10 ก.ย. 2021 เวลา 03:46 • หนังสือ
#75 เล่ม 3 บทที่ 18 หน้า 386 ~ 390
N : เล่าเกี่ยวกับอารยธรรมที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงและสิ่งมีชีวิตที่มีวิวัฒนาการขั้นสูงให้ผมฟังมากกว่านี้หน่อยครับ นอกเหนือจากเรื่องว่าพวกเขาไม่ฆ่ากันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ยังมีอะไรอีกบ้างที่ทำให้พวกเขาต่างจากพวกเราครับ❓
G : พวกเขา 🔸แบ่งปัน🔸
N : เฮ้ พวกเราก็แบ่งนะครับ❗
G : ไม่ใช่อย่างนั้น
💥 พวกเขาแบ่งปัน ‘ทุกอย่าง’ กับ ‘ทุกคน’ ไม่มีใครไม่แบ่งปัน ทรัพยากรทุกชนิดบนโลกและสิ่งรอบตัวของพวกเขาทุกอย่างจะถูกแบ่งปันอย่างเท่าเทียมและแจกจ่ายให้กับทุกคน
💥 ไม่มีการมองว่าประเทศ กลุ่ม หรือวัฒนธรรมใดๆ “เป็นเจ้าของ” ทรัพยาการทางธรรมชาติเพียงเพราะตนบังเอิญอยู่บนพื้นที่ทางกายภาพที่ทรัพยากรเหล่านั้นถูกค้นพบหรือปรากฏขึ้น
💥 ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง (หรือหลายดวง) ที่กลุ่มของสายพันธุ์ต่างๆเรียกว่า “บ้าน” จะถูกมองว่าเป็นของทุกคน เป็นของทุกสายพันธุ์ที่อยู่ในระบบนั้น จริงๆแล้วดาวเคราะห์หรือกลุ่มดาวเคราะห์เองจะถูกมองว่าเป็น “ระบบ” หนึ่ง เป็นระบบองค์รวม ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มก้อนของชิ้นส่วนหรือของหน่วยต่างๆที่มาประกอบกัน ซึ่งสามารถกำจัด ทำลาย หรือขจัดออกไปได้โดยไม่ก่อความเสียหายต่อระบบโดยรวม
N : ที่เราเรียกว่า ‘ระบบนิเวศ’
G : มันกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งกว่านั้นอีก มันไม่ใช่แค่ระบบทางนิเวศวิทยาที่เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง : ทรัพยากรธรรมชาติของดาวเคราะห์ กับ ผู้อยู่อาศัยบนดาวเคราะห์เท่านั้น
แต่ยังเป็นความสัมพันธ์ระหว่าง :
▶️ ผู้อยู่อาศัย กับ ตัวเอง
▶️ ผู้อยู่อาศัยด้วยกันเอง และ
▶️ ผู้อยู่อาศัย กับ สภาพแวดล้อมอีกด้วย
✨มันคือสหสัมพันธ์ของชีวิตทุกสายพันธุ์✨
N : มันคือ “ระบบค้ำจุนสายพันธุ์”❗ (speciesystem)
G : ถูกต้อง❗ ฉันชอบคำที่เธอใช้❗ เป็นคำที่เข้าท่า❗ เพราะที่เราคุยกันตรงนี้มันกว้างไกลกว่าแค่ระบบนิเวศ มันเป็นระบบค้ำจุนสายพันธุ์จริงๆนั่นแหละ หรืออย่างที่บักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์★ เรียกมันว่า โนโอสเฟียร์ (noosphere) หรือ “แก่นแท้ของระบบองค์รวมที่มีชีวิตและวิวัฒนาการอยู่ตลอด”
[★Buckminster Fuller สถาปนิกแนวอนาคตนิยมใหม่ นักออกแบบ นักประดิษฐ์ นักทฤษฎีระบบ นักกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม และนักประพันธ์ และเป็นผู้คิดคำว่า “Spaceship Earth” หรือ “ยานโลก” – ผู้แปล]
N : ผมชอบคำว่า ‘ระบบค้ำจุนสายพันธุ์’ มากกว่า มันเข้าใจง่ายกว่า แต่ผมก็สงสัยมาโดยตลอดว่าข้างในโนโอสเฟียร์นี่มันมีอะไร❗
G : “บักกี้” ก็ชอบคำของเธอเหมือนกัน เขาไม่ใช่คนยึดติด ปกติเขาก็มักจะชอบอะไรก็ตามที่ทำให้เรื่องราวมันเรียบง่ายขึ้น หรือเข้าใจได้ง่ายขึ้น
N : พระองค์กำลังคุยอยู่กับบักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ อยู่ตอนนี้หรือไง❓ พระองค์ได้เปลี่ยนการพูดคุยกันนี้ให้เป็นการติดต่อกับพวกภูตผีไปแล้ว
G : เอาเป็นว่าฉันมีเหตุผลที่จะรู้ว่าแก่นแท้ของสิ่งที่ระบุตัวเองว่าเป็น บักมินสเตอร์ ฟุลเลอร์ นั้นยินดีกับคำใหม่ของเธอ
N : ว้าววว นี่มันสุดยอดไปเลย ผมหมายความว่า มันแจ๋วมาก...ที่รู้อะไรแบบนั้นได้
G : เห็นด้วย
N : ถ้าอย่างนั้นในวัฒนธรรมที่มีวิวัฒนาการขั้นสูง ระบบค้ำจุนสายพันธุ์ก็คือสิ่งสำคัญ
G : ถูกต้อง แต่ไม่ใช่ว่าความเป็นปัจเจกไม่สำคัญนะ ตรงกันข้ามเลย การที่แต่ละคนมีความสำคัญจะถูกสะท้อนผ่านความจริงที่ว่า 🔸เมื่อจะตัดสินใจในเรื่องใดๆก็ตาม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ “ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับระบบค้ำจุนสายพันธุ์”🔸
🌟 เป็นที่เข้าใจกันดีว่าระบบค้ำจุนสายพันธุ์จะค้ำจุนทุกชีวิต (และทุกคน) ในระดับสูงสุด
🌟 ฉะนั้นการไม่ทำสิ่งที่เป็นโทษหรือทำอะไรก็ตามที่ทำร้ายระบบค้ำจุนสายพันธุ์จึงเป็นการประกาศว่า ‘ปัจเจกแต่ละคนนั้นสำคัญ’
ไม่ใช่แค่คนที่มีสถานะ มีอิทธิพล หรือมีเงิน ไม่ใช่แค่คนที่มีอำนาจ มีตำแหน่ง หรือมีการตระหนักรู้มากเท่านั้น
✨แต่เป็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของทุกสายพันธุ์ในระบบ✨
N : มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง❓ มันเป็นไปได้หรือครับ❓ บนดาวเคราะห์ของเราความต้องการและความจำเป็นของบางสายพันธุ์ต้องสำคัญน้อยกว่าความต้องการและความจำเป็นของอีกสายพันธุ์สิครับ ไม่อย่างนั้นเราก็ไม่สามารถมีประสบการณ์ถึงชีวิตอย่างที่เรารู้จักได้
G : ช่วงเวลาที่พวกเธอจะไม่สามารถมีประสบการณ์ถึง “ชีวิตอย่างที่พวกเธอรู้จัก” นั้นใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว (💢พวกเธอใกล้จะทำลายตัวเองเข้าไปทุกทีแล้ว💢) เพราะพวกเธอกดความจำเป็นของสายพันธุ์อื่นเกือบทั้งหมดไว้เพื่อสนองความปรารถนาของสายพันธุ์เดียว
N : สายพันธุ์มนุษย์
G : ถูกต้อง แล้วก็ไม่ใช่สมาชิกทั้งหมดของสายพันธุ์ด้วยซ้ำ แต่แค่หยิบมือเดียว ไม่แม้กระทั่งคนส่วนใหญ่ (ซึ่งอาจพอมีเหตุผลบ้างหากเป็นอย่างนั้น) แต่เป็นคนส่วนน้อยมากๆ
N : พวกที่รวยที่สุดและมีอำนาจมากที่สุด
G : อย่างที่เธอบอกนั่นแหละ
N : เอาอีกล่ะ ประณามคนรวยกับคนที่ประสบความสำเร็จอีกล่ะ
G : ไม่ใช่เลย อารยธรรมของพวกเธอไม่สมควรถูกประณาม พอๆกับที่เด็กเล็กในห้องไม่สมควรถูกประณาม
💥 มนุษย์จะยังทำอย่างที่ตัวเองทำอยู่ต่อไป (ทั้งกับตัวเองและกับคนอื่น) จนกว่าจะรู้ซึ้งว่ามันไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองอีกต่อไปแล้ว ประณามให้ตายก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้
ถ้าการประณามจะเปลี่ยนสิ่งต่างๆได้ ป่านนี้ศาสนาของพวกเธอก็คงจะมีประสิทธิภาพมากไปตั้งนานแล้ว
N : โอ้ววว พระองค์ด่าทุกคนเลยใช่มั้ยเนี่ยวันนี้❓
G : ฉันไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น “ข้อสังเกต” เหล่านี้มันจี้ใจดำของเธอมากเลยเหรอ❓
เราลองมาดูกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เราทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าความจริงมักทำให้อึดอัด แต่ทว่าหนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นเพื่อนำความจริงมาให้เธอ ไม่ต่างจากหนังสือเล่มอื่นที่ฉันดลใจ รวมถึงภาพยนต์และรายการโทรทัศน์ต่างๆ
N : ผมไม่แน่ใจว่าผมอยากสนับสนุนให้ผู้คนดูโทรทัศน์กันหรือเปล่า
3
G : จะดีจะร้ายยังไงโทรทัศน์ก็เป็นที่ชุมนุมของสังคมเธอ มันไม่ใช่ ‘ตัวสื่อ’ (medium) หรอกที่พาเธอออกนอกเส้นทางที่เธอบอกว่าเธออยากไป แต่เป็น ‘ตัวสาสน์’ (messages) ที่เธอยินยอมให้ใส่เข้าไปในนั้นต่างหาก จงอย่าประณามสื่อกลาง เพราะเธออาจต้องใช้มันในวันใดวันหนึ่ง เพื่อส่งสาสน์ที่ต่างไปจากเดิม...
N : ขอย้อนกลับไปหน่อยนะครับ ขอกลับไปที่คำถามก่อนหน้านี้ ผมยังอยากรู้ว่าทุกสายพันธุ์ในระบบค้ำจุนสายพันธุ์จะได้รับการตอบสนองตามความจำเป็นของแต่ละสายพันธุ์อย่างเท่าเทียมกันได้ยังไง❓
...
...
...

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา