24 ก.ย. 2021 เวลา 06:28 • คริปโทเคอร์เรนซี
Dogecoin standard ตอนที่ 26 ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง POW and POS ต่อการคงอยู่ของเหรียญ
ข่าวล่าสุดตอนนี้เหรียญ Eterium กำลังทำ hard frok จะเปลี่ยนเป็น ETH 2.0 โดยหัวใจหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือ จากระบบ prove of work มาเป็น prove of streak
เนื่องจากระบบ Eterium มีความเร็วในการทำธุรกรรมแค่ 30 รายการต่อวินาทีซึ่งช้า ส่วนบิทคอยน์อยู่ที่ 7 รายการต่อวินาที บิทคอยน์ช้ามาก ส่วน Dogecoin อยู่ที่ 70 รายการต่อวินาที ซึ่งเร็วสุดในบรรดาเหรียญ POW 3 ตัวนี้
พอเปลี่ยนเป็น POS ความเร็วขึ้นเป็น 100,000 รายการต่อวินาทีเลย แต่ก็ต้องแลกกับอะไรบางอย่าง คือความเป็น decentralised ลดลง และไม่มีการขุดเหรียญ mining
การเปลี่ยนแปลงระบบครั้งใหญ่ของ ETH ข้อมูลจาก finnomena
แปลว่าในอนาคตต่อไป Eterium จะไม่มีขุดเหมืองหาเหรียญอีกต่อไป จะเปลี่ยนเป็นใช้เหรียญไปวาง streak แล้วได้ดอกเบี้ยเป็นเหรียญแทน
คล้ายๆ ระบบธนาคารในปัจจุบันที่การรับฝาก แล้วให้ดอกเบี้ยนั่นเอง ซึ่งดูแล้วไม่ดี เพราะการเพิ่มเหรียญ โดยการจ่ายดอกเบี้ย ไม่สามารถเพิ่มอัตราหมุนเวียนได้
อย่างประเทศญี่ปุ่น คนเก็บเงินกันไว้อย่างดี จนเกิด dead money สูงมาก คือฝากยาวจนลืม ขนาดดอกเบี้ยติดลบ ก็ยังฝากกัน รัฐบาลพิมพ์เงินเท่าไหร่ การหมุนเวียนก็ยังต่ำเหมือนเดิม
พอไม่มีการขุดเหรียญเพิ่มขึ้นมา และแถมยังรับฝากเหรียญอีก ถ้าเป็นรูปแบบนี้ ปริมาณ supply ของ ETH จะลดลงอย่างรวดเร็วในปีนี้เลย ก่อนบิทคอยน์
ราคาก็อาจจะขึ้นไปในช่วงสั้น ๆ เพราะคนเก็งว่าของจะขาด แล้วราคาเพิ่มขึ้น พยายามถือกันมากขึ้น
แต่สุดท้ายก็จะเจอ dead money คือปริมาณเหรียญหมุนในระบบค่อย ๆ หายไปปีละ 4%แบบที่ระบบการเงินปัจจุบันเจออยู่ คือคนฝากเงินแล้วลืมไปเลย
10 ปี เหรียญหมุนเวียนจะเหลือ 66.5%
20 ปี เหรียญหมุนเวียนจะเหลือ 44%
40 ปี เหรียญหมุนเวียนจะเหลือ 19%
80 ปี เหรียญหมุนเวียนจะเหลือ 4%
100 ปี เหรียญหมุนเวียนจะเหลือ 1%
บิทคอยน์มี dormancy coin ถึง 17.8 ล้านเหรียญจากเหรียญที่มีทั้งหมด 18.8 ล้านเหรียญ เหลือหมุนเวียนแค่ 1 ล้านเหรียญ หรือการหยุดหมุนของบิทคอยน์จะเร็วกว่าที่คาดไว้
เหรียญจะค่อย ๆ หดตัวลง จนใช้การไม่ได้ในที่สุด อันนี้ อีลอน มัส เคยพูดถึงบิทคอยน์ไว้
สุดท้ายในระยะยาว Eterium หรือ ADA ที่ใช้ POS ก็จะค่อยๆ ถูกลืมไปในที่สุด. เหมือนกับบิทคอยน์ เช่นกัน ให้เราคอยสังเกตปริมาณ volume น่าจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อยๆ
ถ้าเก็งกำไรระยะสั้น น่าจะพอได้สำหรับเหรียญทั้ง 3 เหรียญนี้ แต่ถ้าให้ถือยาว 10-20 ปีขึ้นไป น่าจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ดังนั้นผู้เขียนจึงชอบระบบ POW มากกว่า POS เพราะมีการขุดเหรียญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เหรียญหมุนเวียน ไม่ลดลง ทำให้ยังมีเงินหมุนเวียนคงที่ต่อไปได้
บิทคอยน์ช่วงแรกก็ทำหน้าที่ตรงนี้ได้ แต่พอลดอัตราผลิตเหรียญไปทีละครึ่ง ตอนนี้เงินหมุนเวียนก็ชักไม่ค่อยพอแล้ว
หน้าที่นี้จึงน่าจะเป็นของ Dogecoin ในช่วงเวลาหลังจากนี้
1
เป็นหน้าที่ของคำว่า currency ที่แท้จริง และน่าจะเป็น one world currency ด้วยในที่สุด ถ้าคนมีความรู้มากขึ้น
ระบบ algorithms ที่ใช้ ก็เป็นตัวคาดเดาอนาคตของเหรียญนั้น ๆ ในระยะยาว คล้ายปัจจัยพื้นฐานของหุ้นได้เหมือนกัน
ถ้าทฤษฎีของผู้เขียนถูกต้อง bitcoin ที่ใช้ POW แต่มี halving ทุก 4 ปี ETERIUM ADA ที่ใช้ POS จะค่อย ๆ ถูกลืมเลือนไปในที่สุด โดยที่ volume การซื้อขายน่าจะลดลงเรื่อย ๆ ตามเวลา ให้สังเกตจากจุดนี้ จากการถือเหรียญลืม
1
อย่าลืมกดไลค์กดแชร์กดติดตามเพื่อจะได้ไม่พลาดบทความดีๆ ต่อไป
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา