13 ก.ย. 2021 เวลา 03:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 13 ก.ย. 2021
"ดาวโจนส์ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบปรับตัวลงมากกว่า 1%"
4
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 -0.44% ​(ที่ 4991 จุด), ดัชนี HSTECH -2.73% (ที่ 6564 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่1788 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 23.67 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 34 (Greed < Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐหลังการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนส.ค. และนักลงทุนกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
📌 นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 271.66 จุด หรือ -0.78% ปิดที่ 34,607.72 จุดเมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) และตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงถึง 2.15% โดยได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า เฟดจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) พุ่งขึ้นอย่างมาก
📌 ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในรอบเกือบ 11 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในเดือนพ.ย. 2553 หลังจากดีดตัวขึ้น 7.8% ในเดือนก.ค.
📌 นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันอังคารที่ 14 ก.ย.นี้ เพื่อยืนยันทิศทางของภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมถึงการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 21-22 ก.ย.นี้ เพื่อดูว่า เฟดจะส่งสัญญาณปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมครั้งนี้หรือไม่
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) และปรับตัวลงมากกว่า 1% ในรอบสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการคุมเข้มนโยบายการเงิน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณที่จะชะลอการซื้อพันธบัตร
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) โดยยังคงปิดตลาดที่ระดับต่ำกว่า 1,800 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในวันศุกร์ ซึ่งจะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน
📌 ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลบในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อวันศุกร์ (10 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และกังวลว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
📌 ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดขยับลงเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ดัชนีนิกเกอิดีดตัวขึ้นสู่แดนบวกหลังจากตลาดเปิดทำการไม่นาน เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะกลับมาเปิดเศรษฐกิจในเร็วนี้ๆ หลังอัตราการฉีดวัคซีนครบโดสในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นกว่า 50% ของจำนวนประชากรในประเทศ
📌 นอกจากนี้ นักลงทุนยังซึมซับความเห็นของนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ที่กล่าวในวันศุกร์ว่า เงินเฟ้อในสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงในปีนี้ แต่จะปรับตัวลงในปีหน้า ขณะที่แนวโน้มมีความเสี่ยงในช่วงขาขึ้น โดยนางเมสเตอร์ได้กล่าวสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปีนี้ แม้สหรัฐมีการจ้างงานที่อ่อนแอในเดือนส.ค.ก็ตาม
📌 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาคที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ของญี่ปุ่น, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค.ของเกาหลีใต้,ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนส.ค.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) ของออสเตรเลีย รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนเดือนส.ค.อีกหลายรายการ
1
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.76 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดช่วงเย็นวันศุกรอยู่ที่ระดับ 32.64 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐในเดือน ส. ค.สูงเกินกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทำให้บอนด์ยิลด์ของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับนโยบายการเงินเร็วขึ้น "บาทอ่อนค่าจากเย็นวันศุกร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าเนื่องจากมีปัจจัยหนุนจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตสูงเกินคาด บอนด์ยิลด์ปรับตัว สูงขึ้นจากังวลกันว่าเฟดจะปรับนโยบายการเงินเร็วขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.65 - 32.85 บาท/ดอลลาร์
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1. KT-PRECIOUS
2. SCBGOLD (แบบไม่ Hedge)
3. SCBGOLDH (แบบ Hedge)
4. ASP-DISRUPT
5. ASP-EUG
6. ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
7. ASP-JHC
8. ASP-ROBOT
9. B-GTO
10.K-CHANGE-A
11.K-HIT
12.K-USA-A
13.K-USXNDQ-A
14.KF-EUROPE
15.KF-GTECH
16.KF-ORTFLEX
17.KF-US
18.KFHTECH-A
19.KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
20.KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
21.KT-EURO/K-EUSMALL
22.KT-WTAI-A
23.LHESPORT-A / WE-PLAY
24.LHINNO-A
25.BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
26.MATECH-A
27.M-EM
28.MFTECH
29.ONE-DISC-RA
30.ONE-UGG-RA
31.ONE-GECOM 💵💵💵
32.PRINCIPAL GCLOUD-A
33.PRINCIPAL GHEALTH-A
34.PWIN
4
35.SCBKEQTG 💵💵💵
36.SCBUSSM
37.TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
38.T-ES-GGREEN
39.T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO
40.T-GLOBALENERGY / MRENEW
41.TBIOTECH
42.TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
43.TCLOUD
44.TGENOME
45.TGHDIGI
46.TNEXTGEN / WE-CYBER
47.TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
48.TMBAGLF 💵💵💵
49.TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
50.TMBGQG
51.UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
52.UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
53.UEDTECH 💵💵💵
54.UEV
55.WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
56.WE-GOLD 💵💵💵
57.KFINFRA-A
58.B-INNOTECH
59.KFGBRAND-A
60.SCBS&P500
61.SCBDJI(A)
62.SCBNK225
63.WE-TENERGY / SCBCLEANA
64.K-WORLDX
65.T-Premium Brand
67. P-CGREEN
68. K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
69. KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70. WE-CANB, MCANN 💵💵💵
71. LHMOBILITY
72. TNEWENGY
73. PRINCIPAL GCLEAN-A
74. BCAP-CLEAN
3
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730, 1775 , 1800 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 ก.ย. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/613e07e61d35f30c5fa903f7
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
4
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 11 ก.ย. 2021 https://www.blockdit.com/posts/613cb99424255a0c6f16481a
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 12 ก.ย. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/613decf462258c0c580dbc9f
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
3
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Blockdit - blockdit.com/needoy
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - bit.ly/lineneedoy
📌YouTube - bit.ly/youtubeneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌Podbean : bit.ly/podbeanneedoy
📌Google Podcast : bit.ly/googlepodcastneedoy
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา