8 ต.ค. 2021 เวลา 23:47 • หนังสือ
เล่มนี้สอนวิธีการพัฒนาตัวเอง โดยใช้หลัก ได้รับ(ความรู้)แล้วก็ต้องเอา(ความรู้)ออกมาใช้ในทุกๆวันๆเพื่อให้เกิดประโยชน์
โดยเริ่มเรื่องจะสอนให้เราเข้าใจ คำว่า out put คือการเขียน การพูด การนำเสนอ ซึ่งถ้าเราเอาแต่อ่านหนังสือ แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้เลย = เราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แล้วอีกอย่างนะ ถ้าเรียนรู้แล้วเอามาใช้ 3 ครั้งภายใน 2 อาทิตย์ ก็จะสามารถกลายเป็นความรู้ระยะยาวได้นะ
3
ซึ่งเราควรทำ input:output ให้ได้ 3:7 เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แล้วเมื่อลงมือ output แล้ว ต้องกลับไปให้ feedback ตัวเองบ่อยๆ เพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (ถ้าทำถูกแล้วก็ฝึกที่ยากขึ้น ถ้าทำผิดไปทบทวนความรู้พื้นฐานแล้วแก้ไข)
1
เอาหล่ะ ถ้าจะเริ่ม output มีวิธีไหนบ้างนะ?
ก่อนอื่นให้มาเริ่มที่การพูด
การฟังแล้วประมวลวิเคราะแล้วพูดออกมาตามความรู้สึกตัวเองก็ทำให้มีอัตลักษณ์ไปอีกแบบ แต่ควรจะพูดในเรื่องดีมากกว่าเรื่องแย่ เพราะคนพูดแย่ๆมักจะมีปัญหาบ่อยๆ (และพาชีวิตคนพูดไปในทางลบด้วย)
ว่าด้วยเรื่องการสื่อสาร >>>คนเรามักเชื่อทุกอย่างด้วยตามากกว่าการฟัง ดังนั้นเราต้องสบสายตา อย่างน้อย 1 วินาทีในช่วงตอนสำคัญ แล้วก็ถ้าจะพูดข่าวร้ายให้เริ่มจากแง่ดีก่อน แล้วค่อยต่อด้วยข่าวร้าย (เริ่มต้นต้องทักทายแบบมีอายคอนแทกและรอยยิ้มด้วยนะ)
2
ทีนี้ หนึ่งในส่วนของการ output ที่ดี คือการตั้งคำถาม งั้นเราควรลองตั้งคำถาม แล้วไปเรียนรู้ ผลลัพธ์หลังจากนั้นคือจะดีขึ้นถึง 20% เลย
อีกอย่าง เราต้องรู้จักปฏิเสธคนอื่นด้วยนะ เราต้องเริ่มจากจัดลำดับความสำคัญ ปฏิเสธโดยไม่ลังเล ไม่เลือกปฏิบัติ และใช้เทคนิคการบอก (ขอโทษ+เหตุผล+ปฏิเสธ+ข้อเสนอ)
การ output โดยวิธีการเถียงก็ดีนะ คือจะช่วยพัฒนาให้คนรอบข้างไปในทางที่ดีด้วย และฝึกการใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ คาดการณ์คำถาม และรวบรวมคำตอบไว้ให้มาก และแสดงความเห็นเป็นคนแรกเลย
การพูดที่ดีอีกอย่างคือการให้ feedback แต่ว่าต้องเป็น feedback ในทางที่ดี และใช้วิธีตั้งคำถาม ก็ทำให้คนพัฒนาได้ต่อไป และเกิดความรู้สึกที่ดีที่อยากจะพัฒนาตัวเองด้วย
การอธิบาย ควรอธิบายเป็นเหตุการณ์ เพราะช่วยให้เราจำได้มากกว่า และควรพูดเสียงดังฟังชัด อย่างมั่นใจ พร้อมกับให้ข้อสรุปและเหตุผล อาจจะมีตัวอย่างประกอบด้วยก็ได้
อีกอย่าง ถ้าจะเอาไปใช้กับการขาย ก็ต้องเอาไปให้คนซื้อรู้สึกถึงประโยชน์ของสิ่งนั้นๆ ทำให้เห็นว่าคุณค่ามีมูลค่ามากกว่าราคา
การขอบคุณก็เป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข และมองโลกในแง่ดี ดังนั้นเราควรขอบคุณบ่อยๆ
1
ต่อไปก็เข้าสู่โหมด การ out put ด้วยการเขียน
การเขียนจะช่วยให้เราจำได้มากขึ้น ลองเขียนแทรก วาดรูปประกอบ ลองเขียนบทความ แล้วสร้าง to do list พบอะไร/คิดอะไรได้ ก็เขียนโน๊ตไว้ไม่เกิน 1 นาที (เพราะเดี่ยวลืม) และก็ฝึกสรุปความ
ทีนี้ก็มาตั้งเป้าหมายกัน โดย ตั้งเป้าหมายที่ยากนิดหน่อยก่อน แล้วกำหนดระยะเวลา มี to do list แล้วประเมินผล และจบด้วยแบ่งเป้าหมายออกมา ถ้ามันยากไป (อย่าลืม feedback ตัวเองนะ)
เอาหล่ะ เรื่องต่อไปเป็นเรื่องลงมือทำ
เราต้องลงมือทำ และทำอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ไม่ควรทำหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน เพราะจะทำให้เสียสมาธิ แต่ว่าเราควรจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำด้วย จะได้งานที่มีคุณภาพมากๆ และอาจจะตั้งเป้าหมายที่ไม่สูงมากเกินไป แต่ทำให้จบก็พอ ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน เพราะเมื่อเสร็จหนึ่งงาน งานอื่นๆก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
หลังจากที่อ่านจบแล้ว ความรู้สึกคือ สุดยอดมาก เราชอบเล่มนี้มากๆ อ่านง่าย มีภาพประกอบตลอดทั้งเรื่อง อ่านเข้าใจได้ง่านๆเลย แถมสามารถนำไปปรับใช้ได้กับชีวิตจริง ซึ่งเจ๋งมาก แนะนำให้ไปลองหามาอ่านกันนะ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายเพื่อซื้อและเวลาที่ใช้ในการอ่านมากๆ
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา