมดิ่งลง อย่างไรก็ดี หนังสือพิมพ์ได้แก้ไขรายงานข่าวหลังปิดตลาด โดยระบุว่าหน่วยงานกำกับดูแลจะชะลอกระบวนการอนุมัติออกไปก่อน
📌 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ออกมาตรการห้ามติวเตอร์ที่สอนนักเรียนแบบตัวต่อตัวไม่ให้เปิดการสอนออนไลน์ หรือทำการสอนในสถานที่ที่ไม่ได้ลงทะเบียนไว้ เช่น อาคารที่พักอาศัย โรงแรม และร้านกาแฟ ซึ่งเป็นการยกระดับการควบคุมการสอนแบบแสวงหาผลกำไรทั้งหมด โดยกระทรวงศึกษาธิการจีนระบุว่า ศูนย์ศึกษาที่ให้บริการกวดวิชาในวิชาตามหลักสูตรของโรงเรียนจะต้องได้รับใบอนุญาต และจ้างครูที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเท่านั้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากตลอดปีนี้ทางการจีนได้สั่งห้ามการสอนแบบแสวงหาผลกำไรในกลุ่มสถาบันกวดวิชา เพื่อลดแรงกดดันต่อเด็กและผู้ปกครอง
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.71/73 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดที่ระดับ 32.71 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาททรงตัวจากเย็นวาน แต่แนวโน้มวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่แข็งค่า หลังจากเมื่อวานที่ประชุม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณในการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด- 19 (เทียบเท่าโครงการ QE ของสหรัฐ) นอกจากนี้ ทิศทางค่าเงินในเอเชียก็แข็งค่าตามตลาดที่มีการเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1. KT-PRECIOUS
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge)
4. ASP-DISRUPT
5. ASP-EUG
6. ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
7. ASP-JHC
8. ASP-ROBOT
9. B-GTO
10.K-CHANGE-A
11.K-HIT
12.K-USA-A
13.K-USXNDQ-A
14.KF-EUROPE
15.KF-GTECH
16.KF-ORTFLEX
17.KF-US
18.KFHTECH-A
19.KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
20.KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
21.KT-EURO/K-EUSMALL
22.KT-WTAI-A
23.LHESPORT-A / WE-PLAY
24.LHINNO-A
25.BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
26.MATECH-A 💵💵💵
27.M-EM 💵💵💵
28.MFTECH
29.ONE-DISC-RA
30.ONE-UGG-RA
31.ONE-GECOM 💵💵💵
32.PRINCIPAL GCLOUD-A
33.PRINCIPAL GHEALTH-A
34.PWIN
4
35.SCBKEQTG
36.SCBUSSM
37.TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
38.T-ES-GGREEN
39.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
40.T-GLOBALENERGY / MRENEW
41.TBIOTECH
42.TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
43.TCLOUD
44.TGENOME
45.TGHDIGI
46.TNEXTGEN / WE-CYBER
47.TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
48.TMBAGLF 💵💵💵
49.TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
50.TMBGQG
51.UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
52.UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
53.UEDTECH 💵💵💵
54.UEV
55.WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
56.WE-GOLD 💵💵💵
57.KFINFRA-A
58.B-INNOTECH
59.KFGBRAND-A
60.SCBS&P500
61.SCBDJI(A)
62.SCBNK225
63.WE-TENERGY / SCBCLEANA
64.K-WORLDX
65.T-Premium Brand
67. P-CGREEN
68. K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
69. KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70. WE-CANB, MCANN 💵💵💵
71. LHMOBILITY
72. TNEWENGY
73. PRINCIPAL GCLEAN-A
74. BCAP-CLEAN
3
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730, 1775 , 1800 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (5 ก.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/6134e0b53389680c58982468
1
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
3
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50
ประจำวันที่ 4 ก.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/61338715a4d4520c65ae843c
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE
ประจำวันที่ 5 ก.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/6134ba7873aebf0c601813a5
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
3
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Blockdit - blockdit.com/needoy
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - bit.ly/lineneedoy
📌YouTube - bit.ly/youtubeneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌Podbean : bit.ly/podbeanneedoy
📌Google Podcast : bit.ly/googlepodcastneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา