5 ต.ค. 2021 เวลา 03:54 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุปมุมมองการเข้าซื้อกองทุนต่างประเทศ
by หนีดอย ประจำวันที่ 5 ต.ค. 2021
"ตลาดหุ้นถูกกดดันจากการผิดนัดชำระหนี้
จากสัญญาณเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น
และปัญหาด้านการเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน"
3
📌 มาดูภาพรวมดัชนีจาก Investing.com
📌 ตลาดเอเชียเริ่มกันที่ ดัชนี CSI300 +0.67% ​(ที่ 4866 จุด), ดัชนี HSTECH -0.24 (ที่ 5959 จุด)
📌 ส่วนทองคำราคาอยู่ที่ 1759 ขณะที่ราคาแร่เงินอยู่ที่ 22.42 USD/Oz.
(ข้อมูลจาก investing.com/indices/major-indices)
📌 สำหรับดัชนี Fear & Greed index ล่าสุดสำหรับตลาดสหรัฐอยู่ที่ 25 (Greed < Fear) (ข้อมูลจาก money.cnn.com/data/fear-and-greed/)
📌 ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐพุ่งขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้
 
📌 ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยยังคงปรับตัวอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ โดยถูกกดดันจากสัญญาณเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวขึ้น และปัญหาด้านการเงินของบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ของจีน
📌 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.2 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,767.6 ดอลลาร์/ออนซ์
📌 สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันตามคาดในการประชุมเมื่อวานนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 1.74 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนวันที่ 11 พ.ย. 2557 สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 81.26 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 2561
📌 นางแคเธอรีน ไท่ ผู้แทนการค้าสหรัฐประณามการปฏิบัติด้านการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน และยืนยันที่จะปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐ พร้อมระบุเสริมว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อตอบโต้จีนซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก "เป้าหมายของเราไม่ใช่การสร้างความตึงเครียดทางการค้ากับจีน" นางไท่กล่าวในการปราศรัยต่อผู้ฟังที่ศูนย์การศึกษายุทธศาสตร์และการศึกษาระหว่างประเทศ
📌 เฟซบุ๊ก รวมทั้งอินสตาแกรมและ WhatsApp ซึ่งเป็นบริการในเครือของเฟซบุ๊ก สามารถกลับมาให้บริการได้อีกครั้งในช่วงบ่ายวันจันทร์ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคและทำให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งานได้เป็นเวลานานเกือบ 6 ชั่วโมง เว็บไซต์ Downdetector.com เปิดเผยว่า เฟซบุ๊ก, อินสตาแกรม และ WhatsApp ประสบปัญหาขัดข้องทางเทคนิคเมื่อเวลา 23.00 น.ตามเวลาไทยเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) ก่อนที่จะเริ่มกลับมาใช้งานได้อีกครั้งในเวลา 04.45 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ (5 ต.ค.) ซึ่งถือเป็นปัญหาระบบล่มที่กินเวลานานที่สุดนับตั้งแต่ Downdetector.com ได้รวบรวมการแจ้งปัญหาการใช้งานทั้งบนเว็บไซต์และเครือข่ายเคลื่อนที่
📌 นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า เขาได้รับการยืนยันอย่างแข็งแกร่งจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของสหรัฐที่จะปกป้องหมู่เกาะในทะเลตะวันออกหรือเซนกากุในญี่ปุ่น นายคิชิดะเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า ในการเจรจาทางโทรศัพท์เช้าวันนี้ซึ่งใช้เวลาราว 20 นาที สหรัฐและญี่ปุ่นได้ยืนยันถึงความร่วมมือในการสร้างเสรีภาพและการเปิดกว้างของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
📌 นักวิจัยจากบริษัทไฟเซอร์และไคเซอร์ เพอร์มาเนนเต้เปิดเผยผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่ไฟเซอร์พัฒนาขึ้นร่วมกับบริษัทไบออนเทคของเยอรมนี โดยระบุว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อลดลงจากเดิม 88% เหลือเพียง 47% หลังฉีดโดสสองไปได้ 6 เดือน
📌 ข้อมูลดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ Lancet หลังจากที่ได้ประกาศผลการศึกษาดังกล่าวไปก่อนหน้านี้เมื่อเดือนส.ค. แต่เป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการทบทวนโดยผู้วิจัยรายอื่น ๆ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางการสหรัฐใช้เพื่อประเมินว่าควรฉีดวัคซีนเข็มสามเพื่อกระตุ้นภูมิหรือไม่
📌 นายโจ เคมป์ โฆษกของบริษัทนอร์ทเวลล์ เฮลท์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของรัฐนิวยอร์ก ประกาศปลดพนักงานที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1,400 คน อย่างไรก็ดี พนักงานที่ถูกปลดออกนั้นคิดเป็นเพียงสัดส่วนเล็กน้อยของนอร์ทเวลล์ซึ่งมีพนักงานกว่า 76,000 คนที่ขณะนี้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว โดยการดำเนินการของนอร์ทเวลล์เป็นไปในทิศทางเดียวกับบริษัทด้านการดูแลสุขภาพรายอื่น ๆ ที่เพิ่งเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับในการฉีดวัคซีน
1
📌 ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ จะมีรายได้มหาศาลจากการจำหน่ายยาโมลนูพิราเวียร์ (molnupiravir) ที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกในขณะนี้ ทั้งนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นยาเม็ดสำหรับรักษาโรคโควิด-19 ซึ่งเมอร์คระบุว่ามีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์เดลตา และสามารถลดความเสี่ยงของผู้ป่วยโควิด-19 ในการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ถึง 50%
📌 หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) กำลังวางแผนที่จะยื่นขออนุมัติอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐสำหรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มกระตุ้น รายงานระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้กำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาในวันที่ 15 ต.ค. เพื่อหารือว่าจะอนุญาตให้ใช้วัคซีนเข็มกระตุ้นของจอห์นสันฯ ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ปัจจุบันมีชาวอเมริกันกว่า 15 ล้านรายได้รับวัคซีนของจอห์นสันฯ ประเภทฉีด 1 โดส ก่อนหน้านี้ FDA ได้อนุมัติการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ของไฟเซอร์-ไบออนเทคสำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ตลอดจนผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคร้ายแรง และผู้ที่มีโอกาสสัมผัสกับไวรัสเป็นประจำ
📌 ส่วนบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ได้ยื่นเรื่องเพื่อขออนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 เมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีนและผลิตภัณฑ์ชีวภาพที่เกี่ยวข้องจะจัดการประชุมในวันที่ 14 ต.ค. เพื่อหารือประเด็นดังกล่าว
📌 นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อย จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.78 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์แข็งค่าจากแรงซื้อ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อของสหรัฐ หลังจากราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งอาจเป็นแรงหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
📌 บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสม" นักบริหารเงินกล่าว ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.70-33.85 บาท/ดอลลาร์
📌 ปัจจัยที่ตลาดติดตาม ได้แก่ ดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และตัวเลขจ้างงาน นอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. ของสหรัฐฯ
Cr. สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
💵Lists กองทุนใน Watchlists ทั้งหมดที่น่าสนใจ (โปรดอ่านหมายเหตุด้านล่างประกอบ)
1 ASP-DISRUPT 💵💵💵
2 ASP-EUG 💵💵💵
3 ASP-EVOCHINA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
4 ASP-JHC 💵💵💵
5 ASP-ROBOT 💵💵💵
6 B-Bharata
7 B-GTO 💵💵💵
8 B-INNOTECH 💵💵💵
9 BCAP-CLEAN 💵💵💵
10 BCAP-CTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
11 BCARE 💵💵💵
12 K-CHANGE-A 💵💵💵
13 K-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
14 K-HIT 💵💵💵
15 K-USA-A 💵💵💵
16 K-USXNDQ-A 💵💵💵
17 K-WORLDX 💵💵💵
18 KF-EUROPE 💵💵💵
19 KF-GTECH 💵💵💵
20 KF-ORTFLEX
21 KF-US 💵💵💵
22 KFCMEGA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
23 KFGBRAND-A 💵💵💵
24 KFHTECH-A 💵💵💵
25 KFINFRA-A
26 KT-ASHARES-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
27 KT-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
28 KT-EURO/K-EUSMALL 💵💵💵
29 KT-PRECIOUS 💵💵💵
30 KT-WTAI-A 💵💵💵
3
31 LHCYBER-A 💵💵💵
32 LHESPORT-A / WE-PLAY 💵💵💵
33 LHINNO-A 💵💵💵
34 LHMOBILITY 💵💵💵
35 M-EM 💵💵💵
36 MATECH-A 💵💵💵
37 MFTECH 💵💵💵
38 ONE-DISC-RA 💵💵💵
39 ONE-GECOM 💵💵💵
40 ONE-UGG-RA 💵💵💵
41 P-CGREEN 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
42 PRINCIPAL GCLEAN-A 💵💵💵
43 PRINCIPAL GCLOUD-A 💵💵💵
44 PRINCIPAL GHEALTH-A 💵💵💵
45 Principal VNEQ-A
46 PWIN 💵💵💵
47 SCBDJI(A) 💵💵💵
48 SCBGOLD (แบบไม่ Hedge) 💵💵💵
49 SCBGOLDH (แบบ Hedge) 💵💵💵
50 SCBKEQTG 💵💵💵
51 SCBNK225 💵💵💵
52 SCBS&P500 💵💵💵
53 SCBSEMI 💵💵💵
54 SCBUSSM 💵💵💵
55 T-ES-GGREEN 💵💵💵
56 T-ES-GINNO / TMB-ES-GINNO 💵💵💵
57 T-GLOBALENERGY / MRENEW 💵💵💵
58 T-Premium Brand 💵💵💵
59 TBIOTECH 💵💵💵
60 TCHCON 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
3
61 TCHTECH-A / SCBCTECHA 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
62 TCLOUD 💵💵💵
63 TGENOME 💵💵💵
64 TGHDIGI 💵💵💵
65 TMB-ES-AUTOMATION 💵💵💵
66 TMB-ES-CHINA-A 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
67 TMB-ES-STARTECH 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
68 TMBAGLF 💵💵💵
69 TMBCOF 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
70 TMBGQG 💵💵💵
71 TMBWDEQ 💵💵💵
72 TNEWENGY 💵💵💵
73 TNEXTGEN / WE-CYBER 💵💵💵
74 UCHI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
75 UCI 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
76 UEDTECH 💵💵💵
77 UEV
78 WE-CANB, MCANN 💵💵💵
79 WE-CHIG 🇨🇳🇨🇳🇨🇳
80 WE-GOLD 💵💵💵
81 WE-TENERGY / SCBCLEANA 💵💵💵
3
📌หมายเหตุ : หลังจากทางการจีนได้ลงดาบบริษัทกลุ่มการศึกษาในประเทศทั้งหมดที่ครอบคลุมระดับ K-12 ให้เปลี่ยนเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร และมีเงื่อนไขข้อจำกัดในการระดมทุนต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียกับเด็กในระยะยาว และเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายทางบ้านที่ทำให้อัตราการเกิดของประชากรจีนน้อยลงจากค่าเรียนกวดวิชา ทำให้พื้นฐานหุ้นกลุ่มนี้เปลี่ยนไปถาวร โดยได้รับการยืนยันจากทางการในวันที่ 25 ก.ค. 2021 ยังไม่รวมถึงที่ทางการจีนเข้ามามีบทบาทการควบคุมบริษัทเทค ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแง่การผูกขาด หรือ ความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเป็นความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลให้มีการถอดแอพไม่ให้ผู้ใช้งานใหม่สามารถ Download ได้ เช่น Didi Global ที่ทำการ Listing ในตลาดสหรัฐฯ โดยไม่มีกำหนดว่าระยะเวลาการตรวจสอบหรือคุมเข้มในหลายๆอุตสาหกรรมจะสิ้นสุดเมื่อไหร่
ภายหลังรัฐบาลจีนออกกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมธุรกิจภาคการศึกษาในวันที่ 24 ก.ค. ได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงในช่วงที่ผ่านมา โดยรายงานจาก Bloomberg เผยว่าหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลักทรัพย์ในจีนจัดการประชุมด่วน ในวันที่ 28 ก.ค. 2021 หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนัก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการผ่อนคลายความกังวลที่เกิดขึ้น เกิดสัญญาณที่ดีต่อตลาดหุ้นจีนในระยะสั้น ที่เข้ามาช่วยลดความกังวลจากรัฐบาลจีนที่อาจกระจายการควบคุมไปยังอุตสาหกรรมอื่น
ทางผู้เขียนจึงขอแบ่งออกเป็น 3 แนวทางในการลงทุนหุ้นจีนจากนี้เป็นต้นไป ดังนี้
1. ยังคงถือต่อ เนื่องจากทางผู้จัดการกองทุนน่าจะมีการลดหุ้นกลุ่มการศึกษาหรือกลุ่มเสี่ยงออก หลังจากทุกอย่างคลี่คลาย ระยะยาวน่าจะส่งผลดี
2. ลดสัดส่วนหรือรินขายออก เนื่องจากหากมีเหตุการณ์ลงดาบแบบนี้ทำให้ธุรกิจกลุ่มนี้แทบตอกฝาโลง ก็เป็นไปได้ว่าจะมีอีกหลายธุรกิจที่จะตามมา เพื่อทำให้ค่าใช้จ่ายของประชาชนลดลง เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้มากขึ้นได้ในครอบครัว
3. ทยอยซื้อเพิ่ม เพราะเป็นโอกาสดีที่หุ้นพื้นฐานดี ราคาลงมาพอสมควรแล้ว และมองว่า ทางการจีนไม่น่าลงดาบหนักๆ ในอุตสาหกรรมอื่นแบบนี้
💵💵💵 คือ น่าทยอยสะสมวันนี้ หากใครอยากทยอยลงทุน
🇨🇳🇨🇳🇨🇳 คือ น่าทยอยสะสมสำหรับกลุ่มกองทุนจีนกรณีที่เราอยู่ในข้อ 3 ของหมายเหตุ
💵หรือหากใครคิดว่าการดีดขึ้นมามากในรอบนี้ จะถือโอกาสขายหรือสับเปลี่ยนกองเพื่อลดสัดส่วนหุ้นเทคฯ ก็ทำได้ตามแผนการที่เราตั้งใจไว้ได้เช่นกันครับ
📌โดยทองคำมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1660, 1680, 1700, หรือ 1730 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
1
📌กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1775, 1800, 1840, 1890, 1900, หรือ 1920 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💵สำหรับทองคำผมได้ทำคลิปมุมมองทองคำเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 ต.ค. 2021) ในแง่ของปัจจัยทางกราฟเทคนิค และปัจจัยพื้นฐาน สำหรับใครที่อยากดูรายละเอียดคลิกได้เลยที่ https://www.blockdit.com/posts/61597aaa7097d50ca491d338
💵คำแนะนำการขายสำหรับคนที่ต้องการรินกำไรขายออกบ้างหรือจะขายทั้งหมดก็ตาม โดยผมใช้ RSI ที่เกิน 70 ในตัว ETF ที่เป็นกองแม่ของกองทุนนั้นๆ หรือแยกดูเป็นหุ้นรายตัว พบว่ามี RSI เกิน 70 มากกว่าครึ่ง หรือ ดัชนีอยู่ใกล้แนวต้านเดิม พบว่ามีกองที่เริ่มน่าขายรินกำไรออกได้ ได้แก่
1. กองทุนอินเดีย
2. กองทุนดัชนี Nasdaq เช่น K-USXNDQ-A
3. กองทุนดัชนี S&P 500 เช่น SCBS&P500
4. กองทุนทั่วโลก : TMBGQG/K-WORLDX, B-GTO หรือ กองทุนที่เน้นหุ้นใหญ่อย่าง Microsft, Facebook
5. UEV
6. ONE-UGG-RA, K-CHANGE-A, K-HIT (คนที่ซื้อกลางพ.ค.)
7. KFGBRAND-A
8. กองทุนหุ้นสหรัฐ Mid-small caps : SCBUSSM, ABAGS
9. กองทุน Tech เช่น B-INNOTECH, KF-GTECH, KFHTECH-A
10. กองทุนหุ้นสหรัฐ เช่น K-USA-A, KF-US, SCBUSAA
11. กองทุนยุโรป เช่น ASP-EUG, KF-EUROPE, KT-EURO/K-EUSMALL
12. Cloud computing เช่น Tcloud, Principal Gcloud-A
13. กองทุนญี่ปุ่น เช่น ASP-JHC, SCBNK225
2
สำหรับการขายเหมาะกับคนที่ได้กำไรมาเยอะแล้ว 25% ขึ้นไป สามารถรินกำไรออกได้ครับ (ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ลงทุนพิจารณา ไม่ต้องถึงกับ 25% ก็ได้ครับ)
📌สำหรับข้อมูลข้างต้น เหมาะกับคนอยากจับจังหวะการลงทุน หากใครมีแผนทำ DCA ซื้อทุกๆเดือนอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องดูส่วนนี้นะครับ ให้ทำตามวินัยเดิมที่ตั้งใจไว้ได้เลยครับ
📌หมายเหตุ ความเห็นข้างต้น เป็นการใช้กราฟเทคนิคดูจุดเข้าซื้อ ไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง 100% เพราะซื้อแล้ว ราคาอาจย่อลงได้กว่าเดิม และการซื้อกองทุนก็ไม่ได้ราคา Real time ตามหน้าหุ้นนั้นๆครับ
🌟 มุมมองดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก By หนีดอย
DOW JONES, S&P500, NASDAQ, RUSSELL2000
CSI300, HSI, HSTECH, KOSPI
NIKKEI225, SENSEX, SET, VN30, STOXX50, STOXX600
ประจำวันที่ 2 ต.ค. 2021 https://www.blockdit.com/posts/6158613f09e7780ca863876e
🌟 Series : Review Tiger Broker โบรคเกอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผม เมื่อต้องการลงทุนหุ้นต่างประเทศ :
🌟 Clip มุมมอง Cryptocurrency | By หนีดอย
BTC, ETH, XRP, BNB, ADA, LTC, DOGE, SOL
ประจำวันที่ 3 ต.ค. 2021 : https://www.blockdit.com/posts/6159c2933d4d760c9a618969
🌟 แจกตาราง “กองทุน” 622 กองทุน (อัพเดท 31 ก.ค. 2021)
ครอบคลุม SSF, RMF, PVD จัดเป็นทั้งหมด 18 กลุ่ม ดังนี้
1. Money Market
2. Healthcare
3. Global
4. China
5. US
6. Asia Ex.Japan
7. ASEAN
8. Gold & Mining
9. Commodities
10. REITs
11. Emerging Markets
12. Europe
13. Japan
14. South Korea
15. India
16. Vietnam
17. Technology
18. Oil
ปล. การจัดทำตารางนี้อาจมีไม่ครบทุกกองในประเทศไทย
พิเศษ!!! เพียงกด Like และกด Share โพส เปิด Public
 พร้อมแคปภาพเพื่อรับไฟล์ตารางกองทุน เป็น Excel
แล้วส่งภาพมาทาง Inbox ทาง FB Fanpage หนีดอยได้เลย...
โดยทางไฟล์จะสามารถคลิกที่ชื่อกองทุน
แล้วลิงค์ไปยังรายละเอียดกองทุนแต่ละกองได้
2
ติดตามหนีดอยได้ที่
📌Telegram - t.me/needoy
📌Line (openchat) - https://bit.ly/lineneedoy
📌Spotify : spoti.fi/2NLRVBK
📌Apple Podcast : apple.co/3pC8Gwh
📌 คัมภีร์หนีดอย ใน 20 ชั่วโมง ที่สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหานักลงทุนที่อยากรู้ว่าเราควรรู้อะไรในการลงทุนทุกสินทรัพย์ สามารถเลือกเรียนหัวข้อที่สนใจได้ เช่น อยากเข้าใจกราฟ เรียนแต่หัวข้อที่ 4 แต่ถ้าต้องการรู้หมดทุกศาสตร์ อยากลงทุนแบบจริงจัง 20 ชั่วโมงที่ว่านี้จะทำให้เข้าใจภาพรวมทั้งหมด
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทั้งหมดได้ที่ www.blockdit.com/posts/60b1da0997d8a40c5a2e4809
📌 เพียง 200 บาทต่อ 1 ชั่วโมง เท่านั้น!!!
สนใจติดต่อรายละเอียดได้ที่ Line : cescassawin
โฆษณา