6 ก.ย. 2021 เวลา 18:15 • ท่องเที่ยว

วันแรงงานในอเมริกา + Ezoo และ ศักดิ์ศรีของชายไทย

ผ่านไปแล้วสำหรับงาน Ezoo งาน Music Festival ของเหล่าสาวก EDM สายตื๊ดๆ ไม่อยากจะบอก พี่ผ่านมาแล้วน้องเอ๊ย เรื่องราวจะเป็นอย่างไรตามอ่านกันได้ครับ
1
วันแรงงานหรือ  Labor Day เป็นวันหยุดราชการของอเมริกา จำง่าย ๆ คือ วันจันทร์แรกของเดือนกันยายน ซึ่งที่จริงแล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราพี่น้องคนไทย เหล่ามนุษย์ Labor แห่งห้องครัวอย่างเราซักกะหน่อย ร้านอาหารก็ยังคงเปิดเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมมาก็เห็นจะเป็นความยุ่ง ความ Busy ของร้านที่เพิ่มขึ้น ก็วันจันทร์มันเป็นวันหยุดมันเพิ่มขึ้นมา คนก็ออกมา Hang out มากขึ้นน่ะซิ
แต่ เอ็น.วาย.กู. ตอนนี้เราไม่ได้จะมาเล่าถึงวันแรงงาน เราจะมาเล่าให้ฟังถึงเทศกาลตนตรีที่เด็กเมกัน และเด็กไทยทั้งหลายต่างจับตามอง รอให้มันเวียนบรรจบมาครบได้ทุกปี เรียกได้ว่า ถ้ามาฝังตัวที่นิวยอร์กแล้วล่ะก็ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาโดนงานเทศกาลดนตรีนี้ให้ได้ล่ะ เทศกาลดนตรีนี้ มีชื่อว่า Electric Zoo Festival หรือเรียกันแบบหยาบๆว่า อีซู Ezoo ถ้าจะสุภาพต้องเรียกคุณซู ตึ่งโป๊ะ!
Electric Zoo Festival เป็นเทศกาลดนตรี EDM พวกเสียงสังเคราะห์ สายตื๊ดๆ นั่นแหละครับ โดยที่ EDM นั้นเริ่มเป็นที่นิยมทางฝั่งยุโรปตั้งแต่ช่วงปี 2000 ก่อนจะคลื่นความนิยมจะค่อย ๆ ซัดเข้ามาที่อเมริกา โดยเฉพาะฝั่ง Los Angeles, และ New York มีดีเจมากมายผลัดกันมาเล่นสดที่นี่
2
จนสุดท้ายเขาก็เลยจัดเป็นงานเทศกาลดนตรีกันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์แบบสามวันติด ใครสายถึก ก็จัดแบบสามวันไปกันยาวๆ เอาให้ตาตั้งกันไปเลยก็มี งานเริ่มตั้งแต่ 10 โมงเช้า ยัน 10 โมงเย็น วันจัดงานก็คือ สุดสัปดาห์ก่อนวันแรงงานนี่แหละ จะได้เมาปลิ้น เผื่อวันจันทร์เอาไว้ถอนได้
งาน Ezoo ก็เรียกว่าใหญ่ขึ้นทุกปีๆ ดีเจดังๆ แวะเวียนมาไม่ขาดสาย มีเวทีใหญ่ที่เล่นกันแบบจัดเต็ม ทั้งภาพทั้งเสียงก็หลายเวทีอยู่ แถมยังเหลือเวทีเล็กให้ดีเจที่ยังไม่ดังมากเล่นก็เยอะ แต่บอกก่อนเลยว่าราคาบัตรไม่ใช่ถูก ๆ นะครับ ตั๋วเข้ามา Ezoo วันนึงนี่ก็ร้อยกว่าเหรียญนะ บัตรแบบสามวัน นี่ก็ปาเข้าไปเกือบ $400-$500 ได้ เทียบเงินไทยก็เกือบ 15,000 บาท ขุ่นแม่ รวยอย่างเดียวไม่ได้นะเนี่ย ต้องชอบดนตรีด้วยซินะ เอิ๊กๆ
จะว่าไปผมนี่ก็จัดเป็นรุ่นปู่เลยก็ว่าได้ เพราะไปมาตั้งแต่ ปี 2000 ต้นๆ ดีเจดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Hardwell, Martin Garrix, Skrillex, DJ Snake, David Guetta, Armin หรือจะเป็น สตีฟ อาโออิ เอ๊ย! สตีฟ อาโอกิ 555 พวกรุ่นใหญ่พวกนี้ล้วนแต่ต้องเคยผ่านหู ผ่านตาผมมาก่อนทั้งนั้น
ว่าแล้วก็นึกถึงเรื่องวันวาน พอเข้าวัน Labor Day ก็เอาล่ะ พรรคพวกมาชวนไปตั้งวงแด๊นซ์กันล่ะ เตรียมของจำเป็นก็พร้อมมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกล้ามสีเจ็บๆ, กางเกงขาสั้น, Sneaker ที่ใส่สบายที่สุดและต้องไม่กลัวที่จะเละ, แว่นกันแดด, ยาดม และของที่สำคัญที่สุด ที่ห้ามลืมเลย คือ ธงชาติไทย!
มันถึงเวลาต้องประกาศศักดิ์ดาความเป็นไทยหน่อยหล๊าว!
บ่ายแก่ๆ ของวันเสาร์ วันที่สองของงาน Ezoo ขณะที่ผมกำลังนอนเล่นโทรศัพท์เพลินๆ อยู่นั่นเอง
“เฮ้ย จะไป Ezoo ยังวะ!” ไอ้โจ้ Roommate เพื่อนสนิทผม โพล่งเข้ามาในห้องแบบไม่เคยเคาะประตูตามสไตล์มัน โจ้เขาเกิดอาการกระสันอยากไปใจจะขาด หลังจากที่เห็นผมไปสุดเหวี่ยงมาเมื่อปีก่อน แล้วดันไปเล่าให้มันฟังว่า สาวๆ ในงานนี้ เขาแต่งตัวมาแบบเปรี้ยวจี๊ด เข็ดฟัน เหมือนใส่ชุดชั้นในมาเต้นกัน อะไรๆ มันก็เด้งดึ๋งไปหมด
เล่นเอาหนุ่มรุ่นกระทง วัยกลัดมันอย่างไอ้โจ้เกิดอาการหื่นขึ้น ขอตามติดไปด้วยในปีนี้
“รอก่อน มึงจะรีบไปไหนวะ เพิ่งจะบ่ายโมงเอง กว่าดีเจดังๆ จะมาก็โน่น เย็นๆ มึงจะรีบไปเปิดฟลอร์ขนาดนั้นเลย?” ผมบิดขี้เกียจพลางตอบไปแบบผู้ชำนาญการ อารมณ์เหมือนทหารเจนสมรภูมิ รบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
1
“ป่ะ ไปหาข้าวกลางวันแดกกันก่อนื ท้องว่างไม่ดีต่อสุขภาพ แล้วกูนัดน้องๆ ไว้ ล้อหมุน 3 โมง” ผมบอกโจ้ให้ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ สาวๆ ไม่หนีไปไหนหรอก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนดีกว่า
ผม, ไอ้โจ้กับน้องๆ ก็นั่งกินข้าว เติมพลังงานใส่ท้องให้พร้อม ก่อนจะเริ่มเดินทางกัน งาน Ezoo เขาจัดกันที่ Randall's Island Park แถวๆ Bronx นั่นแหละ ถึงหน้างานกันตอน 4 โมง ซึ่งเรียกว่าเป็น Prme Time เลยทีเดียว พวกเราเตรียมตัวกันอย่างดี จากนี้พวกเราจะเต้นกันยาวๆ ไปอีก 7 ชั่วโมง ยันงานเลิกเลยน่ะแหละ
พวกผมมากันเป็นกลุ่ม 7 คน ชาย 3 หญิง 4 ขนาดกำลังดี เหมาะในการเคลื่อนทัพ หรือจะปักหลักเต้นกันเองก็สนุกได้อยู่ หนึ่งในกฏเหล็กของงานก็คือ เวลาเดินนี่จับมือกันไว้ รวมกันเป็นกลุ่ม ห้ามหลง เพราะถ้าหลงนี่บอกเลยว่าหาลำบาก คนเกือบแสนมารวมตัวกันอยู่ในงานนี้
1
พอเข้างานปั๊ป พวกผมก็หาไรดื่มกินกันให้พอกึ่มๆ จะได้เต้นสนุกๆ ส่วนไอ้โจ้นี่ก็ได้แต่ตื่นตา ตื่นใจกับสาวๆ ที่เรียกได้ว่ามาแบบทุกเชื้อชาติ แต่ละคนก็แต่งองค์ ทรงเครื่องกันมาแบบแข่งกันโป๊ นับชิ้นแล้วไม่เกินสาม! เรียกว่า ถูกใจโจ้เขาล่ะ!
พี่แกก็กระโดดเหมือนม้าดีดซะตั้งแต่เข้างาน ฝรั่งเข้าเต้น Shuffle อะไร โจ้ไม่สน บอกเต้นไม่เป็น เป็นแต่หมอลำซิ่ง มือไม้ไปหมด โอ๊ยยย…ม่วนขนาด ฝรั่งยังต้องหลบ กึ่งงงกึ่งกลัวว่า ไอ้เวรนี่มันเต้นอะไรของมัน ไปโดนตัวไหนมา!
พวกเราก็เต้นไป ดื่มไป สนุกสนานกันตามประสา ธงชาติไทยก็โบกสะบัดไปเรื่อยๆ  มีเพื่อนๆ ทั้งฝรั่งทั้งคนไทย เห็นธงชาติไทยก็แวะเวียนมาเซย์ Hello กันเรื่อยๆ บอกเลยว่าธงชาติทั่วโลกเต็มไปหมดครับ สมกับเป็นนิวยอร์กเมืองที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากที่สุดในโลก
เวลาก็ล่วงเลยไป ผมเต้นจนเหนื่อยก็ออกมาพักบ้าง ไปหาอะไรดื่มบ้าง มีแต่ไอ้โจ้นี่แหละครับ ที่ยังเต้นไม่เซิ้งไปไม่หยุด จนห้าหกโมงนี่แหละ แค่แวะไปซื้อเบียร์ กลับมาที เฮ้ย ใครไปนั่งอยู่บนหัวไหล่เอ็งวะ ไอ้โจ้!
คือ ไอ้โจ้มันเต้นมันส์มาก จนแก๊งค์สาวเกาหลีข้างๆ เขาหันมามอง ก็ด้วยความที่เป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน ก็เลยมารวมกลุ่มเต้นกัน ถูกันไปถูกันมา ไอ้โจ้คึก เห็นสาวแดนกิมจิ ตัวเท่าหัวไหล่ก็เลยบอก
“ยูๆ มาชั้นแบกเธอเต้นเอง” โจ้ชวนสาวแดนโสมตัวน้อย น่ารักๆ คนนึงที่มาเต้นอยู่ข้างๆ ผมก็นึกว่าเอาแล้วเอ็ง จะมันส์เกินไปหรือเปล่า เดี๋ยวเขาหาว่าเราไปแทะโลมหรือเปล่านะ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง 555
แต่ยังไม่ทันจะได้เข้าไปเบรก แม่นางกิมจิก็กระโดดขึ้นขี่คร่อมคอไอ้โจ้ ก่อนจะลุกขึ้นแบบสบายๆ ก่อนส่งธงชาติไทยให้นางไปโบก ส่งให้สาวกิมจิกลายร่างเป็นลูกสะใภ้แดนสยามไปซะอย่างนั้น โอ๊ย อิจฉาโว๊ย!
โจ้ก็เต้นไปกระโดดไปเหมือนไม่หนักไป อีกพักใหญ่ๆ สาวเจ้าคงรู้สึกเมื่อยง่ามก้น อยากจะลงมาเต้นเองบ้าง ก็ลงมาเต้นกันอีกยกนึง ก่อนที่สุดท้ายจะกอดลาแยกจากกันไป
1
เล่นเอาโจ้ซึมไปเลยพักนึง เพราะนางไปได้ไปมือเปล่า แต่ได้เปิดซิง พรากเอาพรหมจรรย์ตรองซอกคอของหนุ่มไทยติดตัวไปด้วย เล่นเอาโจ้เองถึงกับเต้นบ้าเต้นบออะไรของมันไปอีกยกใหญ่ๆ กว่าจะสงบอารมณ์อยู่
“เต้นไว้จะได้ลืมเธอ!” ไอ้โจ้บอก
“ถุย มึงเพิ่งเจอเขาไม่ถึงชั่วโมง จะรัก จะหลงอะไรขนาดนั้นมีง” ผมอยากจะอ๊วกให้กับความเว่อร์ของมัน แต่ผ่านไปแป๊ปเดียว โจ้ก็กลับไปเต้นสนุกสนานของมันตามเดิม
พอเข้าช่วงสองสามทุ่ม บรรยากาศเริ่มมืด เป็นช่วง Final ของงานล่ะ ผู้คนเริ่มมารวมตัวกันที่เวทีใหญ่ เพราะ DJ คนสุดท้าย คือ David Guetta ที่ดังมาก ผมซึ่งมีประสบการณ์มาก่อน รู้ดีว่าตอน 7 โมง เราต้องมารวมตัวกันที่ ตรงหน้าเวทีใหญ่ ไม่ต้องไปใกล้มาก เสียงดัง คนแน่นเกินไป เต้นไม่ได้ แต่ก็ต้องไม่ไกลเกินไปจากลำโพง ไม่งั้นเต้นไม่สนุก ก็เจนสนามจนจองได้ทำเลทองมาเลยล่ะ ก็กางมุ้ง เซิ้ง-เต้น-โดดไปจนผ่านไปหลายเพลง มันส์มากกกกก
จนถึงสามทุ่มที่เรียกว่าเป็นช่วงพีคของงาน ขณะที่พวกเรากำลังสนุกสนานกันอย่างออกอรรถรสอยู่นั้น ก็มีกลุ่มฝรั่ง ประกอบด้วยหญิง 3 คน ชาย 2 คน โผล่มาแจมกับพวกเรา คุยกันพอรู้ว่า พวกเขามาจากยุโรป เป็นขาประจำงาน EDM นี่มางาน Ezoo โดยเฉพาะเลย เห็นพวกผมเต้นกันสนุกมาก ก็เลยมารวมกลุ่มเต้นด้วย
พวกผมซึ่งเมากันได้ที่แล้ว เฮมาก็เฮไป เต้นกันพักใหญ่ เลือดลมหนุ่มยุโรป มันก็คงพลุ่งพล่านตามประสา เพื่อนฝรั่งชาย 2 คนของพวกนาง ก็แบกพวกนางขึ้นบนบ่าครับ แล้วเหลืออยู่นางนึงที่ไร้คู่ บอกก่อนว่า พวกนางนี่ตัวใหญ่ไม่ใช่เล่น ๆ นะ สูงน่าจะ 170 เลยเชียว คือ ไซส์ฝรั่งยุโรป เนื้อ นม ไข่ แล้วหวยจะไปออกที่ใครล่ะ ถ้าไม่ใช่ไอ้โจ้!
“มาๆ กูเอง C'mon!” โจ้เสียงดังเสนอตัวเข้ามาอย่างมั่นใจ พลางตบหน้าอกตัวเอง เสียงดังป๊าป แหกปากเรียกพลัง ส่งสัญญาณพร้อม บอกนางให้มาได้เลย พวกผมก็แบบ เฮ้ย มึงเอาจริงหรือวะ? คือ โจ้น่ะตัวสูงกว่านางหน่อย แต่ดูจากความหนาแน่นของมวลกระดูกแล้ว โจ้น่าจะแพ้คะแนนนะ 555 แต่ผมเห็นเพื่อนอยากจะสัมผัสประสบการณ์ลองกลิ่นฝรั่ง เอ๊ย ลองแบกฝรั่ง ก็ได้แต่ส่งเสริมเพื่อนรัก
“โอกาสมาแล้ว เต็มที่นะมึง” ผมตบไหล่เพื่อนรัก โจ้กระดี้กระด้า กับโอกาสที่จะได้สัมผัสฝรั่งสาวตัวเป็นๆ ซึ่งโจ้มั่นใจในพละกำลังของตัวเองพอตัวครับ แหม่ หนึ่งในจตุรเทพ Bus Boy คนไทยของร้านทะเล แบกจานชาม ของหนักมานักต่อนักแล้ว แค่แบกแหม่มฝรั่งหัวทอง มันจะหนักเท่าไรกันเชียว
โจ้นั่งย่อตัวลง นางคร่อมทันทีแบบไม่เกรงใจ ผลั่ก! โจ้ตัวยุบไปเลย เมื่อน้ำหนักของแหม่มสาวกดลงบนไหล่สองข้าง
“ไหวนะมึง” ผมถามโจ้
“เฮ้ย ไม่ต้องห่วง สู้โว้ย!!” โจ้ตอบดัง สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะลุกขึ้นด้วยท่าคลีนแอนด์เจอร์ค สาวฝรั่งร้องกรี๊ด สนุกสนาน ตบมือ High Five กับเพื่อนนางอีกสองคนอย่างมีความสุข
“โอ๊ย ๆ” โจ้ร้อง ผมตกใจนึกว่าเพื่อนเป็นอะไร
“จิ๋มชนหัวว่ะ! 555” โจ้บอก หัวเราะร่า ว่าแล้วก็กระโดดตี๊ดๆ โยกไปกับเพลงแบบเหมือนไม่หนักครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ พลังของหนุ่ม ตจว.อันล้นเหลือจริงๆ ส่วนแหม่มสาวก็ทำงานเล่นครับ หลังจากรับธงไป ก็โบกซะอย่างกับเป็นคนไทย เดี๋ยวแจกสัญชาติไทยให้ซะเลย!
1
สาวฝรั่งก็มีเล่นหูเล่นตากับเพื่อนโจ้ ลูบหัวจับมือกันแบบใกล้ชิด โจ้ก็มีความสุข ท่าทางเหมือนไม่หนัก แหม่ เพื่อนเรามีความสุข ผมก็หมดห่วง ก็เต้นกันไปอีกพักใหญ่ๆ พอเพลงหยุดให้ได้หายใจหายคอกันนิดนึง หันไปหาไอ้โจ้ทีก็ตกใจซะแทบหายสร่าง เพราะเหงื่อมันไหลอย่างกับเขื่อนแตก ท่าทางไม่สดเหมือนตอนแรก คล้ายๆ แบ็ตหมด
“เฮ้ย มึงไหวเปล่าเนี่ย?” ผมถามพลางเอายาดมให้ โจ้คว้าไปสูดเฮือกใหญ่ๆ ก่อนจะเชิดอกขึ้นมาอีกครั้ง
“สบายๆ ไหวอยู่ๆ ไม่ทำให้เสียชื่อชายไทยอยู่แล้ว” เพื่อนโจ้บอก ก่อนจะเล่าต่อ “ความภาคภูมิใจของหนุ่มไทย โจ้ 10 นิ้ว มันค้ำคออยู่!” โจ้บอก ตราบใดที่สองฝรั่งยังแบกเพื่อนนางได้อยู่นั้น โจ้จะยอมแพ้ ปล่อยนางลงก่อนได้อย่างไร
โชคดีที่พอผ่านไปอีกสักเพลงสองเพลง พวกเพื่อนชายของนางก็วางพวกนางลง โจ้รีบเป่าปากบอกนางว่าลงได้แล้ว นางทำท่าเสียดายก่อนจะลงแต่โดยดี แหม่ โยกอยู่บนหัวของคนอื่นเป็นสิบนาทีนี่หว่า มันจะไปหนักตรงไหนล่ะคร๊าบบ 555
เพื่อนโจ้ขอยาดมทันที ก่อนจะหน้าซีดยืนดมยา อีกมือก็ค้ำไหล่ผมอยู่
“โอเคเปล่ามึง?” ผมถาม
“หนักสัส แต่ไม่เป็นไร กูโอเคอยู่” โจ้ตอบ พลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ๆ ก่อนจะเอามือแตะหลังหัวแล้วเอามาดม
“หอมกลิ่นปูดองฝรั่ง  ชื่นจายๆ” โจ้บอกพลางยิ้มร่า ก่อนจะกลับมาเต้นต่ออีกทียันจบงาน ก่อนจะบอกว่า ชอบมาก ปีหน้าขอมาใหม่ เดี๋ยวๆ งานเพิ่งจบนะ มึงจะมานัดข้ามปีอะไรแบบนี้ไม่ได้! 555
แต่งานมันยังไม่จบแค่นั้นซิครับ คืนนั้นพวกเราจะไปต่อ After Party กันที่ผับชื่อ Pacha ใน Manhattan พวกขาเต้นจากในงานคนไหนยังดีดอยู่ หรือยังไม่จบดี ก็จะมาต่อกันที่นี่แหละครับ เรียกว่า คนแน่นนรกแตก! วันนั้นพวกเราจัดกันยันตะวันขึ้นกันไปเลย กว่าจะได้ลงจากยานแม่ ก็เกือบเก้าโมงเช้า! ร่างพังกันไป กว่าจะกลับบ้าน กว่าจะฟื้นก็นู่นแล้ว ตอนเย็นๆ ของวันแรงงาน ก็เจอกับเสียงครวญครางของโจ้
“โอ๊ยๆๆ ปวดขา ปวดหลัง ปวดไหล่ฉิบหาย ร้าวไปทั้งตัว โอ๊ยๆ” โจ้บอกก่อนจะสาธยายว่า ร้าวตั้งแต่คอลงมาถึงกลางหลัง สันนิษฐานว่าเกิดจากแบกสาวหัวทองเต้นนี่แหละ
“ก็มึงดีดซะขนาดนั้น จะไปเหลือเหรอ เป็นไงล่ะมึง เข็ดไหม?” ผมถาม
“ไม่เข็ดโว๊ย ปีหน้ากูจะเอาไหม กูจะฟิตกล้ามเพิ่มด้วย จะได้แบกสาวๆ ได้นานๆ" โจ้บอก ก่อนจะบอกต่อว่า
"ศักดิ์ศรีของชายไทยตั้งอยู่บนหัวไหล่กู!”
หากคุณผู้อ่านชอบใจ สามารถกดไลค์ Comment ให้กำลังใจ ติดตาม Update เรื่องราวตอนอื่น ๆ ของ เอ็น.วาย.กู. NYKU: New York Kitchen University เรื่องวุ่น ๆ ของมนุษย์ห้องครัวในมหานครนิวยอร์ก หรือ Podcast (Blockdit) ได้ ได้ที่
1
#เอ็นวายกู #nyku #newyorkkitchenuniversity #คนไทยในนิวยอร์ก #มหาลัยห้องครัว #ชีวิตเด็กเสิร์ฟ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา