Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โค้ชปกรณ์ สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร
•
ติดตาม
25 ก.ย. 2021 เวลา 01:16 • สุขภาพ
น้ำหนักจะไม่หยุดนิ่งหากคุณเข้าใจเรื่องนี้!
1
การที่น้ำหนักหยุดนิ่ง แปลว่า ไขมันสะสมไม่ได้ถูกใช้เป็นพลังงาน หากไขมันถูกเผาใช้เป็นพลังงาน = น้ำหนักจะลดลงครับ
1
หากคุณมีปัญหาน้ำหนักหยุดนิ่ง นั่นแสดงว่าอาหารของคุณมีปัญหา ร่างกายได้รับพลังงานพอใช้ จึงไม่จำเป็นต้องเผาไขมันมาใช้
ร่างกายเราเป็นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ สามารถรีไซเคิลทุกอย่างมาเป็นพลังงานได้ เช่น
-หากร่างกายขาดโปรตีนจากอาหาร เช่นการกินน้อยเพื่อหวังจะให้ผอมลง กล้ามเนื้อจะถูกสลายเป็นกรดอะมิโนให้ร่างกายใช้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหาย อัตราเผาผลาญต่ำลง ลดน้ำหนักยากขึ้น
โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่สุด เมื่อเรากินโปรตีน ระบบร่างกายจะเปลี่ยนเป็นกรดอะมิโนไปสร้างเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ผม เล็บ เม็ดเลือด รวมทั้งนำไปสร้างเอนไซม์และฮอร์โมนเพื่อผลัดเซลล์เก่าเสื่อมสภาพตลอดเวลา
1
โดยโปรตีนที่โค้ชแนะนำคือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมในวันที่ทำกิจกรรมปกติ หรือหากมีการใช้แรงมากขึ้น ควรกินโปรตีนมากขึ้นตามความหนักเบาของการใช้แรงครับ
หากคุณกินโปรตีนไม่เพียงพอ ร่างกายจะส่งสัญญาณบอกว่าคุณทานอาหารประเภทโปรตีนน้อยเกินไปแล้ว เช่น
คุณอาจมีปัญหากล้ามเนื้ออ่อนแรง อ่อนเพลีย ไม่กระฉับกระเฉง ผิวหนังแห้งดูแก่ก่อนวัย เป็นแผลจะหายช้าเพราะขาดโปรตีนในการซ่อมแซม คุณจะรู้สึกหิวบ่อยตลอดวัน เจ็บป่วยง่าย และหายป่วยใช้เวลานาน
ดังนั้น สารอาหารประเภทโปรตีนมีความสำคัญมากๆคุณจึงควรทานทุกวันให้พอใช้นะครับ
1
กลับมาพูดถึงโปรตีนในส่วนของพลังงาน โปรตีนเองก็สามารถเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้โดยกรดอะมิโนกลูโคจีนิค หากร่างกายเกิดภาวะขาดแคลนอาหาร (แต่ก็ไม่ใช่กลไกการสร้างน้ำตาลหลักของร่างกาย)
การอดอาหาร กินโปรตีนน้อยก็ผอมลงได้ครับ แต่น้ำหนักที่ลดลงเป็นกล้ามเนื้อที่หายไป ผอมแบบดูแก่ก่อนวัย ดูเหี่ยวโทรม และเกิดผลข้างเคียงต่างๆข้างต้น!
- มาดูในส่วนคาร์โบไฮเดรตกันครับ เมื่อร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตจากอาหาร หรือคุณกินคาร์โบไฮเดรตต่ำ ร่างกายก็จะไปดึงไกลโคเจนมาใช้ โดยเอาไกลโคเจนจากตับ มาผลิตเป็นน้ำตาลส่งให้ร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาล
2
(**การสร้างกลูโคสจากตับนี้เองที่เป็นกระบวนการหลักของการสร้างน้ำตาลของร่างกาย และเป็นสัญญาณในการเบิกใช้พลังงานไขมันครับ)
ไกลโคเจนเป็นถังเก็บพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ในกล้ามเนื้อและในตับ ไกลโคเจนถือเป็นอาหารสะสมประเภทคาร์โบไฮเดรตในร่างกาย
2
( เวลาคุณกินแป้งเยอะๆคุณจะรู้สึกตัวบวมตัวแน่นขึ้นครับ )
พอไกลโคเจนในตับเริ่มขาดแคลน เริ่มมีการผลิตน้ำตาลจากไกลโคเจนในตับเข้าสู่กระแสเลือด ร่างกายก็เริ่มเผาไขมันสะสมมาใช้ โดยร่างกายจะสั่งให้ตับผลิตคีโตนจากไขมันสะสมมาใช้เป็นพลังงานทดแทนคาร์โบไฮเดรตที่มีไม่พอ หรือเกิดการใช้กรดไขมันอิสระเพื่อใช้แทนพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ที่มีไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา
1
ตรงนี้แหละครับ!!ที่ทำให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ จากไขมันที่ลดลงไม่ใช่กล้ามเนื้อที่หายไปเหมือนกันกินน้อยขาดโปรตีน!!
การคุมคาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว อาจทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก คุณจึงก็ต้องคุมไขมันด้วย!
ปัจจุบันนี้หลายคนมีความรู้เรื่องไขมันดีว่ามีประโยชน์ก็เลย นิยมกินกันมาก
ไขมันดี คือไขมันที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม ส่วนไขมันเลว คือ ไขมันที่ผ่านกระบวนการทางอุตสาหกรรม(processed foods) มีการเติมเคมี เปลี่ยนแปลงโครงสร้าง สกัดเอาน้ำมันออกมา
ไขมันเลวคือเลวอยู่แล้ว ส่วนไขมันดีกินมากไปก็ไม่ดีนะครับ
ปริมาณไขมันดีที่แนะนำไม่ควรควรเกิน 10% ของแคลอรี่ต่อวันของเรา (เฉลี่ยแล้วประมาณน้ำมันเกิน 6ช้อนชา หรือประมาณ30กรัมต่อวันครับ)
ร่างกายเราต้องการปริมาณไขมันดีที่เพียงพอ เพื่อสร้างความอบอุ่น, เป็นโครงสร้างเซลล์ , เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการผลิตฮอร์โมน รวมทั้งการดูดซึมวิตามินA D E K
1
ไขมันดีจะช่วยให้รารู้สึกอิ่มไม่กินนอกมื้อ ช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วยครับ
1
ด้วยคุณสมบัติมากมายเหล่านี้จึงทำให้หลังหลายคนเข้าใจผิดกินปริมาณที่มากเกินไป จึงทำให้น้ำหนักหยุดนิ่งหรือเพิ่มขึ้นได้ เพราะไขมันที่มากเกินไปจะถูกเก็บนเป็นเซลล์ไขมัน ไขมันที่มากเกินไปจะทำคุณอ้วนขึ้นหรือน้ำหนักหยุดนิ่งได้บ่อยๆครับ
หากร่างกายขาดแคลนคาร์โบไฮเดรตจากอาหาร น้ำตาลในเลือดจะต่ำ ร่างกายก็จะเอาไกลโคเจนในตับมาเปลี่ยนเป็นน้ำตาล ส่งน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด
1
หากไกลโคเจนในตับหมดลง ร่างกายก็จะรีไซเคิลไขมันไตรกลีเซอไรด์มาแยกองค์ประกอบ เอากลีเซอรอลออกมาให้ตับผลิตเป็นน้ำตาลให้เราใช้ ( แต่ก็ไม่ใช่กลไกการสร้างน้ำตาลหลักของร่างกาย เช่นเดียวกับ การสร้างน้ำตาลจากกรดอะมิโนกลูโคจินิค)
ร่างกายมหัศจรรย์มั้ยครับ ไขมันเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ และโปรตีนก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้!
2
หรือแม้กระทั่งโปรตีนที่คุณกินเช่น โปรตีนเนื้อสัตว์ก็จะมีไขมันแอบแฝงจนทำให้ไขมันล้นเกิน ส่วนโปรตีนจากพืชก็จะมีคาร์โบไฮเดรตแอบแฝง จนทำให้ไม่ขาดแคลนคาร์โบไฮเดรต ซึ่งล้วนแล้วแต่เปลี่ยนเป็นพลังงานทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือหยุดนิ่งได้ทั้งสิ้นครับ คุณจึงต้องระวังเรื่องอาหารให้ดีดูให้ทุกมิติอ่านให้ขาด
ไม่ใช่ต้องการโปรตีนแต่ไปกินเบคอนได้ไขมันพวกมาด้วย หรือต้องการโปรตีนก็เลยดื่มนมแต่กลับได้คาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลพ่วงมาด้วย สิ่งเหล่านี้แหละครับที่ทำให้น้ำหนักคุณสวิงขึ้นๆลงๆไปต่อไม่ได้
3
เห็นมั้ยล่ะครับ ร่างกายเรามหัศจรรย์สามารถรีไซเคิลไขมันและโปรตีนมาใช้เป็นพลังงานได้ แม้เราไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาลเลย เพราะร่างกายเราผลิตน้ำตาลให้ร่างกายได้เอง โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งน้ำตาลจากอาหาร
1
น้ำตาลที่องค์การอนามัยโลกแนะนำคือไม่เกิน 24 กรัมต่อวันหรือประมาณ 6 ช้อนชา (ในคนทั่วไปที่ไม่มีปัญหาระบบเผาผลาญครับ )แต่ถ้าหากคุณกำลังลดไขมัน มีปัญหาระบบเผาผลาญ ควรกินน้ำตาลเท่ากับ 0 คุณไม่ต้องกังวลเรื่องร่างกายจะขาดน้ำตาลไม่ได้เพราะร่างกายคุณรีไซเคิลสารอาหารเปลี่ยนเป็น น้ำตาลได้ครับ
คนที่ขาดน้ำตาลไม่ได้ ไม่ใช่ร่างกายเขาต้องการน้ำตาลครับ แต่เป็นจิตใจเขาอยู่ในภาวะเสพติดน้ำตาลเขาจึงขาดน้ำตาลไม่ได้ เมื่อเขาขาดน้ำตาลไม่ได้ สุดท้ายก็จะเกิดโรคในกลุ่ม โรคNCDs เช่น
โรคเบาหวาน ความดันหลอดเลือดสมองและหัวใจ รวมทั้งมะเร็งชนิดต่างๆ เช่นมะเร็งลำไส้,กระเพาะอาหาร,เต้านมฯลฯ
1
น้ำตาลแฝงไปด้วยภัยเงียบ อันตรายกว่าที่คุณคิด มาดูกันว่าทำไมน้ำตาลถึงทำให้แก่ง่าย ตายไว อายุสั้น!
น้ำตาลเป็นสารเร่งผิวให้เหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย ก่ออนุมูลอิสระ ทำลายคอลลาเจน,อีลาสติน เกิดกระบวนการไกลเคชั่นทำลายผิวหน้าให้แลดูแก่ก่อนวัย
หากกินน้ำตาลมากๆเป็นประจำ แทนที่จะสดชื่นกลับทำให้อะมิโนทริปโตฟานเร่งเข้าสู่สมองมากไป ฮอร์โมนในสมองเสียสมดุล เกิดอาการเหนื่อย เชื่องช้า ไม่กระฉับกระเฉง ง่วง เซื่องซึมครับ
ทำให้กล้ามเนื้อเรียบรอบหลอดเลือดขยายตัว การไหลเวียนของเลือดปั่นป่วน เสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งเสี่ยงโรคหลอดเลือดต่างๆเพิ่มขึ้น เช่นหลอดเลือดสมอง,หัวใจ เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต
น้ำตาลกดภูมิต้านทานโรค ภูมิต้านทานมะเร็ง ทำให้เจ็บป่วยง่าย มะเร็งผุดง่ายครับ
ดังนั้น เมื่อคุณได้เข้าใจเรื่องเกี่ยวกับน้ำตาลมากขึ้น รู้แล้วว่าร่างกายผลิตน้ำตาลเองได้ไม่จำเป็นต้องกินน้ำตาลจากอาหาร คุณควรเริ่มหลีกเลี่ยงอาหารเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลตั้งแต่วันนี้ เท่ากับคุณลดความเสี่ยงโรคร้ายต่างๆแถมยังช่วยให้คุณแลดูอ่อนเยาว์ ผิวพรรณดีขึ้น สุขภาพดีขึ้นอีกด้วยครับ
ร่างกายของเรานั้น สามารถรีไซเคิลให้ดำรงชีวิตอยู่ได้เป็นเดือนๆแค่มีน้ำดื่ม ร่างกายสามารถรีไซเคิลจนถึงวินาทีสุดท้ายก็จะหมดลมหายใจ ตัวอย่างเช่น
2
ทุกคนคงจำน้องๆทีมหมูป่าติดถ้ำ ได้นะครับ ติดถ้ำ17วันก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องกินอะไร แค่มีน้ำดื่มก็ดำรงชีวิตอยู่ได้ แถมยังสามารถลุกขึ้นยืนพูดคุยภาษาอังกฤษกับนักดำน้ำชาวต่างชาติได้ สมองยังทำงานได้ตามปกติครับ
หากคุณเข้าใจหลักการรีไซเคิลพลังงานของร่างกาย คุณแค่จัดสารอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสมโดยไม่จำเป็นต้องอดอาหารเหมือนกับน้องๆทีมหมูป่า
แต่คุณแค่จำลองสถานการณ์บางส่วนมาใช้ในแต่ละวัน เช่น การจัดสัดส่วนอาหารที่เหมาะสม ลดพลังงาน เพิ่มสารอาหารสำคัญกินให้พอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ร่วมกับการการหยุดอาหารยาวนานแบบการทำ intermittent fasting คุณก็จะสามารถผอม น้ำหนักลดลงต่อเนื่องทุกวันไม่มีหยุดนิ่ง
หรือเพื่อนๆ เคยลองทำแล้วน้ำหนักไม่ลงต่อเนื่องสามารถใช้ทางลัด ไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ด้วยการสมัครคอร์สผอมไวไม่ใช้ยา ตามรายละเอียดด้านล่างได้นะครับ
นอกจากนี้ประโยชน์ของการทำ intermittent fasting จะช่วยเพิ่ม Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ผลิตขึ้นมาจากต่อมใต้สมอง หนึ่งในหน้าที่สำคัญคือการเร่งเผาผลาญไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้อครับ
จริงๆแล้ว Intermittent fasting เป็นศาสตร์แห่งการชะลอวัย ทำให้เซลล์ในร่างกายที่เสื่อมสภาพและไขมันที่เป็นภัยเงียบของเราถูกกำจัดออกไป
การได้พักระบบดูดซึมสารอาหารอย่างน้อย 16ชม.ขึ้นไปในแต่ละวัน ร่วมกับการทานสารอาหารสำคัญให้เพียงพอ จะทำให้เรามีสุขภาพดี อายุยืนยาว หน้าตาดูอ่อนเยาว์ลงเมื่อทำติดต่อกันในระยะยาวครับ
ในส่วนการเผาไขมันเป็นแค่ประโยชน์ข้อท้ายๆของการทำ วงการลดน้ำหนักก็เลยนำมาใช้เสริมการควบคุมอาหาร เพื่อแก้ปัญหาพฤติกรรมอ้วน เปลี่ยนตัวเองเป็นพฤติกรรมคนผอม
การเปลี่ยนพฤติกรรมจะทำให้เราผอมได้อย่างถาวร เพราะหากเรายังมีพฤติกรรมอ้วน แม้จะถึงเป้าหมายแล้ว เราจะกลับไปอ้วนอีก วนอยู่กับการลดน้ำหนักที่ไม่สิ้นสุดครับ
1
(พฤติกรรมอ้วน เช่น การกินขนมจุบจิบ การกินไม่เป็นเวล่ำเวลา การกินระหว่างมื้อ อาหารในมื้อไม่ทำให้เราอ้วน แต่เรามักจะอ้วนจากอาหารเครื่องดื่มขนมที่เราทานนอกมื้อครับ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นต้นเหตุของโรคอ้วน และโรคเรื้อรังในกลุ่มNCDs)
ในการทำ intermittent fasting จะมีการเผาไขมันเล็กน้อยในช่วงท้ายๆชั่วโมงfast หากคุณไม่คุมอาหารอาจไม่ผอมครับ สรุปแล้วการทำIFเป็นการฟื้นฟูสุขภาพ การคุมอาหารควบคู่กันไปจะช่วยให้คุณผอมลงได้ในระยะยาวครับ
(บทที่เกี่ยวกับการทำ intermittent fasting ลองย้อนหลังกลับไปอ่านที่โค้ชปกรณ์เขียนไว้ดูนะครับ)
💙ขอบคุณที่ติดตามครับ ผมโค้ชปกรณ์ สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร กูรูลดไขมันโดยไม่ใช้ยา
เพื่อนๆที่ติดตามโค้ช จะได้รับความรู้และ How to เรื่องลดน้ำหนักได้ที่นี่
🔻สำหรับเพื่อนๆที่อยากผอมไว อยากได้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้หุ่นดี ผอมถาวรตลอดไป
แนะนำใช้ทางลัด ลงคอร์สผอมไวไม่ใช้ยา หุ่นดีด้วยวิธีคุมอาหาร
-ไม่ใช้อาหารเสริม ใช้เนื้อสัตว์และผักเทคนิคที่หาซื้อง่ายตามตลาดทั่วไป
1
-น้ำหนักลดลงทุกวัน พุงยุบหน้าท้องแบนราบไวโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
-น้ำหนักหยุดนิ่งมานาน ลดยากแค่ไหน ก็ลดลงได้ตั้งแต่วันแรกที่ปฏิบัติ และลดลงต่อเนื่องทุกวันไม่หยุดนิ่งครับ
🔺️ สมัครคอร์สของไว้ไม่ใช้ยา
🔹️ราคาคอร์ส5,000บาทโปรโมชั่นพิเศษ 3,000บ ระยะเวลา 1 ปี
🔹️ราคาสุดค้มเพราะผอมจริง ลาออกจากการเป็นคนอ้วนที่นี่ได้เลย❗
🔹️ ค่าคอร์สถูกกว่าค่าขนมต่อเดือนของคุณซะอีก
🔹️เข้าคอร์สแล้วเตรียมเก็บเงินเปลี่ยนเสื้อผ้ายกตู้ได้เลย
👉อยากผอมไวทักโค้ชด่วน!
ID LINE @208hjoow
(โค้ชเทรนเอง ไม่มีแอดมินครับ)
ติดตามโค้ชทาง 4 ช่องทางนี้ครับ
Instagram : @coach_pakorn
facebook : โค้ชปกรณ์
Twitter : @cosmetic_of_p
blockdit : สอนลดน้ำหนักด้วยวิธีคุมอาหาร
https://t.co/Rui8I9FW5S
💚 โค้ชปกรณ์ "โค้ชที่ช่วยให้คุณผอมได้จริง"
💙 ขอให้เพื่อนๆพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน ขออวยพรให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนะครับ
50 บันทึก
50
8
37
50
50
8
37
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย